ถอด 8 เคล็ดลับเที่ยวอินเดียให้สนุก
ประเทศอินเดีย(India) หรือสาธารณรัฐอินเดีย ประเทศที่มีประชากรมากเป็นอันดับสองของโลก และเป็นประเทศที่มีนักท่องเที่ยวหลั่งไหลเข้าไปเที่ยวอย่างไม่ขาดสาย การท่องเที่ยวของอินเดียจึงถือเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ประเทศอินเดียมี 6 ภูมิภาค และทั้งหกภูมิภาคก็มีทั้งสถาปัตยกรรม ธรรมชาติ วัฒนธรรม วิถีชีวิตที่น่าสนใจ การจะไปเที่ยวอินเดียให้ทั่วประเทศนั้น ฟรีเบิร์ดทัวร์ก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าควรใช้เวลาเท่าไหร่ถึงจะพอที่จะซึมซัมความเป็นอินเดียได้หมด
สำหรับนักท่องเที่ยวท่านใดที่ยังลังเล ระหว่างไปกับไม่ไป ประมาณว่าก็อยากเห็นของสวย แต่ก็ไม่อยากสัมผัสความไม่สวย ฟรีเบิร์ด ทราเวิล แอนด์ ทัวร์ ขอยืนยัน นั่งยัน นอนยัน ว่าอินเดียน่าเที่ยวจริงๆนะ วันนี้ขอเชิญทุกท่านตามฟรีเบิร์ดทัวร์ไปถอด 8 เคล็ดลับเที่ยวอินเดียให้สนุกกันนะจ๊ะนายจ๋า
1. เปิดใจรับความแตกต่าง
การจะเที่ยวอินเดียให้สนุกสิ่งแรกที่เราต้องทำคือ การเปิดใจรับความแตกต่าง ทั้งวัฒนธรรม สภาพแวดล้อม เสียงแตรป่วนประสาท การจราจรที่แสนจะโกลาหลวุ่นวายไร้ทิศทาง คลื่นมหาชนที่มากมายมหาศาล อาหารทั้งรสทั้งกลิ่นที่เต็มไปด้วยเครื่องเทศ สุขาที่ทำให้เราต้องจดจด เอาเป็นว่าเกือบทุกเรื่องนั่นแหละ แต่เชื่อไหมคะว่าเพราะความแตกต่างนี่เองที่ทำให้อินเดียเป็นประเทศที่น่าสนใจ มีเสน่ห์ เที่ยวแล้วสนุก เมื่อกลับมาถึงเมืองไทยเวลาผ่านไปนานแค่ไหนก็ยังทำให้เราไม่สามารถลืมเรื่องราวที่เกิดขึ้นในอินเดียได้อย่างแน่นอน แต่การจะหาเพื่อนไปเที่ยวอินเดียบอกเลยไม่ใช่เรื่องง่าย ไม่เชื่อก็ลองชวนเพื่อนๆคุณ ชวนสัก 10 คน ลองทายกันว่าเขาจะตอบรับกี่คน
2. ตราตรึงกับความสวยงามของสถาปัตยกรรมที่ไม่เหมือนใคร
นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวอินเดียนอกจากจะได้สัมผัสกับความแตกต่างของวัฒนธรรม สภาพแวดล้อม และผู้คนที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของอินเดียแล้ว สถาปัตยกรรมในอินเดียก็เป็นสิ่งที่สะกดให้เราตราตรึงกับสิ่งก่อสร้างที่บางแห่งก็เป็นหนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลก สถาปัตยกรรมในอินเดียได้รับอิทธิพลมาจากหลายๆทาง เปลี่ยนไปตามยุคตามสมัยทั้ง กรีก โรมัน เปอร์เซีย อิสลาม ผสมรวมกันเป็นสถาปัตยกรรมที่สวยงามอย่างที่เห็นทั้งอนุสรณ์สถาน พระราชวัง ป้อมปราการ สถาปัตยกรรมที่มีชื่อเสียง