บอลข่าน | เปิดประตูสู่ 7 ดินแดนบอลข่าน เสน่ห์ลับๆ ที่น่าไปเยือน
คาบสมุทรบอลข่านเต็มไปด้วยเสน่ห์ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก มีธรรมชาติอันงดงาม มีวัฒนธรรมอันยาวนาน และประวัติศาสตร์อันน่าทึ่ง บอลข่าน หรือคาบสมุทรบอลข่าน(Balkans) อยู่ทางด้านตะวันออกเฉียงใต้ของทวีปยุโรป ประกอบไปด้วย 11 ประเทศ คือ อัลเบเนีย(Albania), บอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา(Bosnia and Herzegovina), บัลแกเรีย(Bulgaria), โครเอเชีย(Croatia), กรีซ(Greece), คอซอวอ(Kosovo), มาซิโดเนียเหนือ(North Macedonia), มอนเตเนโกร(Montenegro), โรมาเนีย(Romania), เซอร์เบีย(Serbia), สโลวีเนีย(Slovenia) ในบางข้อมูลอาจบอกว่ามี 12 ประเทศ นั่นเป็นเพราะมีการจำแนกประเภทที่แตกต่างกัน มีหลายๆ ประเทศในคาบสมุทรบอลข่านที่นักท่องเที่ยวอย่างเราๆ รู้จักกันดี แต่ก็มีอีกหลายประเทศที่เราก็อยากรู้ว่ามีอะไรน่าเที่ยวบ้างนะ ฟรีเบิร์ด ทราเวิล แอนด์ ทัวร์ ชวนคุณ เปิดประตูสู่ 7 ดินแดนบอลข่าน เสน่ห์ลับๆ ที่น่าไปเยือน
1. อัลเบเนีย(Albania) ดินแดนแห่งขุนเขาและชายฝั่งทะเล
อัลเบเนีย หรือแอลเบเนีย(Albania) เป็นประเทศเล็กๆ ในคาบสมุทรบอลข่านทางตะวันออกเฉียงใต้ของทวีปยุโรป เราอาจไม่ค่อยคุ้นชื่อกับประเทศนี้เท่าไหร่นัก
ที่ผ่านมาแม้อัลเบเนีย หรือแอลเบเนีย ไม่ค่อยได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยว แต่ปัจจุบันมีโปรแกรมทัวร์หลายๆโปรแกรม ก็บรรจุแอลเบเนียไว้เป็นส่วนหนึ่งของโปรแกรมทัวร์คาบสมุทรบอลข่าน หรือทัวร์บอลข่าน สถานที่ท่องเที่ยวของประเทศ อัลเบเนีย หรือแอลเบเนีย(Albania) ที่ฟรีเบิร์ดทัวร์ อยากแนะนำ เช่น
เมืองเบรัต(Berat) หรือเบราติ(Berati) เป็นเมืองโบราณที่ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศแอลเบเนีย ได้รับสมยานามว่า เมืองพันหน้าต่าง เนื่องจากมีบ้านเรือนสีขาวหลังคาสีเทาเรียงรายอยู่บนเนินเขา
เมืองเบรัต แบ่งออกเป็นสองส่วน คือส่วนเมืองใหม่ ตั้งอยู่เชิงเขา เป็นที่ตั้งของร้านค้า ร้านอาหาร และโรงแรม และในส่วนเมืองเก่า ตั้งอยู่บนเนินเขา เต็มไปด้วยบ้านเรือนโบราณที่สร้างด้วยเทคนิคการก่อสร้างแบบดั้งเดิม แสดงให้เห็นถึงวิถีชีวิตและวัฒนธรรมของชาวเบรัตในอดีต ปราสาทเบรัต ตั้งอยู่บนยอดเขาที่มองเห็นเมือง ปราสาทแห่งนี้มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 2,000 ปี และเคยถูกใช้เป็นที่ประทับของกษัตริย์ เติร์ก และกรีก ปัจจุบันปราสาทเป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์ โบสถ์ และร้านอาหาร ในเขตเมืองเก่ายังมีโบสถ์ Saint Mary มัสยิด Haxhi Baba Tekke สะพาน Gorica และสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์อีกหลายแห่ง
เมืองเบรัต(Berat) หรือ เบราติ(Berati) ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยูเนสโก(UNESCO) หรือองค์การเพื่อการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ(United Nations Educational, Scientific and Cultural Organization) ในปี ค.ศ. 1988 ประเภท "เมืองเก่าและพื้นที่โดยรอบ" เนื่องจากมีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และสถาปัตยกรรมที่โดดเด่น ไปเที่ยว Albania ก็ต้องไม่พลาดเที่ยวเมืองเบรัต เมืองสำคัญของประเทศ
เมืองติรานา(Tirana) เมืองหลวงของแอลเบเนีย ที่นี่มี จัตุรัสสกาเนเดอร์เบก(Skanderbeg Square) จัตุรัสกลางเมืองที่ตั้งชื่อตามจอร์จ สกาเณเดอร์เบก(George Skanderbeg) ผู้นำกองทัพแอลเบเนียต่อสู้กับจักรวรรดิออตโตมันในศตวรรษที่ 15 จัตุรัสสกาเณเดอร์เบก(Skanderbeg Square) ห้อมล้อมด้วย พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์แห่งชาติ มัสยิดเอเธมเบย์ หอนาฬิกา และอนุสาวรีย์ Skanderbeg ที่ตั้งอยู่ใจกลางจัตุรัส สร้างขึ้นในปี 1968 เพื่อเป็นเกียรติแก่ Skanderbeg วีรบุรุษแห่งชาติแอลเบเนีย
