สกอตแลนด์ | สกอตไม่ได้มีดีแค่วิสกี้
เมื่อเอ่ยถึง “ประเทศสกอตแลนด์” แว็บแรกเราอาจจะนึกถึง 'วิสกี้สกอต' คุณภาพดีระดับโลก แต่จริงๆแล้วประเทศที่ไม่ใหญ่โตมากนักอย่างสกอตแลนด์กลับมีสิ่งที่น่าสนใจทั้งด้านสถานที่ สถาปัตยกรรม วัฒนธรรม ประเพณีอยู่มากมาย
ประเทศสกอตแลนด์(Scotland) ตั้งอยู่ในทวีปยุโรปติดกับประเทศอังกฤษ เป็นหนึ่งในประเทศของสหราชอาณาจักร(สหราชอาณาจักร ประกอบไปด้วย 4 ประเทศ คือ อังกฤษ สกอตแลนด์ เวลส์ และไอร์แลนด์เหนือ) เป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจแห่งหนึ่งของยุโรป
ภาพผู้ชายใส่กระโปรงลายตารางที่เรียกว่า 'คิลท์'(Kilt) แว่วเสียงปี่สกอต ดื่มวิสกี้รสเลิศ ความน่าสนใจของประเทศสกอตแลนด์มิได้มีเพียงแค่สิ่งเหล่านี้เท่านั้น ภาพธรรมชาติที่สวยงามของแต่ละภูมิภาคท่ามกลางภูเขาที่ส่วนใหญ่จะไม่สูงตระหง่านใหญ่โตเหมือนบางประเทศในยุโรปแต่มีความน่าอัศจรรย์ในแบบของสกอตแลนด์ ภูเขามีต้นไม้เตี้ยๆปกคลุมอันเนื่องจากสภาพอากาศของสกอตแลนด์มีผลให้ต้นไม้ส่วนใหญ่ไม่เจริญเติบใหญ่เท่าใดนัก คนสกอตจะเรียกภูเขาว่า “Hill” มากกว่า “Mountain” สกอตแลนด์เป็นสวรรค์ของคนชอบเทรคกิ้งชมธรรมชาติ มีเส้นทางเดินเทรคให้เลือกหลายแบบขึ้นอยู่กับความต้องการ ยากง่ายแตกต่างกันไป แต่ความงดงามไม่แพ้กัน
แลนด์สเคปของสกอตแลนด์ที่สวยงามแปลกตาที่มีทั้งน้ำตก ทะเล ป่า ภูเขา นี่คงเป็นเหตุผลที่ถูกเลือกให้เป็นโลเคชั่นในการถ่ายทำภาพยนตร์ และซีรีส์เรื่องดังหลายเรื่องทั้งเก่าและใหม่ เช่น Outlander , เจมส์ บอนด์ Skyfall, The Dark Knight Rises , Harry Potter , Braveheart
วันนี้ฟรีเบิร์ด ทราเวิล แอนด์ ทัวร์ ขอพาคุณออกเดินทางเที่ยวไปยังเมืองดังของสกอตแลนด์ เมืองที่จะทำให้คุณหลงรักจนไม่อยากกลับประเทศกันเลย
เมืองเอดินเบอระ(Edinburgh)
เรามาเริ่มต้นกันที่เมืองเอดินเบอระ เมืองหลวงของสกอตแลนด์ และมีขนาดใหญ่อันดับสองรองจากกลาสโกว์ ที่นี่เป็นศูนย์กลางการเงินสำคัญอันดับต้นๆของยุโรป เมืองเอดินเบอระแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนที่เป็นย่านเมืองเก่า(old town) มีสถาปัตยกรรมตึกรามบ้านช่องสไตล์นีโอคลาสิคย้อนกลับไปในยุคกลางมีเอกลักษณ์เป็นของตัวเองและทำการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดีได้รับการจดทะเบียนให้เป็นมรดกโลก ศูนย์กลางย่านเมืองเก่า , ถนนรอยัลไมล์ , มหาวิหารเซนต์ไจลส์(St. Giles Cathedral), มหาวิทยาลัยเอดินเบอระ ,พิพิธภัณฑ์แห่งชาติ รวมไปถึงอาคารรัฐสภา ส่วนที่เป็นย่านเมืองใหม่(new town) มีร้านค้า ร้านอาหารนานาชาติ ห้างสรรพสินค้าแบรนด์เนม มีความทันสมัยกว่า
