หากพูดถึงทวีปแอฟริกา(Africa) หนึ่งในประเทศที่โด่งดังของทวีปแอฟริกาก็คือ แทนซาเนีย(Tanzania) ตั้งอยู่ทางตะวันออกของทวีป เป็นประเทศที่มีเสน่ห์ในแง่ความหลากหลายที่สุดโต่ง ดินแดนแห่งทุ่งหญ้ากว้างใหญ่ ป่าฝน ภูเขา ทะเลสาบ ภูเขาไฟ ภูมิทัศน์อันน่าตื่นเต้นปูพรมด้วยสัตว์ป่านานาชนิด เป็นประเทศที่มีระบบนิเวศที่ดีที่สุดแห่งหนึ่ง อากาศแสนบริสุทธิ์ มีวัฒนธรรมเก่าแก่มีเอกลักษณ์เป็นของตนเองสร้างความน่าทึ่งให้กับผู้ได้ไปเยือน การได้เดินทางท่องเที่ยวแทนซาเนียเราจะได้สัมผัสประสบการณ์สุดมหัศจรรย์แตกต่างจากที่เคยพบเห็น และไม่สามารถหาได้จากที่อื่น ฟรีเบิร์ด ทราเวิล แอนด์ ทัวร์ ชวนคุณบุกป่า ฝ่าทุ่งหญ้าเพื่อ เติมเต็มประสบการณ์แปลกใหม่กับ 5 มหัศจรรย์น่าทึ่งแห่งแทนซาเนีย(Tanzania)

1. มหัศจรรย์เกาะงามแห่งซานซิบาร์(Zanzibar)

ซานซิบาร์(Zanzibar) เกาะกลางทะเลในมหาสมุทรอินเดีย นอกชายฝั่งตะวันออกของทวีปแอฟริกา อยู่ในความดูแลของประเทศแทนซาเนีย(Tanzania) ซานซิบาร์มีชายหาดที่เงียบสงบห่างไกลผู้คน มีชื่อเสียงในด้านชายหาดสวยน้ำใสสะอาด ทรายขาวละเอียด น้ำทะเลสีฟ้าที่ซานซิบาร์สีฉูดฉาดไล่สีต่างเฉด ตัดกับท้องฟ้าสีคราม ต้นปาล์มที่แกว่งไปมาตามสายลม เพลิดเพลินกับกิจกรรมทางน้ำ ดำน้ำตื้น ดำน้ำลึกชมแนวปะการังงดงาม ว่ายน้ำ อาบแดด

หาดทรายแห่งซานซิบาร์เป็นที่พักผ่อนหย่อนใจของคนท้องถิ่นสามารถพบเห็นวิถีชีวิตคนท้องถิ่นที่นั่งเล่น นอนเล่น เล่นกีฬา เต้นระบำตามชายหาด ผสมผสานภาพชาวมาไซเดินย่ำบนชายหาดทรายสีขาวตัดกับชุดพื้นเมืองสีแดงสะท้อนสีฟ้าครามสดใสของมหาสมุทรอินเดีย นับเป็นการสัมผัสวิถีคนท้องถิ่นได้ในอีกรูปแบบหนึ่ง

เกาะซานซิบาร์แห่งนี้เคยเป็นจุดเปลี่ยนการค้าบนเส้นทางสายไหมทางทะเลระหว่างแอฟริกาและเอเชียในอดีต และเป็นจุดค้าทาสแอฟริกาที่สำคัญในสมัยก่อน ด้วยเหตุนี้จึงเป็นที่รวมของพ่อค้าอาหรับ ยุโรปหลายชาติ และเปอร์เชีย ต่างได้ทิ้งร่องรอยอารยธรรมไว้ ทำให้ซานซิบาร์มีสถาปัตยกรรมและวัฒนธรรมที่ผสมผสานสามารถพบเห็นได้ชัดที่เขตเมืองเก่าที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากยูเนสโก(UNESCO) หรือองค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ(United Nations Educational, Scientific and Cultural Organization) เมื่อปี ค.ศ.2000 ซานซิบาร์(Zanzibar) มี "สโตนทาวน์(Stone town)" เป็นย่านเก่าแก่ ตรอกซอกซอยเต็มไปด้วยบ้านของคนท้องถิ่นเก่าแก่ วังเก่าของสุลต่าน สุเหร่าโบราณ ตลาดท้องถิ่นมีขายอาหาร และเครื่องเทศมากมาย และที่สโตนทาวน์ เกาะซานซิบาร์แห่งนี้ยังเป็นบ้านเกิดของ Freddie Mercury นักร้องนำ และนักแต่งเพลงวงดังกระฉ่อนโลก “Queen” อีกด้วย