พีระมิดติรานา(Pyramid of Tirana) พีระมิดติรานาเป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็กรูปพีระมิดตั้งอยู่ใจกลางเมืองติรานา ที่นี่เคยเป็นพิพิธภัณฑ์ ศูนย์ประชุม และสถานที่จัดแสดงคอนเสิร์ต
เมืองชคอเดอร์(Shkodra) เป็นอีกหนึ่งเมืองของแอลเบเนีย(Albania) ที่น่าสนใจ ที่นี่เป็นเมืองเก่า และสวยงาม ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของประเทศแอลเบเนีย มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศรองจากเมืองหลวงติรานา มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 2,500 ปี เมืองนี้มีสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญอย่าง
ปราสาทโรซาฟาต(Rozafa Castle) ตั้งอยู่บนยอดเขาที่มองเห็นเมืองชคอเดอร์ ปราสาทแห่งนี้สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 4
มัสยิดเฟทห์อูลลาห์เบย์(Fatih-ul-Lah Mosque) สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 16 เป็นมัสยิดที่เก่าแก่ที่สุดในเมืองชคอเดอร์
พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์แห่งชาติชคอเดอร์(National Museum of Shkodra) พิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของเมืองชคอเดอร์
ทะเลสาบชคอเดอร์(Lake Shkodra) ทะเลสาบชคอเดอร์เป็นทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในคาบสมุทรบอลข่าน, ถนนสายน้ำ (Mesku)ถนนคนเดินที่ยาวที่สุดในยุโรป ถนนสายนี้เต็มไปด้วยร้านค้า ร้านอาหาร และร้านคาเฟ่
2. บอสเนีย และเฮอร์เซโกวีนา(Bosnia and Herzegovina) ดินแดนที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และธรรมชาติอันงดงาม
Bosnia and Herzegovina(บอสเนีย และเฮอร์เซโกวีนา) ประเทศนี้อยู่ในคาบสมุทรบอลข่าน(Balkans) ทางยุโรปตะวันออกเฉียงใต้ มีอาณาเขตติดกับประเทศเซอร์เบีย โครเอเชีย และมอนเตเนโกร จะว่าไปแล้วประเทศนี้ก็มีประวัติศาสตร์ค่อนข้างซับซ้อน มีความขัดแย้งที่เป็นชนวนไปสู่สงครามโลกครั้งที่1 เพราะเป็นที่สิ้นพระชนม์ของ เจ้าชายฟรานซ์ แฟร์ดีนันท์ รัชทายาทแห่งออสเตรีย-ฮังการี และโซฟี ดัชเชสแห่งโฮเฮนแบร์ก ผู้เป็นพระชายา ทั้ง 2 ถูกลอบสังหารโดย Gavrilo Princip สมาชิกกลุ่ม Black Hand กลุ่มชาตินิยมเซิร์บ ในเมืองซาราเยโว
ถึงแม้ที่นี่จะมีเหตุการณ์ที่นำไปสู่สงครามโลกครั้งที่1 แต่ประเทศนี้ก็ยังมีเสน่ห์ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวแวะเวียนมา ด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนาน วัฒนธรรมที่หลากหลาย และธรรมชาติที่งดงาม สถานที่ท่องเที่ยวห้ามพลาดของประเทศบอสเนีย และเฮอร์เซโกวีนา คือ
เมืองหลวงซาราเยโว(Sarajevo) เมืองนี้มีสถาปัตยกรรมงดงาม ผสมผสานระหว่างอิทธิพลยุโรป และตะวันออกกลาง มาถึงเมืองนี้แล้วให้แวะมายัง
ย่านบาสคาร์ซิยา(Baščaršija) เป็นย่านเก่าแก่ใจกลางเมืองซาราเยโว ย่านนี้เต็มไปด้วยร้านค้า ร้านอาหาร คาเฟ่ มัสยิด ค่อนข้างคึกคักทีเดียว คุณสามารถใช้เวลาเดินเล่น ชมบรรยากาศ ชิมอาหาร ได้อย่างไม่รู้เบื่อ เป็นอีกหนึ่งสถานที่น่าเที่ยวในบอสเนีย และเฮอร์เซโกวีนา
ภาพจาก pixabay-chriswanders
Sarajevo Martyrs’ Memorial Cemetery 2009 สุสานอนุสรณ์สถานผู้พลีชีพโควาชีในเมืองซาราเยโว ที่นี่เป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ของเมืองซาราเยโว เพราะเป็นสถานที่ให้รำลึกถึงทหารบอสเนียที่เสียชีวิตระหว่างสงครามบอสเนีย และเป็นการรำลึกถึงการปิดล้อมเมืองซาราเยโว ซึ่งเป็นการปิดล้อมเมืองหลวงที่ยาวนาน ใครอยากรู้ประวัติศาสตร์ของเมืองที่นี่มีพิพิธภัณฑ์เล่าเรื่องราวของสงครามบอสเนีย และการปิดล้อมเมืองซาราเยโว