ปราสาทเอดินเบอระ(Edinburgh Castle)
“ปราสาทเอดินเบอระ” ปราสาทที่มีชื่อเรียกเดียวกับเมืองหลวงย่อมเป็นเจ้าถิ่นถูกสร้างแลนด์มาร์คปักลงไปในเมืองหลวง ปราสาทเอดินเบอระถือเป็นหีบสมบัติทองคำหากใครไม่ได้มาเยือนจะรู้ได้อย่างไรว่าข้างในหีบทองคำใบใหญ่นี้ซ่อนอะไรไว้ ปราสาทเอดินเบอระเป็นสถานที่ที่มีบทบาทสำคัญต่อประวัติศาสตร์ของชาวสกอตแลนด์เป็นทั้งที่ประทับของกษัตริย์ราชวงศ์สกอตแลนด์ และรวมไปถึงกลายมาเป็นป้อมปราการทางทหารก่อนที่จะมาถึงยุคปัจจุบัน ด้านในมีพิพิธภัณฑ์ให้เราได้สืบค้นประวัติศาสตร์ของสกอตแลนด์อย่างจุใจ และยังเป็นที่เก็บของสำคัญของสกอตแลนด์ไว้หลายอย่าง
จุดน่าสนใจอีกอย่างของการมาเที่ยวปราสาทเอดินเบอระก็คือ เวลาบ่ายโมงของทุกวันยกเว้นวันอาทิตย์จะมีการยิงปืนใหญ่ที่เรียกกันว่า “One O’Clock Gun”
จุดชมวิวเขาคาลตัน(Calton Hill)
จุดชมวิวเขาคาลตัน(Calton Hill) จุดชมวิวยอดนิยมของนักท่องเที่ยว ตั้งอยู่กลางเมืองเอดินเบอระ สามารถชมบรรยากาศเมืองเอดินเบอระแบบ 360 องศา เห็นทั้งเมืองเก่าและเมืองใหม่ มีสถาปัตยกรรมกระจายอยู่รอบบริเวณเนินเขาคาลตัล เช่น “อนุสาวรีย์แห่งชาติสกอตแลนด์”(National Monument of Scotland) สร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงทหารชาวสกอตที่เสียชีวิตในสงคราม ลักษณะโครงสร้างของอนุสาวรีย์แห่งนี้ได้แรงบันดาลใจมาจากวิหารพาร์เธนอนที่เอเธนส์ และยังมี “Dugald Stewart Monument” ที่สร้างเป็นอนุสรณ์สถานนักปรัชญาชาวสกอตแลนด์
พระตำหนักโฮลีรู๊ด(The Palace of Holyrood House)
ตำหนักโฮลีรู๊ดตั้งอยู่เมืองเอดินเบอระ แต่เดิมสถานที่แห่งนี้เป็นสำนักสงฆ์ถูกก่อตั้งโดยพระเจ้าเดวิดที่ 1 แห่งสกอตแลนด์ อดีตเคยเป็นที่พักอาศัยของควีนแมรี่แห่งสกอต ปัจจุบันตำหนักแห่งนี้กลายเป็นสมบัติส่วนพระองค์ของราชวงศ์อังกฤษ โดยใช้เป็นสถานที่ประทับของกษัตริย์และราชินีของประเทศสกอตแลนด์
ตำหนักโฮลีรู๊ดเป็นสถาปัตยกรรมแบบเรเนสซองส์ ภายในจัดแสดงสมบัติบางส่วนของพระราชินีอังกฤษ
ที่มาของชื่อ Holyrood เป็นคำภาษาอังกฤษ ที่แปลงจากภาษาสกอตแลนด์ก็คือ Haly Ruid แปลว่ากางเขนศักดิ์สิทธิ์(Holy Cross)
ถนนเมืองเก่ารอยัลไมล์(Royal Mile)
ถนนรอยัลไมล์(Royal Mile) ถนนในเมืองเอดินเบอระ ย้อนไปในช่วงอดีตถนนสายนี้ถูกใช้เป็นถนนเส้นหลักในการเดินทาง โดยมีต้นสายก็คือปราสาทเอดินเบอระ หากเดินทางไปจนสุดของถนนเส้นนี้ก็จะพบกับพระราชวังโฮลีรู๊ด อีกทั้งสองข้างทางของถนนเส้นนี้ยังเต็มไปด้วยร้านค้าขายของที่ระลึก ตึกเก่า ได้เห็นเสน่ห์ของเมืองเก่าสัมผัสได้ถึงความขลัง และชวนหลงใหล