และทำให้เราต้องนึกถึงอินเดียก็คือ ทัชมาฮาล(Taj Mahal) เมืองอัครา(Agra) สถาปัตยกรรมหินอ่อนสีขาว อนุสรณ์แห่งความรักอันยิ่งใหญ่ ตั้งตระหง่านอยู่ฝั่งขวาของแม่น้ำยมุนา(Yamuna River) ทัชมาฮาลสร้างขึ้นโดย พระเจ้าชาห์ จาฮาน(Shah Jahan) ให้กับพระมเหสีอันเป็นที่รักของพระองค์ ทัชมาฮาลเป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก และยังได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกจากยูเนสโก(UNESCO) เมื่อปี ค.ศ. 1983 ว่าเป็น "อัญมณีแห่งศิลปะของชาวมุสลิมในอินเดียและเป็นหนึ่งในผลงานชิ้นเอกที่ได้รับการยกย่องจากทั่วโลก" คลิกอ่าน ทัชมาฮาล อนุสรณ์สถานพลังแห่งรักอันยิ่งใหญ่
ทัชมาฮาลในเวลากลางวันว่าสวยแล้ว ฟรีเบิร์ดทัวร์แนะนำว่าหากมีโอกาส และมีเวลา การได้เข้าชมทัชมาฮาลในเวลากลางคืนก็เป็นหนึ่งในความประทับใจที่ยากจะลืม การชมทัชมาฮาลตอนกลางคืนจะมีขึ้นในคืนวันพระจันทร์เต็มดวง นักท่องเที่ยวสามารถเข้าชมได้ 5 วันในหนึ่งเดือน เช่น ในคืนวันพระจันทร์เต็มดวง และสองคืนก่อน และสองคืนหลังพระจันทร์เต็มดวง ตั๋วจะเปิดจำหน่ายก่อนหนึ่งวัน การเข้าชมทัชมาฮาลในเวลากลางคืนจะปล่อยให้เข้าเป็นกลุ่มๆละ 50 คน ในหนึ่งวันจะให้เข้าเป็น 8 กลุ่มๆละ 30 นาที
นอกจากทัชมาฮาลสถาปัตยกรรมที่เป็นหน้าเป็นตาของอินเดียแล้ว ในประเทศที่มีประชากรมากเป็นอันดับสองของโลกนี้ก็ยังมีสถาปัตยกรรมอย่างอื่นที่น่าสนใจอีกไม่ว่าจะเป็น Agra Fort อีกหนึ่งสถานที่ต้องไปในอัครา ที่นี่อยู่ห่างจากทัชมาฮาลประมาณ 2 กิโลเมตร เท่านั้น ซึ่ง Agra Fort ก็ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกจาก องค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ(UNESCO) ด้วยเช่นกัน ปัจจุบันอินเดียมีแหล่งมรดกโลกมากถึง 40 แห่ง
ท่านใดที่ชอบเที่ยวสไตล์พระราชวัง ที่อินเดียก็มีพระราชวังให้เลือกเที่ยวมากมาย พระราชวังหลายๆแห่งในอินเดียพื้นที่บางส่วนถูกปรับให้เป็นโรงแรมที่พักหรูแบบชาววัง ร้านอาหารที่ตกแต่งอย่างหรูหรา และเปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้าไปเยี่ยมชม อย่างเช่น พระราชวังซิตี้พาเลซ นักท่องเที่ยวสามารถแต่งตัวสวยๆใส่สาหรี่ไปยืนโพสต์ท่ารับรองได้ว่าจะได้ภาพสวยๆกลับมาบ้านแน่นอน
สถาปัตยกรรมในอินเดีย ฟรีเบิร์ดทัวร์ขอบอกเลยว่า ไม่ว่าคุณจะไปยืนตรงไหน รูปที่ถ่ายออกมามันจะสวย เก๋ และไม่ผิดหวังจริงๆ นะ
3. ซึมซับวัฒนธรรมประเพณีที่หาดูได้ยาก