สุสานแห่งนี้เริ่มก่อสร้างในปี 1996 และ เสร็จสมบูรณ์อย่างเป็นทางการในปี 2009 และในปีที่สุสานสร้างเสร็จสมบูรณ์ก็มีการฝังศพผู้เสียชีวิตเพิ่มเติมในสุสาน พร้อมทั้งจัดพิธีรำลึกครบรอบ 14 ปี การปิดล้อมเมืองซาราเยโวที่สุสานแห่งนี้อีกด้วย Sarajevo Martyrs’ Memorial Cemetery 2009 เปิดให้เข้าฟรี
ภาพจาก pixabay-larghe
สะพานลาติน(Latin Bridge) หรือ สะพานปรินซีป(Princip Bridge) สะพานหิน สถาปัตยกรรมแบบออโตมัน มีรูปปั้น Franz Ferdinand Archduke of Austria ตั้งโดดเด่นอยู่บนสะพาน สะพานแห่งนี้สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1797 โดยจักรวรรดิออตโตมัน ข้ามแม่น้ำมิลยัตสกา(Miljacka River) ตั้งอยู่ในใจกลางเมืองซาราเยโว ประเทศบอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา สะพานนี้โด่งดังจากเหตุการณ์ลอบสังหาร Franz Ferdinand Archduke of Austria อันเป็นชนวนเหตุของสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง
เทือกเขาอัลป์ดีนาริก(Dinaric Alps) เทือกเขาอัลป์ดีนาริก(Dinaric Alps) เป็นเทือกเขาที่ทอดยาวผ่านคาบสมุทรบอลข่าน ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศสโลวีเนีย ทอดยาวผ่านโครเอเชีย บอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา เซอร์เบีย มอนเตเนโก และอัลบาเนีย เทือกเขาแห่งนี้เป็นที่ตั้งของสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังหลายแห่งที่ตั้งอยู่ในแต่ละประเทศที่ทอดผ่าน รวมถึง อุทยานแห่งชาติ Sutjeska ที่ตั้งอยู่ในประเทศบอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา ด้วย
อุทยานแห่งชาติ Sutjeska เป็นอุทยานแห่งชาติที่เก่าแก่ที่สุดและใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศ อุทยานแห่งชาติ Sutjeska ได้รับการขึ้นทะเบียนจาก UNESCO ในฐานะ มรดกโลกทางธรรมชาติ ในปี ค.ศ. 2005 เพราะมีความหลากหลายทางชีวภาพ เป็นที่อยู่อาศัยของพืชและสัตว์หลากหลายชนิด รวมถึงพืชหายากและสัตว์ใกล้สูญพันธุ์ มีทิวทัศน์ที่สวยงาม เทือกเขาสูงชัน หุบเขาแคบ แม่น้ำ ทะเลสาบ และป่าไม้ มีคุณค่าทางธรณีวิทยา และมีคุณค่าทางวัฒนธรรม เพราะเป็นที่ตั้งของหมู่บ้านโบราณ โบสถ์ และสุสาน เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจใน บอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา
รู้จักBosnia and Herzegovina(บอสเนีย และเฮอร์เซโกวีนา) ให้มากขึ้น คลิกอ่านเที่ยวอะไรกันที่บอสเนีย และเฮอร์เซโกวีนา
ภาพจาก pixabay-Fotografbee
3. มาซิโดเนียเหนือ(North Macedonia) ดินแดนแห่งขุนเขา และทะเลสาบ
มาซิโดเนียเหนือ(North Macedonia) ประเทศเล็กๆ ในคาบสมุทรบอลข่าน ชื่อนี้อาจไม่คุ้นหูนักท่องเที่ยวไทยสักเท่าไร แต่ที่นี่ซ่อนขุมทรัพย์ทางธรรมชาติ เทือกเขา ทะเลสาบ แม่น้ำ ประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และอาหาร ไว้มากมาย เป็นอีกหนึ่งประเทศน่าเที่ยวที่ ฟรีเบิร์ด ทราเวิล แอนด์ ทัวร์ อยากจะแนะนำในแถบคาบสมุทรไบคาล สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญเมื่อมายังประเทศมาซิโดเนียเหนือ ก็คือ เมืองโอห์ริด(Ohrid)
เมืองโอห์ริด(Ohrid) เมืองโบราณที่เต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และธรรมชาติที่น่าสนใจ ตั้งอยู่ริมทะเลสาบโอห์ริด(Lake Ohrid) เมืองโอห์ริด และทะเลสาบโอห์ริด ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากยูเนสโก(UNESCO) หรือองค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ(United Nations Educational, Scientific and Cultural Organization) เมื่อปี ค.ศ.1980 สถานที่ท่องเที่ยวในเมือง Ohrid มีทั้งธรรมชาติ ประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม เรามาเริ่มต้นกันที่
