11 Landscape สุดแปลกกระแทกใจ

 

         

 

ฟรีเบิร์ดทัวร์ 11 Landscape สุดแปลกกระแทกใจ

 

ฟรีเบิร์ดทัวร์ชวนไปเที่ยว 11 Landscape สุดแปลกกระแทกใจ ที่จะทำให้ต่อมการเดินทางของคุณทำงานอย่างรวดเร็ว จะมีที่ไหนกันบ้างตามไปดูกัน

 

1. ภูเขาสีรุ้ง แห่งเทือกเขาอินดีส ประเทศเปรู (Rainbow Mountain | Peru)


เคยจินตนาการกันบ้างไหม อยากจะลองสัมผัสกับสายรุ้งที่โค้งลงมาเป็นสะพานเหมือนในนิยายที่มักจะเขียนให้อีกฝั่งของสะพานเป็นดินแดนที่สวยงาม แต่เดี๋ยวก่อน หากคุณได้รู้จักกับสถานที่แห่งนี้ จินตนาการและเรื่องเล่าในนิยายจะเป็นเรื่องจริงขึ้นมาเลย


ภูเขาสีรุ้ง  เป็นความมหัศจรรย์ สุดแปลกตาโดยเป็นผลงานของธรรมชาติ ที่สรรสร้างมาให้ล้วนๆ ณ ประเทศเปรู ขึ้นชื่อเป็นสถานที่อันซีนอีกแห่งหนึ่ง การได้ไปถึงประเทศเปรูนอกจากจะไปชมความสวยงามของมาชูปิกชู Machu Picchu เมืองสาบสูญแห่งอินคาแล้ว อย่าลืมแวะไปยืนโพสต์ท่าเท่ๆ บนภูเขาสีรุ้ง ลั่นชัตเตอร์รัวๆ แล้วโพสต์ข้อความเก๋ๆกัน

ภูเขาสีรุ้ง หรือบางคนเรียกภูเขาสายรุ้ง (Rainbow Mountain) แห่งเปรู มีดีกรีความสูงเหนือระดับน้ำทะเลกว่า 5,000 เมตร (ร้องโหดังๆ) สาเหตุที่ภูเขาแห่งนี้มีสีสันเหมือนสายรุ้งนั้นเกิดจากการทับถมของแร่ธาตุต่างๆ และทรายแดงเป็นเวลานานนับหลายล้านปีจนเกิดเป็นสภาพของภูมิทัศน์สุดแปลกตากระแทกใจ มาถึงภูเขาสายรุ้งนอกจากความสวยแปลกตาที่ทำให้นักท่องเที่ยวต้องตะลึงแล้ว ที่นี่คุณจะได้พบกับเซเลปการท่องเที่ยวของเปรูอย่างเจ้าลามาด้วยนะ ลามาหน้าตาเป็นอย่างไรเราจะพบเห็นเจ้าตัวนี้ได้ที่ไหนของเปรูบ้างไปรู้จัก ลามาเจ้าถิ่นลาติรอเมริกาใต้กันครับ เปรูเป็นหนึ่งในประเทศแถบอเมริกาใต้ซึ่งประเทศต่างๆในแถบนี้มีความน่าสนใจและน่าเที่ยวไม่แพ้ประเทศต่างๆในทวีปยุโรปเลยและนี่คือ 7 เหตุผลจูงใจให้ไปเที่ยวอเมริกาใต้   สนใจเที่ยวเปรู โปรแกรมทัวร์เปรู

 

Rainbow Mountain

 

2. ทะเลเกลือ  ประเทศโบลิเวีย (Salar de Uyuni | Bolivia)