อินเดียก็เหมือนหลายๆประเทศที่มีวัฒนธรรมประเพณีที่แสดงให้เห็นถึงเอกลักษณ์ของตัวเองในแบบที่ไม่เหมือนใคร หากนึกถึงอินเดียเชื่อว่านักท่องเที่ยวหลายๆคนคงจะนึกถึงพิธีศักดิ์สิทธิ์ที่ริมฝั่งแม่น้ำคงคาในเมืองพาราณสี เมืองที่มีความเก่าแก่ยาวนานกว่า 4,000 ปี เป็นแน่ แม่น้ำคงคานับเป็นแม่น้ำที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสามของโลก และเป็นแม่น้ำสายสำคัญที่หล่อเลี้ยงชีวิต ความเชื่อ ความศรัทธาพิธีกรรม และศาสนา ของชาวอินเดียที่นับถือศาสนาฮินดูที่อาศัยอยู่บริเวณริมฝั่ง อาศัยอยู่ในเมืองพาราณสี และเมืองอื่นๆของอินเดีย แม่น้ำคงคาเป็นแม่น้ำสายสำคัญทางประวัติศาสตร์ไม่ใช่เฉพาะคนอินเดียเท่านั้นที่แวะเวียนมาที่นี่ แต่นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกเองก็อยากมาเห็น และสัมผัสกับความเชื่อของคนที่นี่ หากมีเมืองใด หรือสถานที่ใดที่ได้ชื่อว่าเป็นสถานที่ที่ไม่มีวันหลับไหล ริมฝั่งแม่น้ำคงคาในเมืองพาราณสีก็เช่นกัน ตลอดริมฝั่งของแม่น้ำคงคาในเมืองพาราณสีเราจะพบเห็นผู้คนมากมายที่กระจายตัวทำกิจกรรมต่างๆอยู่ตามฆาต(Ghat) หรือท่าน้ำ
ริมแม่น้ำคงคาในเมืองพาราณสีแห่งนี้มีฆาต(Ghat) กว่า 80 ฆาต Ghat ที่ใหญ่ที่สุดคือ Dasaswameth Ghat กิจกรรมที่ชาวอินเดียมาทำกันบริเวณริมแม่น้ำคงคา เช่น ดื่มน้ำในแม่น้ำคงคา ซักผ้า อาบน้ำชำระบาป เพราะคนอินเดียที่นับถือศาสนาฮินดูต่างมีความเชื่อว่าแม่น้ำคงคาที่มีต้นกำเนิดมาจากเทือกเขาหิมาลัยได้ไหลมาที่พระเศียรของพระศิวะจากนั้นจึงไหลลงมาสู่มนุษย์ การได้มาอาบน้ำในแม่น้ำคงคาแห่งนี้จะทำให้จิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ ปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย จึงไม่ต้องแปลกใจที่เราจะเห็นทั้งหญิง และชายมารวมตัวกันตามฆาต(Ghat) เพื่ออาบน้ำ นอกจากนี้แม่น้ำคงคาก็ยังเป็นที่ทำพิธีกรรมบูชา รวมทั้งพิธีเผาศพซึ่งเป็นสิ่งที่นักท่องเที่ยวต่างชาติอย่างเราอยากไปเห็นจริงๆกันสักครั้ง ชาวฮินดูมีความเชื่อกันว่า ศพที่นำมาเผาที่แม่น้ำคงคาจะได้ขึ้นสวรรค์ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าศพทุกศพจะสามารถนำมาเผาที่นี่ได้เนื่องด้วยการนำศพมาเผาที่แม่น้ำคงคาก็มีค่าใช้จ่าย ทั้งค่าทำพิธี รวมไปถึงค่าฟืนที่นำมาเป็นเชื้อเพลิงในการเผา การเผาศพที่นี่จะมีขึ้นทุกวัน ศพบางประเภทชาวฮินดูก็จะไม่นำมาเผา แต่จะใช้วิธีการลอยน้ำเลย เช่น ศพเด็ก หากมีโอกาสได้มาที่แม่น้ำคงคาในพาราณสี อีกเรื่องที่อย่าลืมหาโอกาสดูคือ พิธีอารตี(Aarti) มาจากภาษาสันสกฤต ที่ว่า "aratrika" ซึ่งจะมีขึ้นทุกวันๆละ 2 เวลา