ย่านเมืองเก่า(Ohrid Old Town) เป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์คห้ามพลาดเมื่อมาเที่ยวมาซิโดเนียเหนือ old town เป็นย่านเมืองเก่าที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี นักท่องเที่ยวสามารถเดินเล่นชมบ้านเมือง ค่อยๆ เลาะไปตามถนนแคบๆ
ทะเลสาบโอห์ริด(Lake Ohrid) เป็นหนึ่งในทะเลสาบที่เก่าแก่ และลึกที่สุดในโลก ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากยูเนสโก(UNESCO) เมื่อปี ค.ศ.1980 เพราะเป็นทะเลสาบที่มีคุณค่าทางธรรมชาติ มีระบบนิเวศที่สมบูรณ์ มีพืช และสัตว์หายาก เช่น ปลาแซลมอน นกอินทรี หมีสีน้ำตาล มีคุณค่าทางวัฒนธรรม บริเวณรอบทะเลสาบโอห์ริด(Lake Ohrid) มีโบสถ์ที่มีความเก่าแก่หลายโบสถ์ โดยเฉพาะโบสถ์นักบุญโซเฟีย (Saint Sophia Church) ซึ่งเป็นโบสถ์ที่เก่าแก่ที่สุดในคาบสมุทรบอลข่าน ทะเลสาบโอห์ริดก็ยังมีเมืองโบราณ มีหมู่บ้านแบบดั้งเดิมที่ยังคงวิถีชีวิต และวัฒนธรรมดั้งเดิม มีงานฝีมือท้องถิ่น ที่ถ่ายทอดวัฒนธรรมดั้งเดิมของมาชิโดเนียเหนือ ได้อย่างสมบูรณ์ ทะเลสาบโอห์ริด ยังมีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ เพราะเคยเป็นศูนย์กลางทางการค้าและวัฒนธรรม เมื่อมาทัวร์มาซิโดเนียเหนือ ก็ต้องไม่พลาดที่แห่งนี้
โบสถ์เซนต์จอห์นที่คาเนโอ(Church of Saint John at Kaneo) โบสถ์สวยในเมืองโอห์ริด ตั้งอยู่บนหน้าผามองเห็นวิวหาดคาเนโอ และทะเลสาบโอห์ริด ช่างสวยงาม
เทือกเขาชาร์ (Šar Mountains) ทอดยาวผ่านประเทศมาซิโดเนียเหนือ อัลบาเนีย และเซอร์เบีย เป็นเทือกเขาที่สูงที่สุดในคาบสมุทรบอลข่าน ยอดเขาสูงสุดคือ Titov Vrv สูง 2,747 เมตร และมี Korab เป็นภูเขาที่สูงเป็นอันดับสองของเทือกเขาชาร์นักท่องเที่ยวสามารถไปเดินป่า ปีนเขา เล่นสกี ชมนก ชมไม้ได้อย่างที่ต้องการ กิจกรรม ที่น่าสนใจของเทือกเขาชาร์ ก็คือ
อุทยานแห่งชาติ Mavrovo เป็นอุทยานแห่งชาติที่ใหญ่ที่สุดในประเทศมาซิโดเนียเหนือ เป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาชาร์ ที่นี่มีทะเลสาบ Mavrovo น้ำตก Korican ถ้ำ Bigorski มีหมู่บ้านโบราณชื่อ Rostuše อุทยานแห่งชาติ Mavrovo ยังเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าหลายชนิด เช่น กวางป่า หมีป่า นกอินทรีย์
เมืองสโกเปีย หรือสกอปเย(Skopje) เมื่อมาถึงมาซิโดเนียเหนือก็คงต้องไม่พลาดแวะเที่ยวเมืองหลวงของมาซิโดเนียเหนือ เมืองนี้เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมโบราณ โบสถ์ พิพิธภัณฑ์ นักท่องเที่ยวสามารถใช้เวลาเดินเล่น ชมเมือง ชิมอาหาร ได้อย่างไม่เบื่อ
สถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของเมืองหลวง Skopje เช่น
พอร์ต้า มาซีโดเนีย(Porta Macedonia) ประตูชัย ตั้งอยู่ใจกลางเมือง สร้างขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ 20 ปีแห่งการประกาศอิสรภาพของมาซิโดเนียเหนือ มีความสูง 21 เมตร ตกแต่งด้วยหินอ่อน ภายในพอร์ต้า มาซีโดเนีย มีห้องโถงใหญ่ ร้านขายของที่ระลึก และพิพิธภัณฑ์
จัตุรัสมาซิโดเนีย(Macedonia City Square) จัตุรัสหลักใจกลางเมืองหลวง กรุงสกอปเย(Skopje) จัตุรัสแห่งนี้เป็นจัตุรัสที่ใหญ่ที่สุดในคาบสมุทรบอลข่าน มีพื้นที่รวม 18,500 ตารางเมตร สร้างขึ้นในปี ค.ศ.2014 เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ "Skopje 2014" ซึ่งมีจุดประสงค์เพื่อพัฒนาเมืองSkopje ให้เป็นเมืองหลวงที่ทันสมัย และดึงดูดนักท่องเที่ยว จัตุรัสมาซิโดเนีย(Macedonia City Square) ล้อมรอบด้วยอาคารสำคัญๆ มากมาย เช่น อาคารรัฐสภา พิพิธภัณฑ์ โบสถ์ และอนุสรณ์สถาน จุดเด่นของย่านนี้ก็คือ รูปปั้นอเล็กซานเดอร์มหาราช(Alexander the Great) เป็นรูปปั้นทองสัมฤทธิ์ขนาดใหญ่สร้างขึ้นในปี ค.ศ.2014 กษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่แห่งอาณาจักรมาซิโดเนียโบราณ นับเป็นสัญลักษณ์สำคัญของเมืองหลวง