ถนนรอยัลไมล์ปัจจุบันเป็นถนนที่ผู้คนจะมาเดินเล่นชมวิวเพลินๆ ได้เห็นหนุ่มในมาดนักดนตรีสวมกระโปรงลายสกอตกำลังยืนบรรเลงเพลงจากปี่สกอต คลิกอ่าน เรื่องคิลท์ๆของชายใส่กระโปรง หรือจะมาหาเลือกซื้อของฝากของที่ระลึกบนถนนสายนี้
วิหารเซนต์ไจลส์(St. Giles Cathedral)
ภาพโดย Eduardo Vieira จาก Pixabay
วิหารเซนต์ไจลส์ ตั้งอยู่ที่เมืองเอดินเบอระ สร้างขึ้นเมื่อศตวรรษที่ 12 บริเวณด้านหน้าเป็นที่ตั้งของอนุสาวรีย์ของพระเจ้าชาร์ลที่ 2 เซนต์ไจลส์เป็นวิหารที่เก่าแก่และสวยงาม ภายในประดับกระจกสีตระการตา วิหารแห่งนี้ไม่ได้มีแค่ความสวยงามแต่ยังมีเรื่องราวจุดเริ่มต้นที่สำคัญเพราะเป็นศูนย์กลางของการปฏิรูปความเชื่อ โดยมีจุดหมายในการปฏิรูปความเชื่อ และการปกครองจากนิกายคาทอลิกให้เปลี่ยนเป็นนิกายโปรเตสแตนต์ เป็นประวัติศาสตร์ในด้านศาสนาของสกอตแลนด์
เมืองกลาสโกว์(Glasgow)
เมืองกลาสโกว์(Glasgow) เมืองท่าฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติก(Atlantic Ocean) เป็นเมืองศูนย์กลางการขนส่งทางน้ำ และเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมต่อเรือที่สำคัญแห่งหนึ่งของประเทศ กลาสโกว์นับเป็นเมืองสำคัญทางด้านการเงินการธนาคารที่ใหญ่เป็นอันดับที่สามของสหราชอาณาจักร เป็นที่ตั้งของบริษัทด้านการเงินที่มีชื่อเสียงของโลก เช่น เจ พี มอร์แกน , มอร์แกน สแตนเลย์ และด้วยความเจริญเติบโตและการขยายตัวของเมืองอย่างรวดเร็วทำให้ประชากรหลั่งไหลเข้ามาอยู่ค่อนข้างมาก
เมืองกลาสโกว์ เป็นเมืองหนึ่งที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจมาเยี่ยมเยือน เนื่องจากมีความหลากหลายของกิจกรรมความสวยงามของสถาปัตยกรรม ช้อปปิ้ง งานเทศกาล พิพิธภัณฑ์
มหาวิทยาลัยกลาสโกว์(University of Glasgow)
มหาวิทยาลัยกลาสโกว์(University of Glasgow) เป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำและเก่าแก่แห่งหนึ่งของโลก ก่อตั้งขึ้นเมื่อปีค.ศ.1451 มหาวิทยาลัยตั้งอยู่บนเขา ตัวอาคารหลักของมหาวิทยาลัยเป็นสไตล์นีโอโกธิคสถาปัตยกรรมคลาสิคโอบล้อมไปด้วยสวนสาธารณะ อีกทั้งยังเด่นในด้านการสอน และงานวิจัย เป็นสถานที่ผลิตบุคคลที่มีชื่อเสียงได้รับรางวัลโนเบลหลายท่านด้วยกัน มหาวิทยาลัยกลาสโกว์แห่งนี้ยังเป็นแรงบันดาลใจให้ เจ.เค.โรล์ลิ่ง(J.K Rowling) ในการออกแบบโรงเรียนฮอกวอตส์ในภาพยนตร์เรื่องแฮรี่พอตเตอร์ อีกด้วย
มหาวิหารกลาสโกว์(Glasgow Cathedral)