ประเทศที่ไม่มีทางออกสู่ทะเลอย่างโบลิเวียใครจะไปคาดคิดว่า ณ ดินแดนแห่งนี้ มีผืนเกลือสีขาวที่มองไปไกลสุดขอบสายตาเราก็จะยังคงพบกับความขาวของผืนเกลือแห่งนี้ตัดกับท้องฟ้า สถานที่แห่งนี้มีชื่อว่า ซาลาร์ เดอ อูยูนี (Salar de Uyuni) หรือเป็นที่รู้จักกันในนามทะเลเกลือที่ใหญ่ที่สุดในโลกนั่นเอง คำว่า 'สู่ความเวิ้งว้างอันไกลโพ้น' น่าจะเหมาะกับที่แห่งนี้ ความขาวเนียนตา แต่ผิวสัมผัสที่กระทบกับเท้าเราแตกต่างจากหิมะอย่างสิ้นเชิง และสิ่งที่หิมะทำไม่ได้นั่นก็คือการสะท้อนของทะเลเกลือ รูปลักษณ์ของเมฆบนท้องฟ้าที่ในแต่ละมุมมองของคนเราที่ต่างกันเป็นเหมือนจินตนาการราวกับเราเหยียบย่ำอยู่บนผืนฟ้า ฉายาผืนฟ้าจรดผืนเกลือคงต้องยกให้ดินแดนทะเลเกลือแห่งโบลิเวียแห่งนี้จริงๆ สนใจโปรแกรมทัวร์โบลีเวีย

ทะเลสาบเกลือ โบลิเวีย

 

3. แม่น้ำห้าสี ประเทศโคลอมเบีย (The River of the Five Colors | Colombia)

ทางตอนเหนือของประเทศโคลอมเบีย ณ เมือง Macarena La แม่น้ำคาโญ่ คริสตาเลส (Cano Cristales) หรือรู้จักกันในชื่อ แม่น้ำห้าสี ที่แห่งนี้ได้รับการยกย่องว่าเป็นแม่น้ำที่สวยที่สุดในโลก พระเอกของแม่น้ำห้าสีนี้ต้องยกให้กับพืชใต้น้ำอย่างหญ้ามอส และสาหร่าย ซึ่งเจ้าพวกนี้ล้วนมีสีสันของตัวเอง เช่น สีแดง สีชมพู สีเขียว สีเหลือง แอบกระซิบบอกหน่อยว่าช่วงพีคในการมาเยือนยังสวรรค์แห่งนี้คือช่วงเดือนกันยายน-พฤศจิกายน เป็นช่วงที่มีฝนตกเข้ามาระยะหนึ่งแล้วและเริ่มมีระดับน้ำที่พอดีเป็นไทม์มิ่งที่รังสรรค์สถานที่แห่งนี้ได้สวยงามที่สุด สนใจโปรแกรมทัวร์โคลอมเบีย

แม่น้ำห้าสี โคลอมเบีย

 

4. แอนทีโลป แคนยอน ประเทศสหรัฐอเมริกา (Antelope Canyon | America)

ความพิศวงที่ธรรมชาติได้สรรสร้างไว้สุดแปลก และมหัศจรรย์อีกแล้ว ทิวทัศน์สุดพิศวงที่เป็นที่ชื่นชอบของบรรดาเหล่าช่างภาพรวมไปถึงนายแบบนางแบบอย่างเราๆ ที่ต้องการหาฉากหลังแนวๆ อัพเดตลงโซเชียลกันบ้างะ ฟรีเบิร์ดทัวร์ชวนพุ่งเป้าไปที่รัฐแอริโซน่า แห่งสหรัฐอเมริกา ณ เมืองเพจ (Page) สถานที่สุดพิศวง และขึ้นชื่อว่าเป็นสถานที่อันตรายที่สุด แต่ก็เป็นสถานที่ที่สวยงามมากที่สุดจนทำให้ความอันตรายลดลงไปเลยก็คือ 'แอนทีโลป แคนยอน' สถานที่แห่งนี้มีลักษณะเป็นหินทราย (Navajo Sandstone) ซึ่งถูกกระแสน้ำ กระแสลม พายุฝน ผ่านฤดูกาลต่างๆ เรื่อยมาเป็นเวลานาน ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นก็คือร่องรอยเว้ารูปทรงแปลกตาสลับกันไป และทำให้สถานที่แห่งนี้เป็นสถานที่อันตรายที่สุดอีกด้วย เพราะบริเวณนี้อาจจะเกิดน้ำท่วมฉับพลันได้ตลอดเวลา ด้วยระดับน้ำที่สูงถึง 10 เมตร สิ่งที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเยือนยังสถานที่อันตรายแห่งนี้ก็คือ สีสันจากแสงอาทิตย์สาดส่องผ่านช่องแคบต่างๆ สะท้อนกับสีของชั้นหินเป็นเหมือนงานศิลปะที่หลากหลายกระบวนการในการลงสี เล่นแสงเงา ดูรวมๆแล้วมีเสน่ห์เหลือเกิน ลืมความอันตรายไปเลยทีเดียว สำหรับท่านใดสนใจอยากมาเที่ยวสถานที่แห่งนี้แต่กลัวความอันตรายก็ไม่ต้องกังวลใจเพราะการจะเข้าชมแอนทีโลป แคนยอน จะมีไกด์นำทางคอยดูแลเพราะทางที่ซับซ้อนและคับแคบอาจจะเป็นอันตรายหากไม่มีผู้ชำนาญเส้นทางไปด้วยนั่นเอง และสิ่งสำคัญอย่าลืมตรวจสอบสภาพอากาศก่อนเดินทางด้วย สนใจโปรแกรมทัวร์อเมริกา

