ฝรั่งเศส | 9 ที่เที่ยวนอกกระแสแต่มีดี เที่ยวทั้งทีต้องแตกต่างที่ฝรั่งเศส(France)
ในโลกของการเดินทาง และการท่องเที่ยว ย่อมมีเมืองหลัก เมืองรอง เมืองหลัก คือ เมืองติดอันดับยอดฮิตที่ห้ามพลาด มีของดีของเด่นประจำประเทศนั้นๆ ฝรั่งเศส(France) ขึ้นชื่อเป็นประเทศยอดฮิตเรื่องการท่องเที่ยวอันดับต้นๆ ของโลกประเทศหนึ่ง มากมายด้วยสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมที่ใครๆ ก็ไปกัน ทำไมต้องเที่ยวแต่สถานที่ยอดฮิตเท่านั้น เที่ยวสถานที่ซ้ำๆ ถ่ายรูปในมุมมหาชนเหมือนกับคนอื่นๆ ฟรีเบิร์ด ทราเวิล แอนด์ ทัวร์ เชิญชวนมาหลบเมืองฮิตเมืองดัง ไปใช้ชีวิตท่องเที่ยวผ่อนคลายแบบไม่รีบร้อน ผู้คนไม่พลุกพล่าน สูดอากาศบริสุทธิ์ สัมผัสบรรยากาศของฝรั่งเศสในมุมใหม่ที่แตกต่าง ได้เห็นในสิ่งที่คนอื่นไม่ค่อยได้เห็น ฝรั่งเศส(France) ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวนอกกระแสน่าค้นหาอีกมากมายถึงแม้จะไม่ฮอตฮิตติดลมบน แต่รับประกันว่ามีความสวยงามน่าประทับใจซุกซ่อนอยู่ นับเป็นอันซีนฝรั่งเศสที่รับรองความงดงามว่าไม่เป็นสองรองใคร การได้ออกท่องเที่ยวฝรั่งเศสไปในสถานที่แปลกใหม่ สวยงามแปลกตา วัฒนธรรมท้องถิ่นที่แตกต่าง นับเป็นประสบการณ์ใหม่ที่ยากจะลืม
1. เซมูร์ อ็อง โอซัว(Semur en Auxois)
เซมูร์ อ็อง โอซัว(Semur en Auxois) เมืองเล็กๆ น่ารักเก่าแก่เงียบสงบตั้งแต่สมัยยุคกลาง แห่งแคว้นเบอร์กันดี(Burgundy) ตั้งอยู่ระหว่างเมืองปารีส(Paris) และเมืองลียง(Lyon) สร้างขึ้นด้วยหินแกรนิตสีชมพู ตัวเมืองเรียงรายไปด้วยอาคารบ้านเรือนโบราณสไตล์ฝรั่งเศสยุคกลาง หลังคาแหลมสีแดงโดดเด่น ตรอกซอกซอยปูด้วยหินเป็นทางยาวเรียงราย ตามเส้นทางเดินเต็มไปด้วย ร้านคาเฟ่ ร้านขายของที่ระลึก ร้านค้าเก๋ไก๋มีเสน่ห์ ตั้งขนานไปกับถนน วิหารประจำเมืองเก่าแก่สไตล์โกธิค มีแม่น้ำ Armancon ไหลผ่าน สองฝั่งเมืองพาดผ่านด้วยสะพานหินโบราณไร้หลังคา มองเห็นหอคอยสูงโบราณ เราสามารถเดินเล่นชมทัศนียภาพรอบด้านของเซมูร์ อ็อง โอซัว(Semur en Auxois) เป็น Hidden Gem ของแคว้นเบอร์กันดีของฝรั่งเศส เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ฟรีเบิร์ดทัวร์อยากให้ไป
2. เกรโนเบิล(Grenoble)