มหาวิหารกลาสโกว์(Glasgow Cathedral) หรือไฮเคริค ออฟ กลาสโกว์(High Kirk of Glasgow) ชาวสกอตเรียก Church ว่า “Kirk” เป็นวิหารตั้งอยู่บนภูมิภาคแมนแลนด์(Mainland) ของสกอตแลนด์ สร้างเมื่อศตวรรษที่ 12 ตั้งอยู่ใจกลางเมืองกลาสโกว์ เป็นมหาวิหารเก่าแก่ที่สุดของสกอตแลนด์และไม่เสียหายร้ายแรงจากการปฎิรูปศาสนาในปี 1560
มหาวิหารกลาสโกว์ เป็นงานก่อสร้างด้วยหินที่มีรายละเอียดสวยงามแต่การตกแต่งภายในค่อนข้างเรียบง่ายเมื่อเทียบกับมหาวิหารอื่นๆแต่มีความวิจิตรบรรจงของหน้าต่างที่มีการประดับกระจกสีที่งดงามยิ่ง เพดานไม้คลาสิค รูปแกะสลัก ภายในห้องใต้ดินยังเป็นที่ฝังศพของนักบุญคนสำคัญ Saint Mungo อีกด้วย
ด้านหลังมหาวิหารกลาสโกว์มีไฮไลท์ที่ห้ามพลาด คือ “กลาสโกว์ เนโครโพลิส” (Glasgow Necropolis) มีพื้นที่กว้างขวาง ออกแบบพื้นปูด้วยหญ้า มีสุสานคนสำคัญๆในประวัติศาสตร์มากมาย สุสานแต่ละแห่งก่อสร้างรูปแบบตกแต่งแตกต่างกัน
พิพิธภัณฑ์เควิงโกรฟ(Kelvingrove Art Gallery and Museum)
ภาพโดย Kamyq จาก Pixabay
พิพิธภัณฑ์เควิงโกรฟ(Kelvingrove Art Gallery and Museum) เป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีชื่อเสียงของกลาสโกว์ ด้านในจัดเป็นห้องแสดงประวัติศาสตร์ในเรื่องต่างๆของประเทศสกอตแลนด์ สัตว์นานาชนิดของสกอตแลนด์ ภาพวาด อาวุธโบราณ ชุดเกราะ โบราณวัตถุ เรื่องราวในอดีตของสกอตแลนด์
เมืองอะเบอร์ดีน(Aberdeen)
เมืองอะเบอร์ดีน(Aberdeen) อยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของสกอตแลนด์ เมืองที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของสกอตแลนด์ อะเบอร์ดีนเป็นแหล่งหินแกรนนิตชั้นดีแห่งหนึ่งของโลก ดังนั้นตัวเมืองตึกรามบ้านช่องส่วนใหญ่สร้างจากหินแกรนิตทำให้เมืองจะออกเป็นสีเทาๆเงินๆสวยงามไปอีกแบบ ในเมืองนี้มีถนนที่มีชื่อเสียง คือ อะเบอร์ดีนแกรนิตมายด์(Aberdeen granite Mile) มีร้านค้า ร้านอาหารตั้งเรียงราย เป็นแหล่งช้อปปิ้ง มีห้างสรรพสินค้า แกลลอรี่ โรงละคร
อะเบอร์ดีน เป็นเมืองศูนย์กลางการด้านพลังงานปิโตรเลียม และก๊าซธรรมชาติของยุโรป ทำให้ประเทศสกอตแลนด์มีการพัฒนาประเทศอย่างต่อเนื่อง มีมหาวิทยาลัยอะเบอร์ดีน(University of Aberdeen) ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยทางด้านน้ำมันและก๊าซที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของโลก
ภาพโดย travelphotographer จาก Pixabay
เมืองสเตอร์ลิง(Stirling)
เมืองสเตอร์ลิง(Stirling) เมืองที่มีบทบาทสำคัญของประเทศสกอตแลนด์ เคยเป็นเมืองหลวงหลักของประเทศสกอตแลนด์มาก่อน เป็นเมืองที่มีความสำคัญทางด้านยุทธศาสตร์ เป็นประตูหน้าด่านจากภาคกลางสู่เขตไฮแลนด์
