เที่ยว 5 เมืองสุดโรแมนติกแห่งแคว้นอัลซัส ฝรั่งเศส
แคว้นอัลซัส(Alsace) เป็นหนึ่งในหลายๆแคว้นของฝรั่งเศสที่ตั้งอยู่ติดกับพรมแดนของประเทศเยอรมัน พื้นที่นี้ในอดีตที่ผ่านมา สลับการปกครองกันระหว่างฝรั่งเศสบ้าง เยอรมันบ้างจนสุดท้ายก็อยู่ภายใต้การปกครองของฝรั่งเศส แต่ลักษณะบ้านเมืองได้รับอิทธิพลมาจากเยอรมันแบบเต็มๆ คือ การสร้างบ้านแบบ Timber Framing ที่จะตีกรอบไม้ให้กับโครงบ้าน และหลังคาเป็นรูปทรงจั่ว ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ที่โด่ดเด่น
การสร้างบ้านในลักษณะ Timber Framing เป็นที่นิยมมากว่า 400-500 ปี มาแล้ว และปัจจุบันบริเวณแคว้นอัลซัส(Alsace) ก็ยังคงรักษาสไตล์บ้านแบบนี้ไว้ นับเป็นจุดเด่นที่ทำให้หมู่บ้านและเมืองละแวกนี้น่าเที่ยวขึ้นไปอีก วันนี้ฟรีเบิร์ด ทราเวิล แอนด์ ทัวร์ จะพาทุกท่านไปรู้จักเมืองท่องเที่ยวต่างๆของแคว้นนี้กัน
1. เมืองกอลมาร์(Colmar)
เมืองชายแดนแห่งแคว้นอัลซัสที่มีพรมแดนติดกับเยอรมัน เป็นเมืองที่สุดแสนจะโรแมนติกจากบ้านเรือนสไตล์ Timber Framing ที่มีสีสันสดใสต่างกันไป เหลืองบ้าง แดงบ้าง แซมไปกับกระถางดอกไม้เล็กๆที่ประดับประดาอยู่ทั่วเมือง ภายในเมืองยังมีแม่น้ำสายน้อยไหลผ่านทำให้ดูร่มรื่นขึ้นอีก บรรยากาศแบบนี้มันช่างจะโรแมนติกเสียเหลือเกินจึงไม่แปลกใจเลยที่เมืองกอลมาร์จะเป็นจุดหมายปลายทางของคู่รักทั้งหลาย จุดเด่นของเมืองกอลมาร์อีกอย่างนั่นก็คือเป็นเมืองที่ขึ้นชื่อเรื่องไวน์จนถูกเรียกว่าเมืองหลวงแห่งไวน์ของแคว้นอัลซัสเลยก็ว่าได้เพราะพื้นที่ในแคว้นอัลซัสนั้นมีการปลูกองุ่น และมีโรงบ่มไวน์มากมาย ท่านใดแวะเวียนไปก็อย่าลืมไปลิ้มลองรสไวน์ชื่อดังกันด้วย
2. เมืองริคเวีย(Riquewihr)
ห่างไปจากเมืองกอลมาร์ไม่ไกลกันนักมีหมู่บ้านที่ขึ้นชื่อว่าสวยที่สุดในฝรั่งเศสซ่อนอยู่นั่นก็คือ Riquewihr หมู่บ้านที่คงรักษาบ้านเรือนไว้อย่างสมบูรณ์แบบตั้งแต่สมัยยุคกลางแม้แต่ภัยจากสงครามโลกก็ไม่สามารถทำอะไรเมืองนี้ได้เลย ภายในหมู่บ้านนอกจากจะเที่ยวชมบ้านเรือนต่างๆแล้ว ท่านยังสามารถเข้าไปชมประวัติความเป็นมา และเรื่องราวต่างๆของแคว้นในช่วงสงครามโลกได้ที่พิพิธภัณฑ์ของเมืองได้ด้วย จุดเด่นอีกอย่างของหมู่บ้านแห่งนี้คือ หอนาฬิกาประจำเมือง Tour du Dolder ที่ตั้งตระหง่านเด่นอยู่กลางเมือง
3. เมืองริโบวิลเล(Ribeauville)