เกรโนเบิล(Grenoble) ตั้งอยู่แนวเทือกเขาเฟรนซ์แอลป์ เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของภูมิภาค Rhone-Alps ของประเทศฝรั่งเศส ศูนย์กลางวัฒนธรรม ศิลปะ วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี มีภูมิทัศน์สวยงามน่าทึ่ง ล้อมรอบด้วยยอดเขาสูงตระหง่านของเทือกเขาแอลป์ฝรั่งเศสที่มีหิมะปกคลุมเป็นฉากหลังที่สวยงามที่สุด อากาศสุดแสนบริสุทธิ์ เกรโนเบิล(Grenoble) เป็นเมืองที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเมืองหนึ่ง เป็นสวรรค์ของผู้รักกิจกรรมฤดูร้อนและฤดูหนาว มีกิจกรรมกลางแจ้งมากมาย สามารถเล่นสกี พายเรือแคนนูไปตามลำน้ำ ขี่จักรยานตามริมฝั่งแม่น้ำผ่านสวนสาธารณะ ตัวเมืองเก่าเต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวา เมืองรองแห่งนี้สุดจะคุ้มค่าในการให้ธรรมชาติช่วยบำบัดจิตใจได้เป็นอย่างดี
3. บลัวร์(Blois)
บลัวร์(Blois) เมืองเก่าที่มีสถาปัตยกรรมยุคกลาง ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำลัวร์ ทางตอนกลางของฝรั่งเศส มากมายด้วยสถาปัตยกรรม เมืองเก่าแก่นี้สร้างมาตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 18
ความสวยงามของเมืองเก่าเรียงรายด้วยอาคารบ้านเรือน กลุ่มปราสาทงามที่สร้างขึ้นในอดีตปรากฎเรียงรายอยู่ตามลุ่มแม่น้ำลัวร์ ไฮไลท์ที่ขาดไม่ได้ของที่แห่งนี้คือ “ปราสาทแห่งเมืองบลัวร์”(Chateau De Blois)
ปราสาทงามที่ตั้งอยู่ใจกลางเมือง เป็นหนึ่งในกลุ่มปราสาทงดงามแห่งลุ่มแม่น้ำลัวร์ ปราสาท Chateau de Chambord เป็นสถาปัตยกรรมที่เปล่งประกายความขลังของฝรั่งเศส คลิกอ่าน 6 ชาโตว์แสนงามแห่งลุ่มแม่น้ำลัวร์
4. กอร์ด(Gordes)
กอร์ด(Gordes) ตั้งอยู่ในแคว้นโพวองซ์(Provence) ตอนใต้ของประเทศฝรั่งเศส หมู่บ้านตั้งอยู่บนเชิงเขา นับเป็นหมู่บ้านที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของฝรั่งเศส ได้รับความนิยมเป็นอย่างยิ่งในหมู่นักท่องเที่ยว แต่สำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทยอาจจะยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวในฝรั่งเศสที่ไม่ค่อยคุ้นตานัก
กอร์เดส(Gordes) หมู่บ้านเล็กๆ ที่สร้างจากหินโบราณขนาดเล็กใหญ่ ลดหลั่นตามเนินเขา หลังคาทำด้วยกระเบื้องไม่มีการสร้างรั้วหรือกั้นกำแพงใดๆ ภายในหมู่บ้านถนนปูด้วยหินเก่าดูมีเสน่ห์ ผสมผสานกับสถาปัตยกรรมปราสาทยุคกลางอยู่บนยอดเขา ย่านร้านค้าในอาคารเก่าที่มีอายุหลายร้อยปี บ้านเก่าแก่ผ่านวันเวลามายาวนานจนกลมกลืนไปกับธรรมชาติ ด้านล่างของหมู่บ้านเป็นพื้นที่ทำการเกษตร ปลูกองุ่นใช้ผลิตไวน์ มะกอก ลาเวนเดอร์
5. โรซฟอร์ อ็อง แตร์(Rochefor En Terre)