ปราสาทสเตอร์ลิง(Stirling Castle)
ปราสาทสเตอร์ลิง(Stirling Castle) ตั้งอยู่บนเนินเขาคาสเซิลฮิล(Castle Hill) รายล้อมด้วยผาสูงสามด้านจึงเป็นป้อมปราการอย่างดียากแก่การถูกโจมตีจากข้าศึก ปราสาทแห่งนี้ได้เปลี่ยนมือครอบครองกันระหว่างอังกฤษและสกอตแลนด์ในช่วงที่เกิดสงครามประกาศอิสระภาพระหว่างอังกฤษกับสกอตแลนด์ ปราสาทสเตอร์ลิงเป็นที่ประทับของราชวงศ์หลายพระองค์ ที่นี่ยังเป็นที่สวมมงกุฎเพื่อเข้ารับตำแหน่งของกษัตริย์และพระราชินีแห่งสกอตแลนด์อีกด้วย ปราสาทแห่งนี้จึงป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ของสกอตแลนด์มาเนิ่นนาน
อนุสาวรีย์วอลเลซ(Wallace Monument)
ภาพโดย charbelabdo86 จาก Pixabay
อนุสาวรีย์วอลเลซ(Wallace Monument) สร้างขึ้นเพื่อเป็นเกียรติให้กับวีรบุรุษที่ยิ่งใหญ่ของสกอตแลนด์ วิลเลียม วอลเลซ (William Wallace) ผู้นำการต่อต้านอังกฤษที่จะครอบครองสกอตแลนด์ เรื่องราวของวิลเลียม วอลเลซ จึงถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์ชื่อดัง “Braveheart”
ภูมิภาคที่ราบสูงสกอต(Highland)
ในเขตภูมิภาคที่ราบสูงสกอต(Highland) เป็นเขตที่กินพื้นที่ใหญ่ที่สุดของสกอตแลนด์ ที่นี่เป็นพื้นที่ประวัติศาสตร์ดั้งเดิมที่ยังคงรักษาความเป็นพื้นเมืองไว้ได้อย่างดี ใกล้ชิดธรรมชาติห่างไกลความวุ่นวายของเมือง มีทุ่งหญ้าออร่าแห่งความบริสุทธิ์ภายใต้ภูมิทัศน์ที่กว้างใหญ่ไพศาล มีทะเลสาบ หุบเขาใหญ่ ต้นไม้ แม่น้ำ ทะเล โตรกผา ธรรมชาติอันสวยงามเหล่านี้ที่ยังไม่ถูกทำลาย ดึงดูดให้ผู้คนเดินทางไปค้นหาความเป็นเอกลักษณ์ของภูมิภาคไฮแลนด์
เมืองอินเวอร์เนส(Inverness)
ภาพโดย Daniel Manastireanu จาก Pixabay
เมืองอินเวอร์เนส(Inverness) เมืองใหญ่สุดและเป็นเมืองหลวงของภูมิภาคไฮแลนด์(Highland) ตั้งอยู่ด้านเหนือของล็อกเนสส์ ตัวเมืองมีแม่น้ำเนส(Ness) ไหลผ่านกลางเมือง มีโบสถ์เก่าแก่ประจำเมืองตัวโบสถ์ตั้งอยู่บนเนินเขา ตัวเมืองเล็กๆสงบสวยงาม ประชากรส่วนใหญ่ของภูมิภาคไฮแลนด์ อาศัยอยู่ในเมืองอินเวอร์เนสนี้ อาคารสิ่งก่อสร้างส่วนใหญ่เรียงรายอยู่สองฝั่งถนนทั้งที่เป็น พิพิธภัณฑ์ โรงละคร หอสมุด ร้านค้า ห้างสรรพสินค้า สถานีรถไฟ
ทะเลสาบลอคเนสส์(Loch Ness)
ทะเลสาบลอคเนสส์(Loch Ness) อยู่บริเวณที่ราบสูงตอนเหนือของประเทศสกอตแลนด์ เป็นทะเลสาบน้ำจืดที่อาจจะไม่ใหญ่ที่สุดแต่ก็มีความความลึกเป็นอันดับ 2 รองจากทะเลสาบ Loch Morar