แม้ประเทศมาซิโดเนียเหนือ จะไม่เป็นที่คุ้นหูเรานัก แต่ก็เป็นอีกหนึ่งประเทศน่าเที่ยวในแถบคาบสมุทรบอลข่าน มาซิโดเนียเหนือมีวัฒนธรรมที่ผสมผสานระหว่างตะวันออก และตะวันตก ผู้คนเป็นมิตร ยิ้มแย้มแจ่มใส พร้อมต้อนรับคนต่างถิ่นอย่างนักท่องเที่ยว อาหารมาซิโดเนียเหนือ จะมีความคล้ายกับอาหารตุรกี กรีก อาหารหลักๆ จะมีเนื้อสัตว์ ผัก ชีส โยเกิร์ต ขนมปัง ไวน์
และหากเราไปเที่ยวในช่วงเดือนกรกฎาคมและสิงหาคม เราจะได้เจอกับเทศกาลโอห์ริดซัมเมอร์ เป็นเทศกาลดนตรี และศิลปะนานาชาติที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในมาซิโดเนียเหนือ งานจะจัดขึ้นบริเวณริมทะเลสาบโอห์ริด ภายในงานจะมีการแสดงดนตรี การแสดงเต้น มีการจัดนิทรรศการศิลปะ มีการฉายภาพยนตร์ มีตลาดนัดที่ขายสินค้าพื้นเมือง ขายงานฝีมือ อาหาร
อยากรู้ว่า มาซิโดเนียเหนือ(North Macedonia) มีอะไรน่าเที่ยว ลองไปเที่ยวกับมาซิโดเนียเหนือ(North Macedonia) กับฟรีเบิร์ด ทราเวิล แอนด์ ทัวร์ กันค่ะ ทักไลน์ Line ID : @freebirdtour สอบถามทัวร์บอลข่าน
4. มอนเตเนโกร(Montenegro) ดินแดนแห่งขุนเขา ทะเล และอาราม
มอนเตเนโกร(Montenegro) อีกหนึ่งประเทศเล็กๆ น่าเที่ยวในแถบคาบสมุทรบอลข่าน นักท่องเที่ยวที่ถือหนังสือเดินทางไทย สามารถไปเที่ยวมอนเตเนโกรได้โดยไม่ต้องขอวีซ่า สามารถพำนักอยู่ได้ 90 วัน(ข้อมูล ณ เดือนมิถุนายน 2567 กรุณาตรวจสอบข้อมูลก่อนการเดินทางทุกครั้ง) แม้มอนเตเนโกร(Montenegro) จะเป็นประเทศเล็กๆ แต่ฟรีเบิร์ดทัวร์ ก็รับประกันว่า มอนเตเนโกร(Montenegro) ครบเครื่อง ทั้งทะเล ภูเขา เมืองโบราณ วัฒนธรรม และอาหาร เป็นหนึ่งประเทศน่าไปเที่ยวในแถบบอลข่าน
เมืองคอตอร์(Kotor) เป็นสถานที่ท่องเที่ยวแรกของ Montenegro เมืองคอตอร์(Kotor) ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ(United Nations Educational, Scientific and Cultural Organization) หรือยูเนสโก(UNESCO) เมื่อปี ค.ศ. 1979 เพราะเป็นเมืองเก่าที่มีสถาปัตยกรรมหลากหลาย ผสมผสานระหว่างสไตล์โรมัน โกธิค เวนิส และบาโรก อาคารบ้านเรือน โบสถ์ และกำแพงเมืองที่มีความยาวกว่า 4.5 กิโลเมตร สูง 15 เมตร มีความสวยงาม และทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ รวมทั้งมีภูมิประเทศที่สวยงาม ตั้งอยู่บนชายฝั่ง ที่ล้อมรอบด้วยภูเขาหินปูน โดดเด่นด้วยทิวทัศน์อันสวยงามของเมือง นักท่องเที่ยวสามารถเดินเล่น ชมเมือง ถ่ายรูป ชิมอาหาร หรือจะเดินขึ้นไปชมวิวมุมสูง และเรียนรู้ประวัติศาสตร์ของเมืองผ่านโบสถ์ พิพิธภัณฑ์
นักท่องเที่ยวใช้เวลาสักพักเดินเล่น เก็บเรื่องราวของเมืองเก่าผ่าน ประตูเมืองเก่าคอตอร์(Sea Gate of Kotor) สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 15 เป็นประตูทางเข้าหลักของเมืองเก่า ประตูเมืองมีนาฬิกา และรูปปั้นเซนต์ ทไรฟอน(St. Tryphon) นักบุญอุปถัมภ์ของเมือง จัตุรัสแห่งเสรีภาพ(Freedom Square) จัตุรัสกลางเมืองเก่า ที่อยู่ห่างจากประตูเมืองเก่าไปประมาณ 200 เมตร ล้อมรอบด้วยอาคารสำคัญต่างๆ เช่น โบสถ์เซนต์ ทไรฟอน(St. Tryphon's Cathedral) หอระฆัง (Kotor Clock Tower) และพิพิธภัณฑ์เมืองคอตอร์(Kotor City Museum)
เมืองคอตอร์(Kotor) ยังมีสถานที่น่าเที่ยวอย่าง โบสถ์เซนต์ไทรฟอน(Saint Tryphon Kotor Montenegro) โบสถ์โรมันคาทอลิกสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 12 โบสถ์นี้มีความสำคัญที่สุดใน Kotor ได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในสถาปัตยกรรมสถาปัตยกรรมโรมาเนสก์ (Romanesque architecture)ที่ดีที่สุดในบอลข่าน