แอนทีโลป แคนยอน

 

5. ทะเลสาบสีชมพู ประเทศออสเตรเลีย ( Pink Lake | Australia)

ทะเลสาบที่มีน้ำใสจนสะท้อนภูมิทัศน์รอบๆ ยังสวยงามตราตรึงใจแล้ว ลองได้รู้จักกับทะเลสาบสุดแปลกแหวกแนวไม่เหมือนใคร ณ ดินแดนแห่งจิงโจ้ ประเทศออสเตรเลียพุ่งเป้าไปยังรัฐเวสเทิร์น ทางตอนเหนือของชายฝั่งแม่น้ำฮัตต์ มีทะเลสาบสีสันหวานแหววที่ชื่อว่า Pink Lake หรือชื่อที่รู้จักในประเทศออสเตรเลียว่า Hutt Lagoon ด้วยสีสันเฉพาะของทะเลสาบแห่งนี้คงเป็นที่ชื่นชอบของสาวๆ และคู่รักทั้งหลาย ความสวยงามทั้งหมดนี้ต้องให้เครดิตกับน้องๆ สาหร่ายทะเลพันธุ์ Dunaliella Salina ที่อาศัยอยู่ใต้ทะเลสาบด้วยลักษณะเฉพาะตัวทำให้ทะเลสาบแห่งนี้พอมองดูรวมๆแล้วล้วนมีสีชมพู บางจุดจะมีสีชมพูเข้มบ้าง หรือบ้างก็เป็นสีแดง สุดแปลกและมหัศจรรย์ดีไหม สนใจโปรแกรมทัวร์ออสเตรเลีย

ทะเลสาบสีชมพู ออสเตรเลีย

 

6. ทะเลสาบไบลข่าน ประเทศรัสเซีย (Lake Baikal | Russia)

มาพบกับความแปลกในกิจกรรมของการมาเที่ยวรัสเซีย ณ ทะเลสาบไบลข่าน ประเทศแห่งนี้ขึ้นชื่ออยู่แล้วในเรื่องอุณหภูมิที่หนาวเหน็บ ลักษณะเฉพาะของทะเลสาบไบลข่านจึงเป็นเอกลักษณ์มาก พื้นน้ำแข็งที่มีริ้วสีขาวขุ่น ด้วยอุณหภูมิในช่วงฤดูหนาว
ที่ติดลบ -30 ถึง -40 องศา ทำให้น้ำในทะเลสาบกลายเป็นน้ำแข็ง จุดเด่นนี้จึงเป็นความแปลกที่แสนมหัศจรรย์มากเพราะกิจกรรมทั่วไปของการมาเยือนยังทะเลสาบส่วนใหญ่ก็คือการล่องเรือ แต่ทะเลสาบไบลข่านแห่งนี้คุณสามารถเหยียบย่ำไปบนพื้นน้ำที่เกาะตัวเป็นน้ำแข็งได้เลย อะเมซิ่งรัสเซียมากๆ จึงเป็นสถานที่สุดแปลกกระแทกใจจริงๆ ไปรู้จักกับ ไบคาล ผืนทะน้ำจืดแช่แข็งแห่งไซบีเรีย สนใจโปรแกรมทัวร์รัสเซีย

ทะเลสาบไบลข่าน


7. หาดทรายดำ ประเทศไอซ์แลนด์ (Reynisfjara Black Sand Beach | Iceland)