สำหรับคนที่ชอบความสนุกสนาน ชอบสีสัน ฟรีเบิร์ดทัวร์ก็ขอแนะนำ เทศกาลสาดสี หรือเทศกาลโฮลี(Holi festival) เทศกาลโฮลีจะจัดขึ้นปีละครั้งๆละ 2 วัน ในเดือนมีนาคม ผู้เข้าร่วมงานจะมาสาดสีใส่กันเป็นที่สนุกสนาน ฝุ่นสีที่ฟุ้งกระจาย หน้าตา เนื้อตัวที่เลอะไปด้วยสารพัดสีช่างดูแล้วน่าสนุกจริงๆ จะว่าไปก็เหมือนเทศกาลสงกรานต์ของไทยเหมือนกันนะ สำหรับสีที่นำมาสาดใส่กันในอดีตจะสกัดมาจากพืช และสมุนไพรบางชนิด ที่ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกายมนุษย์จะแย่ก็แค่กว่าจะล้างออกก็ใช้เวลาเป็นวันๆ ส่วนเสื้อผ้าที่เลอะก็ทำใจได้เลยว่าซักไม่ออกแน่นอน ปัจจุบันสีที่นำมาใช้ก็มีการประยุกต์โดยใช้แป้งทำอาหารผสมกับสีทำอาหาร เทศกาลโฮลี(Holi festival) ไม่ได้ให้แค่ความสนุกสนานแก่ผู้ร่วมงานเท่านั้น แต่ยังมีความหมายแฝงถึงเรื่องราวของมิตรภาพอีกด้วย
4. เอ็นจอยกับอาหาร
อินเดียเป็นประเทศที่มีขนาดใหญ่ อาหารของอินเดียจึงมีความหลากหลายสะท้อนถึงวัฒนธรรมของแต่ละภูมิภาค แม้อาหารอินเดียแต่ละภูมิภาคจะมีความแตกต่างกันอยู่บ้าง แต่สิ่งที่ยังคงไว้ซึ่งเอกลักษณ์ของความเป็นอาหารอินเดียก็คือเครื่องเทศ และสมุนไพรหลากชนิดนั่นเอง นักท่องเที่ยวไทยที่จะไปเที่ยวอินเดียมักมีความกังวลเรื่องรสชาติว่าจะกินได้ไหม รสชาติจะถูกปากไหม Freebirdtour อยากจะบอกว่ารสชาติของอาหารอินเดียไม่ได้น่ากังวลอย่างที่คิด วันแรกอาจจะยังไม่เข้าที่เข้าทาง แต่พอกินๆไปคุณก็จะเริ่มชิน และจะกลายเป็นอร่อยโดยไม่รู้ตัว
เมื่อมีโอกาสไปเที่ยวอินเดียอย่าลองลืมสัมผัสการกินอาหารแบบ Thali(ถาลี) หรือ Bhojanam Thali(ถาลี) เป็นการกินอาหารที่เสิร์ฟมาในถาดกลมใบใหญ่ มีอาหารแยกเป็นถ้วยเล็กๆหลายๆถ้วย ตรงกลางของถาดอาจเป็นข้าว หรืออาจเป็นนาน หรือโรตี การกินอาหารแบบ Thali นี้ จะช่วยให้คุณได้ทานอาหารได้หลายรถชาติจบครบในถาดเดียว ไม่ต้องนั่งงงว่าจะสั่งอะไรดี เพราะเขาจะจัดมาให้เสร็จสรรพ
แต่ถ้าอยากสนุกกับการสั่งอาหารอินเดียล่ะก็ Freebird Travel & Tour ก็ขอแนะนำ ฮัดช่า....10 เมนูเด็ดที่ต้องลองเมื่อไปอินเดีย
5. สนุกสนานกับการชอปปิ้งของหลากหลาย