ร้านจำหน่ายเครื่องเทศใน darajani-market ย่าน สโตนทาวน์(Stone town)

2. มหัศจรรย์แห่งการอพยพครั้งยิ่งใหญ่(The Great Migration)

ปรากฎการณ์ "การอพยพครั้งยิ่งใหญ่(The Great Migration)" ฤดูการอพยพย้ายถิ่นของสัตว์ครั้งยิ่งใหญ่ เริ่มประมาณเดือน ก.ค. - ต.ค. ของทุกปีในประเทศแทนซาเนียและเคนย่า วงจรชีวิตนี้เป็นวงกลมตามเข็มนาฬิกา ช่วงพ.ค. ฤดูแล้งมาเยือนทุ่งหญ้าในเขตสะวันนาในประเทศแทนซาเนีย ทำให้สัตว์เริ่มหาแหล่งอาหารแห่งใหม่ อิมพาลา แอนทีโลป และโดยเฉพาะ ฝูงวิลเดอะบีสต์(Wildebeest, wildebeast) สัตว์หน้าตากึ่งแพะกึ่งกวางกึ่งวัว ฝูงม้าลายจำนวนมหาศาลต่างอพยพย้ายหนีแล้งจากที่ไม่มีอาหารทางใต้ของแทนซาเนียทยอยมาทางตะวันตกขึ้นสู่ทางเหนือบางส่วนเข้าสู่ใจกลางอุทยานแห่งชาติเซเรนเกติ(Serengeti National Park) ก่อนที่จะข้ามแม่น้ำมารา(Mara River) ไปยังเขตป่าสงวนมาไซมาร่า ประเทศเคนย่าที่อยู่ติดกันในช่วงประมาณเดือน ก.ค. - ส.ค.

ในระหว่างการอพยพของเหล่าฝูงวิลเดอบีสต์(Wildebeest, wildebeast) จำนวนมหาศาลพยายามใช้ทักษะที่มีเอาตัวรอดจากสัตว์นักล่า เช่น จระเข้ที่รอคอยดักเหยื่ออันโอชะที่กำลังข้ามแม่น้ำ บ้างก็สามารถรอดชีวิตมาได้ บ้างก็ตายระหว่างทาง ช่วงประมาณ ก.ย. - ต.ค. ฝูงสัตว์เหล่านี้จะอพยพย้ายถิ่นครั้งใหญ่อีกครั้งจากประเทศเคนย่ากลับสู่แทนซาเนีย อาจไม่สามารถยืนยันได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ว่าจะเห็นเหล่าบรรดาสัตว์มากมายวิ่งกรูกันทุกครั้ง ขึ้นกับการเปลี่ยนแปลงของอากาศและปริมาณน้ำฝนในแต่ละปี แต่ช่วงเวลาดังกล่าวมีโอกาสจะได้พบกับภาพมหัศจรรย์ การอพยพครั้งยิ่งใหญ่ในตำนานนี้ สร้างความน่าตื่นตาตื่นใจแทบลืมหายใจเห็นแล้วต้องร้องว้าวๆๆ ทำให้ผู้คนทั่วโลกต่างพากันหลั่งไหลมาเที่ยวแทนซาเนียทุกปีเพื่อพบภาพความประทับใจในเหตุการณ์น่ามหัศจรรย์นี้ด้วยตาตนเองโดยไม่ต้องดูผ่านสารคดีเนชั่นแนลีโอกราฟิก(National Geographic) เพียงอย่างเดียวอีกต่อไป