ทะเลสาบลอคเนสส์ถูกกล่าวขวัญถึงเรื่องตำนานของสถานที่อาศัยของสัตว์ประหลาดที่มีชื่อว่า เนสซี(Nessie) หรือสัตว์ประหลาดล็อกเนสส์(Loch Ness Monster) เป็นสัตว์เลื้อยคลานขนาดใหญ่คอยาวมีครีบสำหรับว่ายน้ำอาศัยในทะเลยุคเดียวกับไดโนเสาร์ รวมไปถึงมีผู้คนที่บอกเล่าว่าเคยพบเจอเจ้าสัตว์ประหลาดเนสซีว่ายขึ้นมาจากก้นทะเลลึกปรากฏตัวให้ผู้คนในบริเวณนั้นได้เห็น จนเกิดเป็นภาพถ่าย และภาพยนตร์มากมาย เป็นที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เดินทางตามหาตำนานสัตว์ประหลาดในบริเวณแห่งนี้
ปราสาทเออร์คูฮาร์ท(Urquhart Castle)
ปราสาทเออร์คูฮาร์ท(Urquhart Castle) ตั้งอยู่ริมทะเลสาบเนส ด้านบนของปราสาทสามารถเห็นทะเลสาบเนสได้ในมุมกว้าง ปราสาทเป็นป้อมปราการต่อสู้เพื่อเอกราชของชาวสกอตในอดีต ตัวปราสาทที่หลงเหลืออยู่ในปัจจุบันมีเรื่องราวประวัติศาสตร์อันยาวนาน
ภาพโดย Eszter Miller จาก Pixabay
เมืองฟอร์ธวิลเลี่ยม(Fort William)
เมืองฟอร์ธวิลเลี่ยม(Fort William) เมืองเล็กๆตั้งอยู่บริเวณตะวันตกเฉียงใต้ที่ราบสูงสกอตแลนด์ แม้เมืองฟอร์ธวิลเลี่ยมจะไม่ใช่เมืองที่สวยที่สุดแต่ก็เป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวหลักของสกอตแลนด์ในภูมิภาคนี้ มีชื่อเสียงทางด้านการเดินป่า ปีนเขา เนื่องจากมีภูเขาเบนเนวิส(Ben Nevis) มีพิพิธภัณฑ์ West Highland อนุสรณ์สถานจาโคไบท์ ร้านอาหาร ผับสไตล์พื้นเมือง
ภาพโดย Patrycja Kwiatkowska จาก Pixabay
Isle of Skye
Isle of Skye เกาะที่ตั้งอยู่ทางตะวันตกของแผ่นดินประเทศสกอตแลนด์ อยู่ในเขตหมู่เกาะอินเนอร์ เฮบริดีส(Inner Hebrides) เป็นส่วนหนึ่งในภูมิภาคไฮแลนด์ มีเมืองพอร์ทรี(Portree) เป็นหลวงหลักของเกาะสกายแห่งนี้ เมืองเล็กๆเงียบสงบริมทะเล บ้านเรือนสีพาสเทลตั้งเรียงรายรอบอ่าว มีที่จอดเรือประมง อีกทั้งยังมีเรือท่องเที่ยวชมสัตว์น้ำตามธรรมชาติอีกด้วย ที่นี่มีโรงแรมที่พัก ร้านอาหาร ร้านขายสินค้าพื้นเมือง ผับบาร์พื้นเมืองรวมตัวกันอยู่บริเวณนี้ทำให้เมืองพอร์ททรีแห่งนี้มีเสน่ห์แบบคูลๆ บน Isle of Skye มีปราสาท Duntulm Castle ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเกาะอันมีมหาสมุทรแอตแลนติคเหนือล้อมรอบอยู่เป็นป้อมปราการแน่นหนาเมื่อสมัยอดีต เกาะนี้ช่วงฤดูหนาวท้องฟ้าเปิด ยังสามารถเป็นจุดชมแสงเหนือได้อีกด้วย
Kilt Rock
ภาพโดย Bernd Hildebrandt จาก Pixabay
Kilt Rock หน้าผาหินริมทะเลเป็นหินบะซอลต์แนวตั้งซ้อนกันไปมาดูราวเหมือน Kilt ซึ่งเป็นกระโปรงคิลท์ของสกอตแลนด์ ด้านข้างผาหินมีน้ำตกมิลท์(Mealt) ไหลจากยอดหน้าผาลงสู่มหาสมุทรแอตแลนติค เป็นจุดไฮไลท์ของภูมิภาคไฮแลนด์
กองหินคัลลานิช(Callanish Stone)
