เรื่องดอกๆ บอกฟรีเบิร์ด 10 ดอกไม้สะพรั่งบานในต่างแดน
ดอกไม้มักจะถูกใช้เป็นสัญลักษณ์แทนความหมายในเรื่องต่างๆมากมาย ที่เห็นกันบ่อยๆก็เรื่องราวของความรักที่มักจะนำดอกไม้มาใช้เป็นสื่อกลางบอกความรู้สึกให้กันและกัน
ถ้าขึ้นชื่อว่าดอกไม้ไม่ว่าจะเป็นประเทศไหนๆก็สวยงามไม่แพ้กัน แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าการมีโอกาสได้เห็นดอกไม้หน้าตาแปลกแตกต่างจากบ้านเรามันช่วยกระตุ้นต่อมความสุขได้ไม่น้อย ฟรีเบิร์ด ทราเวิล แอนด์ ทัวร์ ชวนออกท่องโลกไปชมดอกไม้ ชมอย่างเดียวไม่เด็ดเพราะมันจะสะเทือนถึงดวงดาว ...เกี่ยวอะไรกัน...ประเทศไหนเขามีดอกอะไรกันบ้างไปดูกันครับ
1. ดอกแจคกาเรนด้า(Jacaranda) ประเทศแอฟริกาใต้
นอกจาก Game Drive หนึ่งในกิจกรรมต้องห้ามพลาดเมื่อมาเยือนแอฟริกาเพื่อเสาะหาบรรดาเหล่า The Big 5 คลิกอ่าน ทัวร์แอฟริกาใต้ ตะลุยซาฟารีตามล่าหา Big 5 แล้ว ที่ประเทศแห่งนี้ เมื่อเข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิ ช่วงประมาณเดือนตุลาคม - พฤศจิกายน ทั่วทั้งเมืองพริทอเรีย(Pretoria) เมืองหลวงของประเทศ จะเป็นแหล่งรวมของบรรดาดอกแจคกาเรนด้า(Jacaranda) จะนัดกันออกดอกผลิบาน ทั่วทั้งเมืองที่ถูกปกคลุมไปด้วยสีม่วงที่จะสะกดสายตาคุณให้หยุดนิ่งกับความสวยงามนี้ ลมอ่อนๆ ที่พัดมากระทบกับตัวดอกไม้ทำให้ดูมีชีวิตขึ้น ลมที่มากระทบกับร่างกายเราก็ทำให้ดูสดชื่นกับอากาศอันบริสุทธิ์เป็นเมืองที่น่านำความเหนื่อยล้า ความทุกข์ ความเศร้ามาทิ้งไว้ แล้วรับอ้อมกอดความสุขสบายจากต้นแจคกาเรนด้าที่รายล้อมทั่วบริเวณของตัวเมือง
2. ดอกมัสตาร์ด(Mustard) เมืองหลอผิง ประเทศจีน
ณ ประเทศจีนแผ่นดินใหญ่ ในมณฑลยูนนาน(Yunnan) ที่เมืองหลอผิง(Luoping) มีทุ่งดอกไม้อันกว้างใหญ่ ถูกแสงอาทิตย์สาดส่องลงมากระทบกันเกิดเป็นสีทองอร่ามงามตาราวกับไปยืนอยู่บนกองทองคำ เจ้าดอกสีเหลืองนี้ก็คือดอกมัสตาร์ด หรือที่ชาวจีนเรียกว่า ดอกอิ๊วใช่ฮัว ช่วงประมาณเดือนกุมภาพันธ์ไปจนถึงเดือนมีนาคม ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศของแต่ละปี บรรดาต้นมัสตาร์ดจะทยอยแข่งกันออกดอกบานสะพรั่งทั่วบริเวณทุ่งกว้าง พื้นที่แห่งนี้ได้ถูกเนรมิตกลายเป็นทุ่งสีเหลืองทองระยิบระยับโดนใจสำหรับนักลั่นชัตเตอร์แน่นอน แนะนำกันช้ำใจนะครับว่าให้ไปช่วงต้นๆ ที่ดอกมัสตาร์ดนี้ออกดอก เพราะหากไปในช่วงท้ายๆดอกมัสตาร์ดเหล่านี้อาจจะเหี่ยวเฉา ร่วงโรยตามกาลเวลา แล้วจะพลาดวิวสีเหลืองทองอร่ามกันได้