อินเดียเป็นประเทศที่ชอปปิ้งสนุกไม่แพ้ประเทศไหนๆ ของน่าชอป หรือของฝากจากอินเดียที่น่าซื้อก็มีมากมาย เช่น ผ้าสีสันสดใส ลวดลายให้ความรู้สึกเป็นอินเดีย ใครชอบส่าหรีคุณมาถูกทางแล้วเพราะที่อินเดียเป็นแหล่งของส่าหรีเลือกซื้อกันไม่ถูกเลยทีเดียว นักท่องเที่ยวบางท่านเมื่อไปถึงอินเดียก็ชอปส่าหรีเป็นอันดับแรกเพื่อเอามาใส่ถ่ายรูปกับสถาปัตยกรรมสวยๆของอินเดียกันเลย กระโปรง เสื้อ กระเป๋าผ้าก็เป็นของน่าชอปอีกอย่างของอินเดียเพราะที่นั่นเต็มไปด้วยกระเป๋าผ้า เสื้อ กระโปรง ลายและสีช่างเรียกเงินออกจากกระเป๋าเราจริงๆ
ใครที่ไปถึงอินเดียคงไม่พลาดที่จะซื้อผลิตภัณฑ์จาก Himalaya Herbals กลับมาอย่างแน่นอน Himalaya Herbals เป็นสกิลแคร์แบรนด์ดังของอินเดีย จุดเด่นของแบรนด์นี้คือเน้นส่วนประกอบจากสมุนไพรเป็นหลัก เช่น ว่านหางจระเข้า(Aloe Vera), สะเดา(Neem), น้ำมันจมูกข้าว(Wheat Germ Oil) Himalaya Herbals ทำออกมาในรูปแบบต่างๆ ทั้ง Lip Balm ครีมทาหน้า ครีมทาใต้ตา ครีมทาตัว โฟมล้างหน้า สครับ ฯลฯ
Himalaya Herbals เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวไทยเป็นอย่างมาก เพราะคุณภาพดี ราคาถูก Himalaya Herbals เป็นผลิตภัณฑ์ของอินเดียที่ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ.1930 Himalaya ไม่ได้เป็นที่นิยมแค่ในประเทศไทยเท่านั้น คนอินเดียเองก็นิยมใช้ รวมไปถึงอีกหลายประเทศทั่วโลกที่มีผลิตภัณฑ์ของ Himalaya ไปวางจำหน่าย หากไปถึงอินเดียแล้ว ต้องซื้อกลับมานะเพราะที่นั่นถูกจริงๆค่ะ
มาถึงเรื่องสมุนไพรก็ขอแนะนำของฝากจากอินเดียอีกอย่างนั่นก็คือ Pudin Hara เป็นยาสมุนไพรเม็ดเขียวๆใสๆ อารมณ์เหมือนกินลูกอมดับกลิ่นปากแบบเยลลี่ บรรจุอยู่ในแผงฟรอย 1 แผงมี 10 เม็ด ช่วยขับลมได้ดีนักแล กลิ่นมินต์หอมสดชื่น
ของน่าซื้อจากอินเดียอีกอย่างที่ห้ามพลาด คือ ชา ที่อินเดียมีชาขึ้นชื่ออย่างชาอัสสัม(Assam Tea) เป็นสายพันธุ์หนึ่งของชาที่ตั้งชื่อขึ้นตามภูมิภาคของรัฐอัสสัมในประเทศอินเดีย รัฐอัสสัมเป็นแหล่งปลูกชาที่สำคัญ และใหญ่ที่สุดของอินเดีย และนับเป็นแหล่งปลูกชาที่สำคัญที่สุดของโลก ชาอัสสัมมักจะเก็บเกี่ยวปีละ 4 ครั้ง โดยเฉพาะครั้งแรกและครั้งที่สองจะเก็บเกี่ยวได้ดีที่สุด ชาอัสสัมมีความเข้มข้นทั้งกลิ่นและรส เมื่อนำมาผสมรวมกับนมก็ให้ความอร่อยหวานเข้มข้นเป็นที่ถูกใจของใครหลายๆคน คลิกอ่าน วัฒนธรรม 'ชา' ประเทศไหนก็เหมือนกันจริงหรือ
6. เพลิดเพลินกับธรรมชาติที่งดงาม