3. มหัศจรรย์ ใกล้ชิดชีวิตสัตว์ป่าหาดูยาก

ประเทศแทนซาเนีย(Tanzania) มีความอุดมสมบูรณ์ตามธรรมชาติ มีพื้นที่เขตสงวนอนุรักษ์สัตว์ป่าอุทยานแห่งชาติหลายแห่งที่แผ่กระจายอยู่ทั่ว เขตทุ่งหญ้าสะวันนา ทุ่งหญ้าเขตร้อนที่มีอุณหภูมิอบอุ่นตลอดทั้งปีมีฝนตกตามฤดูมีลักษณะเป็นหญ้า และต้นไม้ขนาดเล็กกระจายตัวในทุ่งหญ้ากว้างใหญ่ เป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่ามากมายทั้งสัตว์กินเนื้อ สัตว์นักล่า และสัตว์กินพืช เพลิดเพลินกับภาพน่าตื่นตาตื่นใจ สิงโตสีน้ำตาลนอนหลับตาพริ้มอวดโฉมบนต้นไม้

เสือชีต้าลายสวยงามตาแป๋วๆ วิลเดอบีสต์ปะปนกับม้าลายเดินเรียงราย ม้าลายลวดลายไม่ธรรมดาอยู่กันเป็นฝูงมองเห็นแล้วละลานตา

สิงโตแลบลิ้นแผลบๆ วิ่งไล่ล่าเหยื่ออันโอชะ ฝูงยีราฟร่างระหงประหนึ่งนางแบบยืนเล็มต้นไม้ ช้างแอฟริกายิ่งใหญ่ยืนดูน่าเกรงขาม นกมากมายหลายร้อยสายพันธุ์

หรือแม้แต่สัตว์ที่เป็นนักล่า สิงโต เสือชีต้าร์ ไฮยีนา มีให้ดูมากมาย การได้ชมชีวิตใกล้ชิดสัตว์ป่าสามารถเลือกเพลิดเพลินกับเกมส์ไดร์ฟ(Game Drive) โดยนั่งรถเปิดหลังคามองหาบิ๊กไฟว์(Big 5) หรือเลือกชมสัตว์ป่าโดยขึ้นบอลลูนซาฟารี(Balloon Safari) ที่อุทยานเซเรเกติ นั่งบอลลูนขนาดใหญ่ลอยเหนือน่านฟ้าอันเงียบสงบในช่วงยามเช้าตรู่ สูดอากาศบริสุทธิ์ชมวิวแบบ Bird eye view มองเห็นความอัศจรรย์ของฝูงสัตว์ป่าในมุมกว้างแบบ 360 องศา

อุทยานแห่งชาติเซเรนเกติ(Serengeti National Park) อุทยานที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติจากยูเนสโก(UNESCO) หรือองค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (United Nations Educational, Scientific and Cultural Organization) เมื่อปี ค.ศ.1981 ความสนุกของการเที่ยวอุทยานแห่งชาติเซเรนเกติ(Serengeti National Park) คือเราจะได้ชมสัตว์ป่านานาชนิดในทุ่งหญ้าเซเรนเกติอันกว้างใหญ่ ไม่เพียงแต่ความกว้างใหญ่เท่านั้นที่เป้นจุดเด่นของอุทยานแห่งนี้ ในแต่ละปีเราจะยังมีโอกาสได้เห็นปรากฎการณ์ "การอพยพครั้งยิ่งใหญ่(The Great Migration)" จะเกิดการย้ายถิ่นสัตว์ป่าจำนวนมหาศาล โดยเฉพาะวิลเดอบีสต์ และม้าลาย นอกจากนี้เราจะยังได้ชม บิ๊กไฟว์(Big 5) ที่โด่งดังที่สุดในแอฟริกา

เขตสงวนพันธุ์สัตว์ป่าโกรงโกโร(Ngorogoro Conservation Area) ได้การขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลจากจากยูเนสโก(UNESCO) หรือองค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ(United Nations Educational, Scientific and Cultural Organization) ค.ศ.1979 มีภูมิประเทศที่หลากหลาย ที่ราบกว้างใหญ่ ที่ราบสูง และป่าที่อุดมสมบูรณ์ มีสัตว์หลากหลายสายพันธุ์ บริเวณนี้จะได้เห็น “บิ๊กไฟว์”(Big 5) สิงโต เสือดาว แรดดำ ช้างและควายป่า คลิกอ่าน ตะลุยซาฟารีตามล่าหา Big 5