หาดทรายดำ (Reynisfjara Black Sand Beach) นับเป็นชายหาดที่มีทรายสีดำที่สวยงามมากแห่งหนึ่งของโลก เป็นธรรมชาติที่ฉีกกฎความเป็นธรรมชาติทั่วไป หลายท่านคงคุ้นเคยแต่ชายหาดสีขาวลองเปลี่ยนมาสัมผัสกับชายหาดสีดำสนิทดูบ้างแล้วจะติดใจกับความเจ๋งที่พี่ธรรมชาติ (อีกแล้ว) ได้สร้างไว้ ณ หมู่บ้าน Vik I Myrdal ทางตอนใต้ของประเทศไอซ์แลนด์ ชายหาดสุดอินดี้ที่มีสีดำสนิทตัดกับน้ำทะเลสีขาว เบื้องหลังของสีดำนี้เป็นความพิเศษของพื้นที่ที่ตั้งอยู่ในบริเวณภูเขาไฟแน่นอนว่าภูเขาไฟก็ต้องมีลาวาซึ่งเจ้าลาวาร้อนๆ ได้ไหลออกมากระทบกับน้ำทะเลที่เย็นจัดเฉียบพลันด้วยกระบวนการของวิทยาศาสตร์ทำให้แตกออกเป็นก้อนชิ้นเล็กชิ้นน้อยจนกลายเป็นหาดสีดำนั่นเอง โปรแกรมทัวร์ประเทศไอซ์แลนด์

หาดทรายดำไอซ์แลนด์

 

8. หลุมน้ำเงินเกรทบลูโฮล ประเทศเบลีซ (Great Blue Hole | Belize )

ที่ประเทศเบลีซ ในดินแดนของอเมริกากลาง ตั้งอยู่ในโซนตะวันออกริมทะเลแคริบเบียน ห่างจากชายฝั่งของเบลีซประมาณ 70 กิโลเมตร มีจุดที่ดูออกจะเป็นทรงเกือบกลมบนผืนทะเลสีฟ้าโดยสถิติที่ถูกวัดไว้หลุมบนทะเลแห่งนี้มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 300 เมตร แถมด้วยความลึกประมาณ 124 เมตร จากตัวเลขแล้วทำให้ถูกยอมรับขึ้นแท่นเลยครับว่าเป็นหลุมที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกเป็นความแปลกตามากๆ

Great Blue Hole


9. อุทยานแห่งชาติทะเลสาบนากูรู ประเทศเคนย่า (Lake Nakuru National Park | Kenya)

มาพบกับอีกหนึ่งความตระการตาบนผืนทะเลสาบในประเทศเคนย่าพุ่งเป้าไปอุทยานแห่งชาติทะเลสาบนากูรู บ้านของบรรดาฝูงฟลามิงโกนับแสนตัว หรืออาจจะมากกว่านั้นเนื่องด้วยในบริเวณทะเลสาบนากูรูนั้นเต็มไปด้วยแพลงก์ตอน และสาหร่ายแกมเขียวซึ่งเป็นแหล่งอาหารของนกฟลามิงโก ดังนั้นทั่วทั้งบริเวณทะเลสาบแห่งนี้จึงเต็มไปด้วยนกฟลามิงโก ซึ่งหากมองดูจากทางด้านบนลงมา ทะเลสาบแห่งนี้จะกลายเป็นสีชมพู นับเป็นจุดเด่นสุดอัศจรรย์ซึ่งเรียกให้บรรดานักท่องเที่ยวมาชื่นชมความงดงามของทะเลสาบ และยังได้ชมนกฟลามิงโก สีชมพูนี้เหมาะกับคู่รักจะมาเดินท่ามกลางนกสีชมพูถ่ายพรีเวดดิ้งก็เก๋ไปอีกแบบ ถือว่าเป็นอีกหนึ่งแลนด์สเคปสุดแปลกกระแทกใจ โปรแกรมทัวร์เคนย่า ทัวร์อันซีน

Lake Nakuru


10. บ่อน้ำพุร้อนแกรนด์พีสเมติก ประเทศสหรัฐอเมริกา  (Grand Prismatic | America)