โรซฟอร์ อ็อง แตร์(Rochefor En Terre) ชุมชนที่ตั้งอยู่ในแคว้นบริตทานี(Brittany) ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของฝรั่งเศส เป็นชุมชนที่มีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่งของแคว้นนี้และติด 1 ใน 100 ชุมชนที่มีความงดงามของฝรั่งเศส มีหมู่บ้านยุคกลางโบราณเก่าแก่ เป็นชุมชนที่มีเอกลักษณะเฉพาะตัวมีความงดงามคลาสิค นักท่องเที่ยวที่มีโอกาสมาที่นี่จะหลงใหลในบรรยากาศของหมู่บ้านสวยงามเล็ก ๆ ที่สร้างจากหินเก่าปูด้วยหินโบราณ ถนนตรอกซอกซอย ประดับด้วยดอกไม้หลากสีสันเพิ่มระดับความสวยในช่วงซัมเมอร์ บ้านอาคารครึ่งไม้สไตล์โกธิคตั้งแต่ศตวรรษที่ 19 ตั้งอยู่รวมกับคฤหาสน์เก่าแก่ยุคเรอเนซองส์ รู้สึกเหมือนย้อนอดีตกลับไปหลายศตวรรษ
โรซฟอร์ อ็อง แตร์(Rochefor En Terre) นับเป็นสถานที่เที่ยวนอกกระแสที่แอบซ่อนความคลาสิกไว้อย่างน่าสนใจแห่งหนึ่งในประเทศฝรั่งเศส
6. ซูลท์(Sault)
ซูลท์(Sault ) ตั้งอยู่ในแคว้นโพวองซ์(Provence) เมืองที่มีที่ตั้งท่ามกลางป่าไม้ และทุ่งลาเวนเดอร์ มีชื่อเสียงเรื่องในเรื่องการปลูกลาเวนเดอร์ โดยเฉพาะช่วงเดือนมิ.ย.-ส.ค. จะเห็นภูมิทัศน์สวยงามของทุ่งลาเวนเดอร์สีม่วงหลากหลายโทน ความสวยงามของแสงพระอาทิตย์กระทบสีม่วงของดอกลาเวนเดอร์ที่บานสะพรั่งส่งกลิ่นหอมอบอวลไปทั่วท้องทุ่ง เป็นความงดงามเกินจินตนาการ
ในแต่ละปีจะมีการจัดเทศกาลลาเวนเดอร์ที่ยิ่งใหญ่ มีขบวนพาเหรด เต้นรำ สนุกสนานครื้นเครง หากได้มาร่วมงานเทศกาลนับเป็นโอกาสที่จะได้ซึมซับวัฒนธรรมดั้งเดิมของชาวโพวองซ์ ภายในหมู่บ้านสร้างจากหินเก่าแก่ตั้งอยู่บนถนนแคบๆที่ทอดยาวตามถนนสายหลักเป็นที่พบปะผู้คน มีร้านค้า ร้านอาหาร คาเฟ่ ร้านจำหน่ายสินค้าท้องถิ่นที่ทำจากดอกลาเวนเดอร์ เดินเล่นถ่ายรูปเก็บภาพความประทับใจกับทัศนียภาพของเมืองแห่งนี้
7. อองกีเชม(Eguisheim)
อองกีเชม(Eguisheim) หมู่บ้านเล็กๆ มีเสน่ห์แบบอัลเซเชียน ตั้งอยู่เชิงเขาที่ปกคลุมด้วยไร่องุ่นกว้างใหญ่ เป็นหนึ่งในหลายหมู่บ้านของแคว้นอัลซาส(Alsace) ที่เป็นเส้นทางไวน์แหล่งปลูกองุ่นเก่าแก่ หมู่บ้านที่มีอาคารครึ่งไม้สไตล์ Half Timber house สีสันสดใสสร้างขึ้นในลักษณะวงกลมมีศูนย์กลาง มีน้ำพุ โบสถ์ ปราสาท มีสถาปัตยกรรมที่เป็นเอกลักษณ์ที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี
อองกีเชม เป็นหนึ่งในหมู่บ้านที่สวยที่สุดของฝรั่งเศสตั้งแต่ปี 2003 ในฤดูใบไม้ผลิ และฤดูร้อนจะงดงามอุดมไปด้วยไปด้วยดอกไม้หลากสี ในตรอกซอกซอย เพลิดเพลินกับบ้านเก่าแก่ มีมุมให้เดินเล่นถ่ายรูป และโดดเด่นในช่วงคริสต์มาสที่มีตลาดคริสต์มาส และมีกิจกรรมมากมายในเมืองนี้
8. รูซียง(Roussillon)
รูซิยง(Rousillon) หมู่บ้านแสนเสน่ห์ ถูกจัดอยู่ในกลุ่ม “หมู่บ้านที่สวยที่สุดในฝรั่งเศส” เต็มไปด้วยบ้านเรือนเรียบง่าย สีส้ม สีเหลือง สีน้ำตาลแดง สีคาราเมลไหม้ ซึ่งสร้างมาจากหินแร่ที่เป็นหินแร่สีแดงมีอยู่มากในแถบนี้ สีของอาคารบ้านเรือน ตัดกับทุกสิ่งรอบข้าง ตัดกับสีของประตูหน้าต่าง ต้นสนต้นไซเปรสสีเขียวเข้ม หน้าผาสีแดง ท้องฟ้าสีครามในฤดูร้อนของแคว้นโพรวองซ์ ทัศนียภาพโดยรวมช่างสวยน่าอัศจรรย์ เราสามารถเพลิดเพลินไปตามตรอกซอกซอยที่มีสีสันลดหลั่นไปไปบนสันเขา เรียงรายไปด้วย แกลเลอรี่ ร้านค้า ร้านเซรามิก ร้านค้าต่างๆ ร้านขายของกระจุกระจิก ร้านขายของที่ทำจากผลิตภัณฑ์ในท้องถิ่น นับว่าเป็นแลนด์มาร์คแปลกตาน่าเยือนของฝรั่งเศส
9. บูรช์(Bourges)
บูรช์(Bourges) เมืองยุคกลางในอดีตเป็นศูนย์กลางการค้าที่เจริญรุ่งเรือง มีเสน่ห์เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ และสถาปัตยกรรมที่งดงาม อาคารโบราณบ้านเรือนเก่าแก่ครึ่งไม้จำนวนหลายร้อยหลัง สถาปัตยกรรมอันเป็นเอกลักษณ์สำคัญของเมืองบูรช์ “มหาวิหารบูรช์”(Bourges Cathedral) หรือในภาษาฝรั่งเศสเรียก “มหาวิหารแซงต์เอเตียน”(Saint Etienne Cathedral) วิหารสไตล์โกธิคโดดเด่นพิเศษที่หน้าต่างประดับกระจกสีที่งดงาม ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากยูเนสโก(UNESCO) หรือองค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ เมื่อปี ค.ศ.1992 แม้เมืองบูรช์จะเป็นเมืองเล็กๆ แต่ความสวยงามคลาสิคไม่แพ้เมืองอื่นในฝรั่งเศส
เป็นอย่างไรบ้างคะ จะเห็นได้ว่าการเที่ยวฝรั่งเศสไม่ได้มีแค่แลนด์มาร์คที่เราคุ้นๆ กัน ยังมีอัญมณีสถานที่ท่องเที่ยวที่ซุกซ่อนอยู่ในประเทศฝรั่งเศสที่รอคุณเปิดใจไปค้นพบ รับรองว่าได้รับประสบการณ์ใหม่พร้อมความประทับใจกลับมาแน่นอน และนี่คือเหตุผลที่ฟรีเบิร์ด ทราเวล แอนด์ ทัวร์ อยากจะบอกว่า ทำไม “ฝรั่งเศส”(France) ยืนหนึ่งที่เที่ยวในฝันคนทั่วโลก
- 11 April 2022 -
- หากบทความนี้ดีต่อใจ ชวนคนที่คุณรักมาเที่ยวกับฟรีเบิร์ดทัวร์กันค่ะ -
สนใจโปรแกรมทัวร์ฝรั่งเศสคลิกที่นี่
คุยกับครอบครัวฟรีเบิร์ดทัวร์
โทร.02-0488-785-7 Hotline 085-151-1000 , 094-782-6888 และ 093-570-3000