ที่เมืองไทยเราคงไม่เห็นแพะปีนขึ้นไปกินใบไม้อยู่บนต้นไม้เป็นแน่ แต่ๆๆที่โมรอคโคเราจะได้เห็นภาพแพะจำนวนมากมายที่ทำแบบนี้

แพะที่โมรอคโคจะปีนขึ้นไปบนต้นอาร์แกน Argan พวกเขาเหล่านี้จะปีนป่ายขึ้นไปตามต้น แทะเล็มใบไม้ และผล พร้อมทั้งคายเมล็ดทิ้ง คนที่เลี้ยงเจ้าแพะพวกนี้ก็จะเก็บเมล็ดไปขายเพราะเมล็ดจากต้นอาร์แกน(Argan) นั้นสามารถนำมาสกัดทำน้ำมันที่มีคุณค่าทางอาหารสูง และยังเป็นสินค้าส่งออกราคาแพงเป็นที่ต้องการของบริษัทผู้ผลิตน้ำหอมในยุโรปอีกด้วย

ต้นอาร์แกน(Argan) หรือมีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Argania เป็นพืชที่อยู่ในวงศ์ Sapotaceae เติบโตตามธรรมชาติบริเวณพื้นที่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของโมรอคโค ทวีปแอฟริกาตอนเหนือระหว่างเมืองอากาดีร์ (Agadir) เอสเซาอิร่า (Essaouira) และเมืองทารัวแดนท์ (Taroudant) เท่านั้น

ต้น Argan มีขนาดความสูง 8 – 10 เมตร เป็นพันธุ์ไม้ยืนต้น มีอายุยาวถึง 200 ปี เป็นพันธุ์ไม้เก่าแก่ที่สุดของโลกพันธุ์หนึ่ง ทนต่อความแห้งแล้ง และทนต่ออุณหภูมิสูงมาก อยู่ได้แม้ต้นจะขาดน้ำเป็นระยะเวลานาน ลำต้นเต็มไปด้วยหนามคดเคี้ยว เนื้อไม้มีความแข็งแรงสามารถนำมาใช้ในการก่อสร้าง หรือเป็นเชื้อเพลิง ใบมีขนาดเล็กสีเขียวแก่เป็นอาหารอย่างดีของแพะ ผลของอาร์แกนเป็นรูปไข่ สีเขียวเหลือง และจะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลเมื่อสุก ใน 1 ผล ประกอบด้วย 1 - 3 เมล็ด ต้นอาร์แกน 1 ต้นจะให้ผลประมาณ 8 กิโลกรัม

ชาวโมรอคโคเชื่อกันว่าต้นอาร์แกนเปรียบเสมือนต้นไม้แห่งชีวิต(Tree of Life) เพราะเป็นพืชที่เติบโตท่ามกลางทะเลทราย ในยุคดั้งเดิมการผลิตน้ำมันอาร์แกนจะถูกทำขึ้นด้วยหญิงพื้นเมืองชาวโมรอคโค โดยกระบวนการสกัดเย็นเพียงครั้งเดียว (Cold Press) หญิงพื้นเมืองเหล่านี้จะทำการกระเทาะเปลือกเมล็ดอาร์แกนที่แข็งออกด้วยการใช้หินทุบเบาๆ นำเมล็ดที่อยู่ข้างในออกไปย่างหรือคั่วด้วยไฟอ่อนๆ การคั่วจะมีกลิ่นที่โดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว จากนั้นนำไปสกัดน้ำออกมาโดยใช้อุปกรณ์คล้ายๆกับโม่เหมือนบ้านเรานี่แหล่ะค่ะ และจะใช้มือบีบคั้นน้ำออกอีกครั้ง

น้ำมันอาร์แกนอุดมไปด้วยวิตามินอีว่ากันว่าน้ำมันจากอาร์แกนมีวิตามินอีสูงกว่าในน้ำมันมะกอกถึง 3 เท่าเลยทีเดียว ประโยชน์ของวิตามินอีช่วยต่อต้านการเกิดอนุมูลอิสระ Anti-Oxidant ช่วยให้ความชุ่มชื่นแก่ผิว สามารถปกป้องผิวจากความแห้งกร้าน ลดรอยหมองคล้ำ

น้ำมันอาร์แกนยังมีกรดไขมันสำคัญที่ช่วยชะลอริ้วรอย รักษาความยืดหยุ่น และให้ความชุ่มชื้นให้กับผิว บำรุงให้เส้นผม และเล็บให้ดูนุ่มนวล สุขภาพดี ไม่อุดตันรูขุมขน ซึมซาบลงสู่ผิวได้อย่างรวดเร็ว

นับได้ว่าน้ำมันอาร์แกนเป็นน้ำมันมหัศจรรย์ (Magic Oil) หรือ น้ำมันทองคำ (Liquid Gold) เพราะเป็นแหล่งอาหารสำคัญ และยังเป็นเคล็บลับความงามของผู้หญิงมาตั้งแต่ยุคโบราณอีกด้วย

ว่ากันว่าตั้งแต่ปี 1990 เป็นต้นมา สมเด็จพระราชาธิบดีฮะซันที่ 2 แห่งโมรอคโค ได้มีการสนับสนุนให้ดำเนินธุรกิจส่งออกน้ำมันอาร์แกนไปทั่วโลก จึงทำให้น้ำมันอาร์แกนเป็นที่รู้จักและนิยมโดยทั่วกัน