สถานที่ท่องเที่ยวในอินเดียนอกจากสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นแล้ว สถานที่ที่เป็นธรรมชาติก็งดงาม และโดดเด่นไม่แพ้กัน หากท่านใดชอบเที่ยวแนวธรรมชาติ ฟรีเบิร์ดทัวร์ขอแนะนำ เลห์ ลาดัก(Leh Ladakh) เลห์เป็นเมืองหลักที่อยู่ในพื้นที่ของลาดัก จุดเด่นของที่นี่ก็คือ ทะเลสาบพันกอง(Pangong Lake) แลนด์มาร์คสำคัญที่สวยจนไม่อยากกระพริบตา ทะเลสาบพันกอง(Pangong Lake) เป็นทะเลสาบน้ำเค็มที่สูงที่สุดในโลก มีพื้นที่ส่วนหนึ่งอยู่ในอินเดีย และมีพื้นที่ส่วนใหญ่ในจีน ภาพภูเขาที่เป็นฉากหลังสลับสูงต่ำด้านหน้าเป็นทะเลสาบสีฟ้าสวยที่มาพร้อมกับท้องฟ้าอันกว้างใหญ่เติมลูกเล่นให้ธรรมชาติด้วยริ้วของเมฆสีขาวสวยจนพูดอะไรไม่ออก ความสวยสะกดนี้ไม่ใช่แค่จุดที่เป็นทะเลสาบเท่านั้น แต่ระหว่างทางที่รถวิ่งไปแม้จะไกลแต่ก็สวยจนลืมหลับกันเลยทีเดียว และถ้าโชคดีระหว่างทางเราอาจจะได้เจอกับ Marmot(มาร์มอต) สัตว์หน้าตาเหมือนกระรอกแต่มีขนาดใหญ่กว่า มาร์มอตมักจะอาศัยอยู่ในโพรง และอยู่ในพื้นที่ที่เป็นภูเขา จะจำศีลในฤดูหนาว แต่ก็ไม่ใช่ว่าทุกคนจะมีโอกาสได้เจอ ทะเลสาบพันกอง(Pangong Lake) ได้รับฉายาว่าเป็น “น้ำตาแห่งหิมาลัย” เพราะน้ำในทะเลสาบเกิดจากการละลายของหิมะจากเทือกเขาหิมาลัย
และหากได้มาเที่ยวเส้นทาง เลห์ ลาดัก(Leh Ladakh) ก็ต้องไม่พลาดกับ Hunder Sand Dunes ทะเลทรายที่แทรกตัวอยู่กลางหุบเขามีของตกแต่งเป็นกลุ่มของอูฐสองโหนกให้เราได้ลองขี่ชมวิว
Khardung La Pass เป็นถนนที่สูงที่สุดในโลกหากได้มายืนชมวิวผ่านถนนเส้นนี้ก็สวยแปลกตาไปอีกแบบ
Namgyal Tsemo Gompa เป็นจุดชมวิวที่จะทำให้คุณได้มองเห็นเลห์ ลาดัก(Leh Ladakh) ในมุมกว้าง, จุดชมวิว Sangam เป็นจุดที่เราจะได้เห็นแม่น้ำสองสาย คือ แม่น้ำสินธุ และแม่น้ำซันสการ์ ไหลมาบรรจบกัน
สถานที่ธรรมชาติอีกแห่งในอินเดียที่ฟรีเบิร์ดทัวร์แนะนำว่าสายธรรมชาติควรมาเป็นอย่างยิ่งก็คือ แคชเมียร์(Kashmir) ที่ใครๆก็ตั้งฉายาให้ที่นี่ว่าเป็นสวิตเซอร์แลนด์แห่งเอเชีย ที่นี่เราจะได้อิ่มเอมกับธรรมชาติกันจนกระอักความสุขกันเลยทีเดียว ทั้งภูเขา หิมะที่ปกคลุมเทือกเขาหิมาลัย ดอกไม้ สายน้ำ พร้อมประสบการณ์พักบนบ้านเรือ(House Boat) ที่แปลงเรือให้กลายมาเป็นโรงแรมขนาดย่อมพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวก ทั้งห้องนั่งเล่น ห้องครัว ห้องน้ำ ระเบียง และแถมฟรีวิวทะเลสาบดาล(Dal Lake) อันกว้างใหญ่ การได้พักบนบ้านเรือจะทำให้เราได้ดื่มดำกับบรรยากาศของที่นี่ได้อย่างเต็มที่ การได้นั่งมองเรือshikara ที่สัญจรไปมาในทะเลสาบดาลแห่งนี้ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย เพลิดเพลิน ยามเมื่อตื่นเช้าได้เห็นหมอกที่ไล่เลื้อยไปตามผืนน้ำช่างเป็นสุดยอดของธรรมชาติที่แทรกตัวอยู่ตามวิถีชีวิตของคนท้องถิ่น