มาถึง มอนเตเนโกร(Montenegro) ก็ต้องไม่พลาด สัมผัสหาดทรายสวยทะเลใส อย่าง
Becici Beach ชายหาดที่มีน้ำทะเลใส หาดทรายขาวละเอียด ตั้งอยู่ที่เมือง Budva เป็นหนึ่งในชายหาดที่ได้รับความนิยมมากที่สุดใน Montenegro
Sveti Stefan Beach ตั้งอยู่บนเกาะ Sveti Stefan ชายหาดที่ได้รับความนิยมมากแห่งหนึ่ง มีพื้นทรายสีชมพู น้ำทะเลใส นักท่องเที่ยวสามารถมาอาบแดด เล่นน้ำ ดำน้ำ ล่องเรือ เดินป่า
มอนเตเนโกร(Montenegro) จะน่าเที่ยวแค่ไหน มอนเตเนโกร(Montenegro) มีอะไรน่าสนใจ สอบถามข้อมูลโปรแกรมทัวร์บอลข่านกับ ฟรีเบิร์ด ทราเวิล แอนด์ ทัวร์
5. คอซอวอ(Kosovo) ดินแดนแห่งขุนเขาและวัฒนธรรม
คอซอวอ(Kosovo) ประเทศเล็กๆ บนคาบสมุทรบอลข่าน แม้จะเป็นประเทศเล็กๆ แต่ก็เล็กพริกขี้หนู เพราะที่นี่รวมไว้่ซึ่งธรรมชาติอันงดงาม มีเมืองเก่าแก่ มีวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ ผู้คนเป็นมิตร และที่สำคัญค่าใช้จ่ายในการท่องเที่ยวไม่แพง สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของประเทศ เช่น
เมืองเก่าพริสตินา(Pristina Old Town) ใจกลางเมืองหลวงของคอซอวอ ที่นี่เต็มไปด้วยอาคารเก่าแก่ มัสยิด โบสถ์ และร้านค้า เราสามารถเดินเล่นชมเมือง ถ่ายรูป Shopping และเรียนรู้วัฒนธรรมท้องถิ่น
โบสถ์ Gračanica Monastery โบสถ์เซอร์เบียออร์โธดอกซ์ ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของเมืองพริสตินา โบสถ์แห่งนี้สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 14 ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจาก UNESCO
อุทยานแห่งชาติ Mirusha Waterfalls ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของเมืองพริสตินา เป็นที่ตั้งของน้ำตก Mirusha น้ำตกที่สูงที่สุดในคอซอวอ กิจกรรมที่นิยมกันของผู้มาเที่ยวที่นี่ก็คือ เดินป่าชมน้ำตก เล่นน้ำ และพักผ่อนหย่อนใจ
ถ้ำ Gadima Cave ตั้งอยู่ทางตะวันตกของเมืองพริสตินา เป็นถ้ำหินปูนที่ใหญ่ที่สุดในคอซอวอ ภายในถ้ำมีหินงอกหินย้อยที่สวยงาม เราสามารถเข้าชมถ้ำได้โดยการนั่งเรือ
ภูเขา Accursed Mountains เป็นเทือกเขาที่สูงที่สุดในคอซอวอ เหมาะสำหรับการเดินป่า ปีนเขา และเล่นสกี
เมือง Prizren เมืองเก่าแก่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของคอซอวอ อีกหนึ่งเมืองต้องห้ามพลาดเมื่อไปเที่ยวคอซอวอ Prizren เต็มไปด้วยมัสยิด โบสถ์ และสะพานหิน นักท่องเที่ยวสามารถเดินเล่นชมเมือง ถ่ายรูป Shopping และเรียนรู้วัฒนธรรมท้องถิ่น
สถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญอีกแห่งของเมืองก็คือ ป้อมปราการ Kalaja Fortress สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 6 ตั้งอยู่บนยอดเขาทำให้มองเห็นวิวเมืองได้อย่างสวยงาม
มัสยิด Sinan Pasha Mosque มัสยิดที่ใหญ่ที่สุดในคอซอวอ สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 17
โบสถ์ Saint Demetrius Church โบสถ์เซอร์เบียออร์โธดอกซ์ สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 19
พิพิธภัณฑ์ Ethnographic Museum ตั้งอยู่ในเมือง Prizren จัดแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และวิถีชีวิตของคอซอวอ
6. เซอร์เบีย(Serbia) ดินแดนแห่งประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และธรรมชาติ
เซอร์เบีย(Serbia) หนึ่งในประเทศที่อยู่ในคาบสมุทรบอลข่าน ที่นี่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 10,000 ปี ดินแดนแห่งนี้เคยเป็นส่วนหนึ่งของจักรวรรดิโรมัน จักรวรรดิไบแซนไทน์ จักรวรรดิออตโตมัน และออสเตรียฮังการี ทำให้เซอร์เบียมีวัฒนธรรมที่หลากหลาย และเต็มไปด้วยสีสัน
เมืองเบลเกรด(Belgrade) หรือกรุงเบลเกรด เมืองที่ใหญ่ที่สุด และเป็นเมืองหลวงของเซอร์เบียที่ผสมผสานความเก่าแก่และทันสมัย Belgradeเต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ สถาปัตยกรรม และวัฒนธรรม นักท่องเที่ยวสามารถเดินเล่นชมเมือง ถ่ายรูป และเรียนรู้วัฒนธรรมท้องถิ่น สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญในกรุงเบลเกรด ที่พลาดไม่ได้ก็คือย่านเมืองเก่า หรือ Stari Grad เปรียบเสมือนหัวใจสำคัญของกรุงเบลเกรด บริเวณนี้เต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ สถาปัตยกรรมอันงดงาม
ป้อม Kalemegdan หรือ Belgrade Fortress ป้อม Kalemegdan หรือที่รู้จักกันในชื่อ Belgrade Fortress ป้อมสำคัญตั้งตระหง่านโดดเด่นอยู่เหนือเมืองหลวงของเซอร์เบีย กรุงเบลเกรด ป้อมปราการแห่งนี้มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 2,000 ปี และเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของเมือง ที่แห่งนี้เปรียบเสมือนพิพิธภัณฑ์กลางแจ้งขนาดใหญ่ ภายในป้อมปราการมีสถานที่น่าสนใจ เช่น พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ทหารที่จัดแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับประวัติศาสตร์การทหารของป้อม Kalemegdan, พิพิธภัณฑ์เมืองเบลเกรด เป็นจุดที่จัดแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของกรุงเบลเกรด, อนุสาวรีย์ Pobednik เป็นอนุสาวรีย์แห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงชัยชนะของเซอร์เบียในสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง
จัตุรัสใจกลางเมือง ที่นี่ล้อมรอบด้วยอาคารสำคัญต่างๆ เช่น พิพิธภัณฑ์แห่งชาติ หอศิลป์ อาคารรัฐบาล นับเป็นจุดนัดหมายและจุดรวมพลของนักท่องเที่ยวหลายๆ คน ย่านเมืองเก่ายังมีถนนคนเดิน Knez Mihailova ถนนสายหลักใจกลางเมืองเก่า มีร้านค้า ร้านอาหาร คาเฟ่ บาร์ เหมาะสำหรับการเดินเล่น นั่งจิบกาแฟ ชมบรรยากาศของเมือง เพลินกับการดูผู้คนเดินผ่านไปมา
Church of Saint Sava โบสถ์เซนต์ซาวา โบสถ์ออร์โธดอกซ์ สร้างขึ้นเพื่ออุทิศให้กับเซนต์ซาวา ผู้ก่อตั้งโบสถ์เซอร์เบียออร์โธดอกซ์ และบุคคลสำคัญในยุคกลางของเซอร์เบีย การก่อสร้างเริ่มขึ้นในปี พ.ศ. 2478 แต่ถูกหยุดชะงักหลายครั้งด้วยสงคราม และเหตุการณ์ทางการเมือง โบสถ์จึงแล้วเสร็จสมบูรณ์เพียงบางส่วนจนถึงปัจจุบัน Church of Saint Sava เป็นสถานที่สำคัญทางศาสนาของประเทศ ตั้งตระหง่านบนที่ราบสูงวราซาร์ในกรุงเบลเกรด ประเทศเซอร์เบีย โดมหลักของโบสถ์มีความสูง 70 เมตร ประดับด้วยไม้กางเขนสีทองขนาด 12 เมตร ภายในโบสถ์สวยงามตกแต่งด้วยโมเสก และจิตรกรรมฝาผนังอันวิจิตรบรรจง สะท้อนให้เห็นถึงศรัทธา และวัฒนธรรมอันยาวนานของชาวเซอร์เบีย นับเป็นสัญลักษณ์อันโดดเด่นของกรุงเบลเกรดที่มองเห็นได้จากทุกมุมเมือง นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นไปชมวิวเมืองบนโดมของโบสถ์ หรือเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ที่อยู่ชั้นใต้ดินของโบสถ์ พิพิธภัณฑ์แห่งนี้จัดแสดงโบราณวัตถุทางศาสนาและงานศิลปะที่เกี่ยวข้องกับโบสถ์ และศาสนาคริสต์นิกายออร์โธดอกซ์
เมืองโนวีซาด(Novi Sad) เมืองใหญ่อันดับสองของเซอร์เบีย ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของประเทศ โนวีซาดมีชื่อเสียงโด่งดังจากป้อมปราการ Petrovaradin Fortress และเทศกาล Exit เทศกาลดนตรีที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปตะวันออกเฉียงใต้
ป้อม Petrovaradin Fortress ตั้งอยู่บนเนินเขา นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นไปเดินเล่นชมป้อมปราการ มองเห็นวิวทิวทัศน์ของเมือง Novi Sad ได้อย่างสวยงาม ที่นี่ยังมีพิพิธภัณฑ์ให้เราเรียนรู้ประวัติศาสตร์ของเมือง อีกด้วย