อีกหนึ่งในความสวยงามของหมู่บ้านสไตล์ Timber Framing ในแคว้นอัลซัสก็คือ ริโบวิลเลหมู่บ้านที่มีประวัติความเป็นมาตั้งแต่ยุคกลาง ภายในเมืองมีการคงรักษาความสมบูรณ์ของบ้านเรือนต่างๆไว้เป็นอย่างดีแต่ที่จะต่างจากเมืองในแคว้นอัลซัสอื่นๆก็คือเมืองนี้ล้อมรอบไปด้วยกำแพงเมืองโบราณ นักท่องเที่ยวนอกจากจะเที่ยวชมสถาปัตยกรรมบ้านเมืองแล้วยังสามารถเดินเที่ยวชมโบสถ์สไตล์โกธิค 2 แห่งของเมืองคือ St.Greggory และ St.Augustine
4. เมืองเอกีเชม(Eguisheim)
ที่นี่ติดหนึ่งในหมู่บ้านที่ขึ้นชื่อว่าสวยที่สุดของฝรั่งเศส เมืองเล็กๆในแคว้นอัลซัสจุดเด่นก็จะไม่ต่างจากเมืองอื่นๆเท่าไหร่ แต่เอกีเชมแห่งนี้จะมีตรอก มีมุม ให้บรรดาผู้ที่ชื่นชอบการถ่ายรูปเยอะมาก ไม่ว่าจะเป็นมุมเผลอ มองข้าง มุมเหม่อ กับฉากสุดสวยอย่างบ้านสไตล์ยุโรปยุคกลาง ซุ้มดอกไม้แสนสวย กระถางต้นไม้ดอกน้อยๆตามซุ้มหน้าต่าง แค่คิดก็ได้ภาพแล้วล่ะ
5. เมืองสตราสบูร์ก(Strasbourg)
ทุกแคว้นย่อมมีเมืองหลวงในการปกครอง สตราสบูร์ก ก็คือเมืองหลวงของแคว้นอัลซัสแสนสวยนี่เอง สตราสบูร์กเป็นเมืองหลวงที่ได้รับอิทธิพลจาก 2 ประเทศทั้งฝรั่งเศสและเยอรมัน ภายในเมืองหลวงจึงมีสถาปัตยกรรมผสมผสานระหว่างฝรั่งเศสและเยอรมัน ใจกลางเมืองสตราสบูร์กมีการรักษาส่วนของเมืองเก่าไว้เป็นอย่างดีและได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกอีกหนึ่งแห่งที่อยู่ในฝรั่งเศสอีกด้วย บรรยากาศของบ้านเมืองผสมผสานของสองวัฒนธรรมอย่างลงตัวทั้งเยอรมันและฝรั่งเศส ของเด่นของเด็ดของเมืองแห่งนี้ก็คือไวน์ขาวอันขึ้นชื่อติดอันดับไวน์รสดีที่มีอยู่ในโลกมนุษย์อีกด้วย สายดื่มห้ามพลาดเชียวล่ะ
เมื่อมาถึงเมืองนี้ก็ต้องไม่พลาดเยี่ยมชมจัตุรัสใหญ่ใจกลางเมืองอย่าง Gutenberg, พระราชวังโรฮัน Palais Rohan และมหาวิหารแห่งสตราสบูร์ก เป็นต้น
ฝรั่งเศสเป็นประเทศในกลุ่มประเทศยุโรปที่คนไทยสามารถไปเที่ยวได้ไม่ยากทั้งระบบคมนาคมการเดินทางที่สะดวกสบาย หากใครที่อยากเดินทางมายุโรปแต่ยังไม่มีไอเดียว่าไปที่ไหนดี ฟรีเบิร์ดทัวร์ขอแนะนำให้คุณลองมาเที่ยวฝรั่งเศสโดยเฉพาะแถบแคว้นอัลซัส ความงดงามดุจเมืองในเทพนิยายสวยจนต้องบอกต่อเลยทีเดียว
- หากบทความนี้ดีต่อใจ ชวนคนที่คุณรักมาเที่ยวกับฟรีเบิร์ดทัวร์กันค่ะ -
สนใจโปรแกรมทัวร์ฝรั่งเศสคลิกที่นี่
คุยกับครอบครัวฟรีเบิร์ดทัวร์
โทร.02-0488-785-7 Hotline 085-151-1000 , 094-782-6888 และ 093-570-3000