หากมาที่นี่สำหรับคนตื่นเช้าแนะนำให้นั่งเรือเที่ยวตลาดเช้า เรือจะแล่นช้าๆ ผ่านชุมชนสองฝั่งได้เห็นชีวิตของผู้คน ร้านค้าเล็กๆ ในบ้านของพวกเขา เรือจำนวนมากที่บรรทุกสินค้าทั้งของสด ของแห้ง ดอกไม้หลากสี มาขายแลกเปลี่ยนกัน อากาศยามเช้าที่แผ่ความหนาวไปทั่วร่างไม่ได้เป็นอุปสรรค เพราะความเพลิดเพลิน และความสนุกที่เกิดขึ้นตรงหน้าทำให้ละความรู้สึกหนาวได้อย่างฉับพลัน อีกหนึ่งไฮไลท์ของการมาเที่ยวแคชเมียร์ คือ ขึ้นกระเช้ากอนโดราไปชมความสวยงามของหิมะ อยากจะสัมผัสกับอะไรเลือกฤดูกาลให้ถูกก็จะได้อิ่มเอมกับสิ่งนั้น
นักท่องเที่ยวท่านใดชอบนั่งเรือชมบรรยากาศ ในหลายๆ ประเทศก็มีเรือที่หน้าตาต่างกันไป Freebird Travel and Tour ชวนคลิกอ่าน เคยนั่งไหม? 5 เรือฮิปๆสัมผัสชีวิตคนท้องถิ่น
หากมีเวลาหลายๆวันเราสามารถจัดทริปรวบทั้ง เลห์ ลาดัก(Leh Ladakh) และแคชเมียร์(Kashmir) ไปพร้อมๆกันได้เลย เพราะทั้งสองตั้งอยู่ทางเหนือสุดของประเทศอินเดีย ดินแดนส่วนมากตั้งอยู่ในเทือกเขาหิมาลัย
7. สนุกสนานกับสิ่งที่พบเห็น
การได้มาเที่ยวอินเดียนอกจากจะได้ทึ่งกับความอลังการของสถาปัตยกรรม อิ่มเอมกับความสวยงามของธรรมชาติแล้ว การได้ซึมซับ เรียนรู้วิถีชีวิตของผู้คน ก็ทำให้การมาเที่ยวอินเดียของคุณสนุกมากขึ้น
เพราะคุณจะได้สัมผัสกับวิถีชีวิตของคนท้องถิ่นตั้งแต่เช้าจรดเย็น บรรยากาศของการทำงาน บรรยากาศของการพูดคุย บรรยากาศของการค้าขาย ร้านค้า สตรีทฟู้ด ผู้คนที่บางครั้งก็เข้ามาคุยกับคุณเหมือนรู้จักกัน การจราจรที่แสนจะวุ่นวาย การข้ามถนนที่แสนจะลำบาก เสียงแตรที่บีบเข้าใส่กันอย่างกับเสียงเพลงในงานเลี้ยงอะไรสักอย่าง บนท้องถนนของอินเดีย เป็นพื้นที่ที่มีทุกอย่างให้เลือกสรร ที่มีทั้งผู้คน รถ ลา อูฐ วัว ที่เดินกันขวักไขว่ แบบไม่มีใครต้องเกรงใจใคร เป็นวิถีชีวิตปกติของคนที่นี่ ที่ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันอย่างไม่เกี่ยงงอน
ประเทศที่เต็มไปด้วยสีสันคัลเลอร์ฟูล ทฤษฎีแม่สีใดๆไม่มีความหมาย แฟชั่นนิสต้ายังอาย ชุดสาหรี่ท่อนบนสีม่วง ท่อนล่างชมพู สีสันอีกอย่างบนท้องถนนก็คือเพื่อนร่วมทางที่ไม่ได้มีแค่คน แต่ยังเต็มไปด้วย วัว ลา เกวียน ทั้งหมดคือเสน่ห์ของอินเดีย และความเพลิดเพลินที่หาที่ไหนไม่ได้แน่นนอน