3. ดอกกุหลาบ(Rose) ประเทศบัลแกเรีย
พูดถึงเรื่องความรัก แน่นอนว่าดอกกุหลาบเป็นสัญลักษณ์แทนความรักได้ชัดที่สุด และถ้าพูดถึงเรื่องดอกกุหลาบก็ต้องโฟกัสไปที่ประเทศบัลแกเรีย เพราะประเทศนี้มีการจัดงาน เทศกาลดอกกุหลาบ ประเทศบัลแกเรีย ที่เมืองคาซานลัค ที่นี่ขึ้นชื่อว่าเป็นแหล่งปลูกกุหลาบที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ ช่วงเวลาที่ดอกกุหลาบเริ่มออกดอกผลิบานคือประมาณปลายเดือนพฤษภาคม-กลางเดือนมิถุนายน และในสัปดาห์แรกของเดือนมิถุนายนจะมีงานเทศกาลดอกกุหลาบ มีผลิตภัณฑ์จากดอกกุหลาบคุณภาพดีที่นำมาจัดแสดงให้ชม และเลือกซื้อ มีการประกวดสาวงามประจำเมืองเป็นมนต์เสน่ห์เรียกให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาชมทุกปี
4. ดอกซากุระ(Sakura) ประเทศญี่ปุ่น
ดินแดนอาทิตย์อุทัยหรือแดนปลาดิบอย่างประเทศญี่ปุ่นนับเป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางของผู้คนจากทั่วโลก มีหลายเหตุผลที่ทำให้มีผู้คนหลั่งไหลเข้ามาเที่ยวยังแดนปลาดิบแห่งนี้ หนึ่งในหลายๆเหตุผลก็คงหนีไม่พ้นการมาพักผ่อนหย่อนใจชื่นชมความสวยงาม และเพลิดเพลินไปกับสายลมอ่อนๆ ใต้ต้นซากุระนั่นเอง ความงดงามของดอกซากุระที่ญี่ปุ่นนั้นถูกยอมรับโดยทั่วกันจากบรรดานักท่องเที่ยว และชาวญี่ปุ่นเอง
จากประเพณีที่มาตั้งแต่สมัยโบราณของญี่ปุ่นมาสู่ปัจจุบันถูกนับเป็นเทศกาลที่รวบรวมผู้คนจากทั่วโลกให้หลั่งไหลเข้ามาในช่วง เทศกาลชมดอกซากุระ ที่เรียกว่า “ฮานามิ” ซึ่งหมายถึงการชมความงามของดอกไม้ การมาชมดอกซากุระบานจะเกิดขึ้นในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ประมาณเดือนมีนาคม-เดือนเมษายน ซึ่งเจ้าซากุระมีช่วงเวลาในการบานสะพรั่งพร้อมกันทั้งต้นเพียงหนึ่ง หรือสองสัปดาห์เท่านั้นนะอย่าไปผิดช่วงกันทีเดียว ท่านใดหลงไปช่วงฤดูใบไม้ร่วงแล้วล่ะก็แน่นอนท่านต้องพลาดกับภาพของดอกซากุระสีชมพูหวานๆ แต่ได้เห็นภาพของใบไม้เปลี่ยนสีแทน เพราะฉะนั้น หากอยากชมดอกซากุระให้ไปช่วงฤดูใบไม้ผลิ ย้ำว่าฤดูใบไม้ผลิช่วงเดือนมีนาคมไปจนถึงเมษายน สถานที่ในการชมดอกซากุระนั้นสามารถเดินทางไปชมได้ทั่วประเทศญี่ปุ่นเลย แตกต่างในเรื่องของระยะเวลาในการบานของเจ้าดอกซากุระ ซึ่งจะผลิบานจากทางตอนใต้ไล่ขึ้นไปทางตอนเหนือของประเทศ สถานที่ยอดฮิตมักจะเป็นบริเวณปราสาท ความยิ่งใหญ่อลังการของปราสาทผสมรวมกับความสวยงามของดอกซากุระงามสุดๆ หรือบริเวณสวนสาธารณะ หรือบางศาลเจ้าของญี่ปุ่นก็เป็นจุดชมซากุระที่สวยไม่แพ้กัน จากสีสันของดอกซากุระสร้างความทรงจำให้นักท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี ...ดอกซากุระไม่ได้มีแค่ในประเทศญี่ปุ่นเท่านั้น ที่เกาหลีใต้ก็มีนะตามไปดูจุดชมซากุระในเกาหลีใต้กันครับ
5. ดอกลาเวนเดอร์(Lavender) เมืองโพรวองซ์ ประเทศฝรั่งเศส
ประเทศฝรั่งเศสดินแดนแห่งน้ำหอม และแหล่งผลิตไวน์เลิศรส เป็นประโยคที่หลายๆท่านมักจะคุ้นหู แต่ทราบไหมว่าประเทศฝรั่งเศสนอกจากน้ำหอม หรือไวน์ที่ขึ้นชื่อแล้ว ณ แคว้นโพรวองซ์(Provence) ดินแดนทางตอนใต้ของฝรั่งเศส มีชื่อเสียงในเรื่องของหมู่บ้านน่ารัก และอีกไฮไลท์สำคัญที่จะมัดใจนักเดินทางก็คือ ความสดใสจากทุ่งดอกลาเวนเดอร์(Lavender) นับเป็นจุดถ่ายรูปให้นักท่องเที่ยวยืนเฉิดฉายกลางทุ่งสีม่วงมองไปจนสุดลูกหูลูกตา ช่วงเวลาที่เหมาะจะไปหามวลหมู่ความม่วงก็จะเป็นช่วงกลางเดือนมิถุนายนไปจนถึงกลางเดือนสิงหาคม ซึ่งช่วงระยะเวลาดังกล่าวอาจจะไม่แน่นอนโดยจะแตกต่างกันไปตามสภาพอากาศ แต่ละเมือง แต่ละพื้นที่ โดยปกติแล้วการมาชมความม่วงของดอกลาเวนเดอร์จะเป็นช่วงหน้าร้อนของประเทศฝรั่งเศสนั่นเองครับ ส่วนสถานที่ชื่นชมความม่วงที่อบอวลไปด้วยกลิ่นหอมละมุนก็ต้องเป็นที่ Luberon, Sault และจุดยอดฮิตอย่าง Valensole ซึ่งทั้งหมดนี้อยู่ในแคว้นโพรวองซ์ทั้งหมดเลย
6. ดอกทานตะวัน(Sunflowers) แคว้นทัสคานี ประเทศอิตาลี
หลายท่านอาจจะไม่คุ้นกับแคว้นทัสคานี(Tuscany) หรือแคว้นทอสคานา(TUSCANY) แต่หากจะบอกว่าแคว้นแห่งนี้เป็นที่ตั้งของหอเอนปิซ่าอันเลื่องชื่อทุกท่านคงอ๋อกันเลยว่าเรากำลังไปอยู่ที่ประเทศอิตาลี ที่แคว้นทัศคานีแห่งนี้มีดอกไม้สีเหลือง ที่จะหันหน้าเข้ารับแสงจากดวงอาทิตย์พระเอกของแคว้นแห่งนี้ก็คือ ทุ่งดอกทานตะวัน