บ่อน้ำพุร้อนแกรนด์พีสเมติก ตั้งอยู่ในเขตอุทยาแห่งชาติเยลโลว์สโตน (Yellowstone National Park) ซึ่งเป็นอุทยานแห่งแรกของโลก และของสหรัฐอเมริกา อุทยานแห่งนี้มีพื้นที่ที่ใหญ่มาก และที่นี่เองก็เป็นสถานที่ที่ตั้งสุดเซอร์ไพรส์ที่ฟรีเบิร์ดทัวร์กำลังจะพาไปเยือนนั่นคือ แกรนด์พีสเมติก (Grand Prismatic) บ่อน้ำพุร้อนขนาดใหญ่ จุดเด่นของบ่อน้ำพุร้อนแกรนด์พีสเมติกก็คือความแปลกตาของสีฟ้าดุจมรกตที่อยู่ตรงกลางบ่อและไล่ระดับออกมาเป็นสีเขียว น้ำตาลอ่อน และน้ำตาลเข้มที่ขอบบ่อ ความสวยสุดแปลกนี้กำลังรอให้คุณไปเห็นด้วยตาของคุณเอง โปรแกรมทัวร์อเมริกา

Grand Prismatic

 

11. นาข้าวญี่ปุ่น (Tanbo Art | Japan)


มาปิดท้ายแลนด์สเคปสุดแปลกกระแทกใจกับศิลปะที่สร้างขึ้นจากผลงานของมนุษย์กันบ้าง แต่ไม่ใช่จากดินสอ หรือปลายพู่กันแต่อย่างใดครับ ผลงานนี้เป็นศิลปะที่ใช้ต้นข้าวในการสรรสร้างขึ้นมาและนับเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังของจังหวัดอาโอโมริ (Aomori) เลยทีเดียว

ณ หมู่บ้านอินากะดาเตะ มีกลุ่มชาวบ้านได้เริ่มต้นความคิดสร้างสรรค์โดยการนำพันธุ์ข้าวชนิดเก่าและใหม่หลากหลายพันธุ์บรรจงนำลงไปปลูกบนผืนนาราวกับการกวัดแกว่งพู่กันซึ่งเมื่อข้าวต่างๆเริ่มโตขึ้นจะเกิดเป็นภาพต่างๆ ที่ถูกเซ็ตไว้ตั้งแต่เริ่มปลูก จนกลายมาเป็นที่มาของศิลปะบนทุ่งนา ซึ่งในภาษาญี่ปุ่นนั้นเรียกว่า ทัมโบะอาร์ท (Tanbo Art) จากผลงานของเทคนิคนี้จึงเกิดเป็นไอเดียริเริ่มให้กับภูมิภาคอื่นๆ ทั่วประเทศเรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งความธรรมดาของการปลูกข้าวแต่กลับกลายเป็นแลนด์สเคปสุดแปลกกระแทกใจกันเลยทีเดียว โปรแกรมทัวร์ญี่ปุ่น

Tanbo Art

 

เป็นอย่างไรบ้างกับบรรดาสถานที่สุดแปลกบนโลกของเราช่างมหัศจรรย์จริงๆ แค่เห็นรูปยังสะกดสายตาให้อยากไปอยู่ในสถานที่จริงเดี๋ยวนี้เลย คุณก็คิดเหมือนกันใช่ไหมล่ะ ถ้าคุณใจตรงกันแบบนี้ ให้ฟรีเบิร์ดทัวร์พาคุณออกเดินทางไปเปิดประสบการณ์ความแปลกที่จะตราตรึงใจคุณไปตลอดกาล สร้างสุขทุกเส้นทางไปกับ ฟรีเบิร์ด ทราเวิล แอนด์ ทัวร์


 

         

 


 

- หากบทความนี้ดีต่อใจ ชวนคนที่คุณรักมาเที่ยวกับฟรีเบิร์ดทัวร์กันค่ะ -   

สนใจโปรแกรมทัวร์ต่างประเทศคลิกที่นี่ 

 

คุยกับครอบครัวฟรีเบิร์ดทัวร์

โทร.02-0488-785-7 Hotline 085-151-1000 , 094-782-6888 และ 093-570-3000

 

    instagramfreebirdtour  twitter freebirdtour  Youtube freebirdtour     

 


Visitors: 467,887