8. เตรียมพร้อมเรื่องทิป
สถานที่ท่องเที่ยวตามเมืองท่องเที่ยวเช่น ชัยปุระ อัครา นักท่องเที่ยวต้องทำใจเรื่องการร้องขอทิป ไม่ว่าคุณจะขยับตัวทำอะไร บางครั้งก็จะมีเขาเข้ามาขอเอี่ยว เริ่มตั้งแต่ห้องน้ำสนามบิน อยู่ๆก็มีสาวใส่สาหรี่มาช่วยเปิดประตูห้องน้ำให้ แล้วแทรกตัวของเธอเข้าไปเช็ดฝารองชักโครก พอคุณออกมาจากห้องน้ำเธอก็กุลีกุจอเปิดก๊อกน้ำล้างมือ พร้อมปิดให้เสร็จสรรพ หากเราเคยไปอินเดียครั้งแรกในใจของเราคงคิดว่าทำไมเธอคนนี้ถึงดีกับเราจัง แต่เมื่อภารกิจของเราที่มีเธอคนนั้นเข้ามาเกี่ยวจบลงเธอก็เอ่ยปากว่า "ทิป" พร้อมกับยื่นมือมาหาเรา...เมื่อเราไปเที่ยวตามสถานที่ท่องเที่ยวแล้วต้องถอดรองเท้าแนะนำให้คุณจับรองเท้ายัดใส่กระเป๋าของคุณเข้าไปด้วย ไม่เช่นนั้นเมื่อคุณเดินออกมาคุณจะพบกับคนที่เฝ้ารองเท้าของเราอยู่ทั้งๆที่รองเท้ามันกองวางระเกะระกะเป็นร้อยๆคู่ เขาก็จะมายืนกดดันคุณประหนึ่งว่าคุณต้องให้ทิปนะจ๊ะ.....แม้แต่คนที่มาอาสาถ่ายรูป หรือแสดงน้ำใจช่วยเหลือ แนะนำ คุณก็อาจจะถูกเรียกทิปจากเขาได้ และเรื่องที่เด็ดมากคือห้องน้ำในสถานที่ท่องเที่ยวแห่งหนึ่ง ด้านในไม่มีน้ำ เมื่อคุณเสร็จภารกิจแล้วเปิดประตูออกมาคุณจะเจอกับหญิงชาวอินเดียที่ยืนยิ้มหวานพร้อมขันน้ำ เธอสาดน้ำเข้าไปด้านในอย่างรุนแรง จากนั้นเธอก็ยื่นมือมาหาพร้อมพูดว่า "ทิป" โอ้วแม่เจ้าอิฉันรับไม่ได้ตรงที่ว่ามันมีคนมายืนต่อคิวหน้าห้องน้ำที่ประชิดตัวมาก นึกไม่ออกเลยว่าถ้าเราถ่ายหนัก แล้วเปิดประตูออกมาด้านในเต็มไปด้วยเรื่องราวมากมายที่ถ่ายทอดเอาไว้ ด้านนอกมีคนมายืนรอประหนึ่งให้กำลังใจ คุณจะสบตากับพวกเขาเหล่านั้นอย่างไร
อ่านมาถึงตอนนี้ตัดสินใจได้แล้วหรือยังคะว่าอยากไปเที่ยวอินเดียกันหรือไม่ บางครั้งเรื่องเล่า มันก็ไม่เท่ากับเรื่องราวที่เราได้ไปเจอเอง ความสนุกที่คนอื่นเล่า ก็ไม่เท่าความรู้สึกที่เราสัมผัสได้ด้วยตัวเอง ประสบการณ์ใดๆในหนังสือหน้าไหน ก็ไม่เท่ากับประสบการณ์ที่เกิดขึ้นกับตัวเอง ฟรีเบิร์ด ทราเวิล แอนด์ ทัวร์ ชวนคุณมาเริ่มต้นเที่ยวอินเดียที่รัฐนี้กันก่อน มหัศจรรย์อินเดีย กับ 8 เมืองสวยหลากสีแห่งราชสถาน....ไปทัวร์อินเดียกันสักครั้งแล้วคุณจะหลงรักอินเดีย
- 11 December 2021 -
- หากบทความนี้ดีต่อใจ ชวนคนที่คุณรักมาเที่ยวกับฟรีเบิร์ดทัวร์กันค่ะ -
สนใจโปรแกรมทัวร์อินเดียคลิกที่นี่
คุยกับครอบครัวฟรีเบิร์ดทัวร์
โทร.02-0488-785-7 Hotline 085-151-1000 , 094-782-6888 และ 093-570-3000