เมืองนิส(Niš) เมืองที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของเซอร์เบีย เป็นเมืองเก่าแก่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของเซอร์เบีย เมือง Niš มีชื่อเสียงโด่งดังจาก Mediana ซากปรักหักพังของเมืองโรมันโบราณ Mediana ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของนิส ที่นี่เคยเป็นเมืองสำคัญในจักรวรรดิโรมัน ปัจจุบันเป็นแหล่งโบราณคดีที่ได้รับความนิยมมากของนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวยังเซอร์เบีย
สำหรับคนที่ชอบเที่ยวธรรมชาติ ที่เซอร์เบียก็มีอุทยานให้เที่ยว อุทยานที่มีชื่อเสียงของSerbia ก็คือ อุทยานแห่งชาติ Tara National Park ตั้งอยู่ทางตะวันตกของเซอร์เบีย เป็นอุทยานแห่งชาติที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ อุทยานแห่งชาติ Tara National Park มีทิวทัศน์ธรรมชาติที่สวยงาม เหมาะสำหรับการเดินป่า ปีนเขา ตกปลา และพักผ่อนหย่อนใจ เซอร์เบียยังมี ภูเขา Kopaonik ภูเขาที่สูงที่สุดในเซอร์เบีย ภูเขา Kopaonik เป็นแหล่งเล่นสกีที่โด่งดังในฤดูหนาว และแหล่งเดินป่า ปีนเขา ในฤดูร้อน เซอร์เบีย เป็นหนึ่งในประเทศที่มักบรรจุอยู่ในโปรแกรมทัวร์บอลข่านที่น่าไปเที่ยวยิ่งนัก
7. สโลวีเนีย(Slovenia) ดินแดนแห่งธรรมชาติอันงดงาม และวัฒนธรรมที่หลากหลาย
สโลวีเนีย(Slovenia) แม้เป็นประเทศเล็ก ๆ แต่ก็มีทุกสิ่งสำหรับนักท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่ชอบธรรมชาติ ประวัติศาสตร์ อาหาร สโลวีเนียมีวัฒนธรรมที่หลากหลาย จึงเป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางของประเทศในแถบบอลข่านที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยว สโลวีเนียมีอะไรน่าเที่ยว ตามฟรีเบิร์ด ทราเวิล แอนด์ ทัวร์ ไปพบกับ สถานที่น่าเที่ยวในสโลวีเนีย กันค่ะ
ทะเลสาบเบลด(Lake Bled) เป็นทะเลสาบที่มีชื่อเสียง และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของสโลวีเนีย ทะเลสาบBlend มีโบสถ์เซนต์แมรี่อัสซัมชัน โบสถ์เก่าแก่สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 15 ตั้งบนเกาะกลางน้ำ มีน้ำสีฟ้าใสล้อมรอบ มีเทือกเขาจูเลียนแอลป์โอบล้อมรอบ ทะเลสาบเบลดจึงได้รับการขนานนามว่าเป็น "ไข่มุกแห่งเทือกเขาแอลป์" นักท่องเที่ยวสามารถพายเรือชมทะเลสาบ เยี่ยมชมโบสถ์ หรือเดินป่าขึ้นไปยังจุดชมวิว
ถ้ำโพสโตยนา(Postojna Cave) เป็นถ้ำหินปูนที่ใหญ่มากในยุโรป เราสามารถเข้าไปชมด้านในถ้ำด้วยการนั่งรถไฟ ชมหินงอกหินย้อย และเรียนรู้เกี่ยวกับระบบนิเวศใต้ดิน
เมืองลูบลิยานา(Ljubljana) เมืองหลวงของสโลวีเนีย มาเที่ยวสโลวีเนียก็ต้องไม่พลาดมาเยี่ยมชมเมืองหลวง ลูบลิยานามีทั้งสถาปัตยกรรม พิพิธภัณฑ์ แกลเลอรี่ ร้านอาหาร ร้านกาแฟ โดยเฉพาะร้านกาแฟที่อยู่ริมแม่น้ำเราสามารถไปนั่งพักเหนื่อยจิบกาแฟชมบรรยากาศ ก็ดีนักเชียว
สโลวีเนียเป็นอีกหนึ่งประเทศน่าเที่ยวในแถบทะเลสาบบอลข่าน และเป็นหนึ่งในประเทศที่มักบรรจุอยู่ในโปรแกรมทัวร์คาบสมุทรบอลข่านที่ห้ามพลาด
ทัวร์บอลข่าน หรือทัวร์คาบสมุทรบอลข่าน ปัจจุบันได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก เดินทางครั้งเดียวเที่ยวได้หลายประเทศ โปรแกรมทัวร์บอลข่านอาจแตกต่างกันบ้างในแต่ละโปรแกรม ท่านที่สนใจทัวร์บอลข่าน ลองเลือกโปรแกรมที่ชอบ เลือกจำนวนวันที่สะดวก หรือสอบถามรายละเอียดได้ที่เจ้าหน้าที่ของฟรีเบิร์ด ทราเวิล แอนด์ ทัวร์ ทัวร์คาบสมุทรบอลข่านน่าไปแค่ไหน ก็ต้องลองไปดู อ่านมาถึงตรงนี้มีใครเคยไปเที่ยวคาบสมุทรบอลข่านกันมาแล้ว ช่วยมาแชร์กันบ้างนะคะ
- 5 JUNE 2024 -
- หากบทความนี้ดีต่อใจ ชวนคนที่คุณรักมาเที่ยวกับฟรีเบิร์ดทัวร์กันค่ะ -
สนใจโปรแกรมทัวร์คาบสมุทรบอลข่านคลิกที่นี่
คุยกับครอบครัวฟรีเบิร์ดทัวร์
โทร.02-0488-785-6 Hotline 093-570-3000 , 085-151-1000