กองหินคัลลานิช(Callanish Stone) กองหินแห่งเกาะลูอีส(Lewis) ของสกอตแลนด์มีอายุหลายพันปีคาดว่าเกิดก่อนสโตนเฮนจ์เสียอีก มีลักษณะเด่นเป็นเสาหินตั้งตรงยาวเรียวเรียงตัวกันเป็นวงกลมสร้างจากหินหลายตันที่ลากจากผืนดินเป็นระยะทางหลายไมล์ตั้งอยู่บนยอดเขามีทิวทัศน์ของทะเลสาบ หินเหล่านี้ผ่านแรงลมฝนมาเป็นระยะเวลาหลายพันปี แม้จะผ่านเวลามายาวนานมันก็ยังคงทน เนื้อหินมีความละเอียดอ่อน มีรูปร่างไม่เปลี่ยนแปลง เสาหินหลักมี 13 ต้น ความสูง 13 เมตร ส่วนเสาหินอื่นมีความสูงเฉลี่ย 1-5 เมตร วิธีจัดแนวการวางหินเหล่านี้สอดคล้องกับวัฎจักรของดวงจันทร์ คาดว่าเป็นเครื่องบอกการโคจรของดวงจันทร์ในสมัยโบราณ กองหินคัลลานิชเป็นโลเคชั่นถ่ายทำซีรีส์ดังของ Netflix เรื่อง “Outlander” ซีรีส์ดราม่าอิงประวัติศาสตร์อันยาวนานเกี่ยวกับประเทศสกอตแลนด์ นางเอกเดินทางย้อนเวลากลับไปผ่านกองหินคัลลานิช ในซีรีส์ใช้ชื่อว่า "Craigh na dun" ที่สำคัญกองหินคัลลานิชบนเกาะลูอีสประเทศสกอตแลนด์แห่งนี้เป็นสถานที่ที่ท่านสามารถชมความระยิบระยับของแสงออโรร่า(Aurora Borealis) ในวันที่ฟ้าเปิดอีกด้วย คลิกอ่าน 10 ประเทศ แสงเหนืองแรงแทงตา และสำหรับคนที่ชอบเที่ยวแบบหินๆ คลิกอ่าน สวยตะลึงทึ่งไปกับโลกแห่งหิน
เกล็นฟินนัล(Glenfinnan Viaduct)
ภาพโดย Anja Nachtweide จาก Pixabay
เกล็นฟินนัล(Glenfinnan Viaduct) สะพานทางรถไฟตั้งอยู่แถบ west highland ของสกอตแลนด์ เป็นสะพานรถไฟคอนกรีตที่ยาวที่สุดของสกอตแลนด์ ปัจจุบันรถไฟที่วิ่งอยู่บนสะพานเกล็นฟินนัลเป็นเส้นทาง West Highland Line ที่วิ่งระหว่าง Fort William และ Mallaig ดำเนินการโดยบริษัท ScotRail ในช่วงฤดูร้อนมีการบริการรถไฟหัวจักรไอน้ำ Jacobite อันเป็นรถไฟไอน้ำเก่าแก่ให้บริการนักท่องเที่ยว รถไฟไอน้ำ Jacobite Express เปิดให้บริการช่วงฤดูร้อนตั้งแต่ปี 1984 ปัจจุบันดำเนินการโดย West Coast Railways เส้นทางสายนี้วิ่งบนสะพานหินที่โค้งยาวข้ามหุบเขา ผ่านฟาร์มเกษตกร เลี้ยงวัว ผ่านแม่น้ำ Finnan อันเนื่องมาจากต้องการเดินตามรอยพ่อมดในภาพยนตร์ชื่อดัง แฮรี่พอตเตอร์(Harry Potter) กระโดดขึ้นรถไฟ Hogwarts Express ทำให้รถไฟสายนี้ โด่งดังไปทั่วโลก
เรื่องราวทางประวัติศาสตร์อันยาวนาน สถาปัตยกรรมเก่าแก่ ความงดงามตามธรรมชาติ วิถีชีวิตของชาวสกอต มีคุณค่าคู่ควรที่จะไปเที่ยวสกอตแลนด์สักครั้ง
- หากบทความนี้ดีต่อใจ ชวนคนที่คุณรักมาเที่ยวกับฟรีเบิร์ดทัวร์กันค่ะ -
สนใจโปรแกรมทัวร์สกอตแลนด์คลิกที่นี่
คุยกับครอบครัวฟรีเบิร์ดทัวร์
โทร.02-0488-785-7 Hotline 085-151-1000 , 094-782-6888 และ 093-570-3000