นั่นเอง เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมชิลๆ ฟินๆ กับการขับรถไปตามถนนทั่วแคว้นทัสคานี ชมความงดงามของทุ่งทานตะวันที่ชาวเมืองนิยมปลูกกัน จินตนาการถึงตอนขับรถชิลๆ แวะจอดข้างทางเซลฟี่คู่กับทุ่งทานตะวันที่หันหน้าไปหาแสงอาทิตย์อ่อนๆ จังหวะนี้บอกเลยว่าฟิลเตอร์ไม่ต้อง กล้องสดล้วนๆ เลย สำหรับท่านไหนเริ่มจากจะไปชิล และสัมผัสกับความตระการตาของทุ่งทานตะวันที่แคว้นทัสคานีแห่งนี้ แนะนำมาในช่วง เดือนมิถุนายน - เดือนสิงหาคม เจ้าทานตะวันช่อเล็กช่อน้อยกำลังรอท่านอยู่รับรองไม่ผิดหวังแน่นอน
7. ดอกทิวลิป(Tulip) ประเทศเนเธอร์แลนด์
ดอกทิวลิปหลากสีสันสวยสดงดงามบวกกับทิวทัศน์ของประเทศแห่งกังหันลมอันใหญ่โต อย่างประเทศเนเธอร์แลนด์ นับเป็นซิกเนเจอร์ และหามีโอกาสได้มาชื่นชมกับเทศกาลดอกทิวลิป ณ สวนเคอเคนฮอฟ(Keukenhof) ทุกๆช่วงปลายเดือนมีนาคมจนถึงปลายเดือนพฤษภาคม หรือขึ้นอยู่กับสภาพอากาศในแต่ละช่วงเวลา บรรยากาศของสวนดอกทิวลิปจะถูกจัดตกแต่งอย่างประณีต เทศกาลชมดอกทิวลิป ณ สวนแห่งนี้ 1 ปี มีครั้งเดียว หากพลาดแล้วต้องรออีก 1 ปี การรออะไรบางอย่างให้ความรู้สึกนานมาก เพราะฉะนั้น หากใครอยากไปฟินบนทุ่งทิวลิปสีสันสดใส วางแพลนกันได้แล้วครับ คลิกอ่าน Keukenhof ความอลังแบบสวยๆที่เนเธอร์แลนด์
8. ดอกโบตั๋น(Peony) ลั่วหยาง ประเทศจีน
ณ ดินแดนมังกร ประเทศจีน มีเทศกาลดอกไม้ชนิดหนึ่งที่จัดขึ้นเพียงปีละครั้ง โดยเจ้าดอกไม้พระเอกของเทศกาลนี้ครองฉายาราชาแห่งดอกไม้นั่นก็คือ ดอกโบตั๋น ด้วยลักษณะที่โดดเด่นของเจ้าดอกโบตั๋นที่มีความแตกต่างจากดอกไม้อื่นๆ ตรงที่ ก้านจะมีใบใหญ่ 3 ใบ ในใบใหญ่แต่ละใบจะมีใบเล็กๆ แตกออกมาอีก 3 ใบ นับรวมแล้วมีทั้งหมด 9 ใบ ซึ่งเป็นเลขมงคลสำหรับชาวจีน ดอกโบตั๋นจึงแสดงถึงความมั่งคั่ง และเป็นที่นิยมมากในประเทศจีน โดยเฉพาะในเมืองลั่วหยางศูนย์กลางการปลูกต้นดอกโบตั๋น และเป็นเมืองที่มีการจัดเทศกาลชมดอกโบตั๋น ช่วงเวลาต้นเดือนเมษายน-ต้นเดือนพฤษภาคม ซึ่งถูกนับให้เป็นเทศกาลชมดอกโบตั๋นที่สวยงามที่สุด ด้วยธรรมชาติดอกโบตั๋นจะเริ่มออกดอก และบานในช่วงเดือนเมษายน โดยแต่ละดอกมีช่วงเวลาในการผลิบานราว 7-10 วัน นอกจากความสวยงามของลักษณะกลีบดอกทั้ง 9 แล้ว สีสัน และกลิ่นหอมนวลๆ ของดอกโบตั๋น ประกอบกันอย่างลงตัว และงดงามสะกดสายตามนุษย์อย่างเราๆ
9. ดอกวิสทีเรีย(Wisteria) ฟุกุโอกะ ประเทศญี่ปุ่น
ไปสัมผัสกับอุโมงค์ดอกไม้ที่มีเฉดสีนวลๆ ชวนฝันอย่างกับกำลังเดินผ่านทางเชื่อมไปสวรรค์กับแก๊งวิสทีเรีย ดอกไม้สีนวลเนียนตา ห้อยระย้า ดูละมุนละไม ในช่วงปลายเดือนเมษายน-กลางเดือนพฤษภาคม หรือฤดูใบไม้ผลิ
ณ เมืองคิตะติวชู (Kitakyushu) จังหวัดฟุกุโอกะ ประเทศญี่ปุ่น มีอุโมงค์ดอกวิสทีเรียที่ได้รับการกล่าวขานว่าสวยงามสุดๆ นั่นคือ คาวาจิ ฟุจิ การ์เด้น (Kawachi Fuji Garden)
อุโมงค์นี้มีสีสัน และเฉดสีที่แตกต่างกันด้วยดอกไม้กว่า 22 สายพันธุ์ ม่วงบ้าง เหลืองบ้าง ชมพูบ้าง ขาวบ้าง โรยตัวห้อยระย้าสลับกันไปตลอดทางผสมรวมกับกลิ่นหอมของดอกวิสทีเรียฟินสุดๆ อีกทั้งความเป็นอุโมงค์ก็ยังให้ความรู้สึกเหมือนถูกโอบกอดจากดอกวีสทีเรีย
10. ดอกไฮเดรนเยีย(Hydrangea) เมืองดาลัด ประเทศเวียดนาม
เอาใจชาว Flowerlism โซนเอเชียใกล้บ้านเรา บินไปที่เมืองดาลัท(Dalat) ประเทศเวียดนามกัน ไฮไลท์ที่ใครๆ มาเยือนดาลัดแล้วต้องมีภาพถ่ายคู่กับวิวทัวทัศน์ท่ามกลางดอกไฮเดรนเยีย สีออกม่วงปลายน้ำเงิน หรือน้ำเงินปะแล่มๆ แปลกตาแต่สวยงามบาดใจทีเดียว แหล่งรวมดอกไฮเดรนเยียต้องยกให้สวนที่ชื่อว่า Garden Hydrangeas ที่นี่มีลักษณะเป็นขั้นบันไดลดหลั่นกันไปเป็นรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่เข้ากันกับเหล่าดอกไฮเดรนเยีย และความดีงามของดอกไม้ชนิดนี้คือเป็นดอกไม้ที่จะบานตลอดทั้งปี แต่ช่วงยอดฮิตที่ดอกไม้กำลังบานเต็มที่ สะพรั่งสุดๆ แนะนำเป็นช่วงปลายปีนั่นเอง
เป็นอย่างไรกันบ้างครับคงจะถูกใจสำหรับชาวดอกไม้ Flowerlism กันไม่มากก็น้อย ชอบดอกอะไรอยากไปตอนไหนวางแผนได้เลย หรือจะมาปรึกษาฟรีเบิร์ดทัวร์ก่อนก็ได้นะครับ อย่างที่บอกไปข้างต้น เรื่องดอกๆ บอกฟรีเบิร์ด ให้เรานำท่านไปเพลิดเพลิน ปลดปล่อยความเหนื่อยล้า เซลฟี่กับทุกดอกไม้นานาพันธุ์ตามที่ชอบกัน
- หากบทความนี้ดีต่อใจ ชวนคนที่คุณรักมาเที่ยวกับฟรีเบิร์ดทัวร์กันค่ะ -
สนใจโปรแกรมทัวร์ต่างประเทศคลิกที่นี่
คุยกับครอบครัวฟรีเบิร์ดทัวร์
โทร.02-0488-785-7 Hotline 085-151-1000 , 094-782-6888 และ 093-570-3000