อุทยานแห่งชาติทาแรงกิเร(Tarangire) มากมายด้วยนกมากกว่า 500 สายพันธุ์ เป็นแหล่งย้ายถิ่นของช้างแอฟริกาประจำปีเป็นพันๆ ตัว สิ่งที่โดดเด่นอย่างหนึ่งของอุทยานแห่งชาติทาแรงกิเร(Tarangire) คือ ต้นเบาบาเก่าแก่กระจายอยู่ตามพื้นที่ภายในอุทยาน

อุทยานแห่งชาติทะเลสาบมันยารา(Lake Manyara National Park) เป็นสถานที่โด่งดังในการชมนกฟลามิงโก เพราะทะเลสาบแห่งนี้เต็มไปด้วยสาหร่ายอาหารอันโอชะของนกฟลามิงโก ทิวทัศน์อันตระการตาของฝูงนกสีชมพู และฮิปโปนอนแช่ตัวในทะเลสาบ

การได้พบเห็นพฤติกรรมของสัตว์ป่าต่างๆ ที่คุณอาจไม่เห็นไม่เคยรู้มาก่อน เป็นความมหัศจรรย์น่าตื่นเต้น ระทึกใจจนต้องร้องกรี๊ด ความรู้สึก และภาพมหัศจรรย์เหล่านี้หาดูได้ที่แทนซาเนีย

4. มหัศจรรย์สีสันแห่งวัฒนธรรมชนเผ่า

แน่นอนว่าการเดินทาง เที่ยวแทนซาเนีย ไฮไลท์คือการได้มาชมชีวิตสัตว์ป่า แต่มิใช่เพียงแค่นั้น การได้เปิดมุมมองใหม่ที่ไม่ธรรมดาไปกับวัฒนธรรมวิถีชนเผ่าแห่งแทนซาเนียนั้นเป็นความมหัศจรรย์สุดยูนีคที่หาดูได้ยาก ประเทศแทนซาเนีย มีอยู่หลายชนเผ่าแต่ละชนเผ่ามีเอกลักษณ์เป็นของตนเอง ชนเผ่าพื้นเมืองเป็นที่รู้จักในระดับสากล คือชนเผ่ามาไซ(Maasai) เป็นชนพื้นเมืองกึ่งเร่ร่อน อาศัยอยู่รอบๆ อุทยานแห่งชาติเซเรนเกติ(Serengeti National Park) และเขตพื้นที่อนุรักษ์โกรงโกโร (Ngorongoro Conservation Area) คลิกอ่าน แชะ...แช๊ะ แวะถ่ายรูปกับ 9 ชนพื้นเมืองในต่างแดน

เอกลักษณ์ของชนเผ่ามาไซ(Maasai) คือพวกเขาจะนุ่งห่มด้วยชุดพื้นเมืองสีแดงสด ผ้าสีพื้นหรือมีลายทางหรือตาราง ที่เรียกว่า ชุกะ(Sukha Clothes) สวมลูกปัดหลากสีหลากสไตล์ทั้งชายหญิงเพื่อแสดงสถานะ

คลิกอ่าน 11 เอกลักษณ์แห่งแฟชั่นต่างแดน ชนเผ่ามาไซ(Maasai) มีวิถีที่เป็นเอกลักษณ์อยู่กับธรรมชาติด้วยความพอดีดำรงชีพด้วยการเลี้ยงสัตว์ พวกเขาจะเร่ร่อนเปลี่ยนแหล่งอาศัยไปตามฤดูกาล ปัจจุบันรัฐบาลต้องการอนุรักษ์พื้นที่ป่าสงวน และอุทยานแห่งชาติไว้ จึงห้ามไม่ให้ชาวมาไซเข้าไปล่าสัตว์ในพื้นที่ป่าสงวนจะถือว่าผิดกฎหมาย ชาวมาไซบางส่วนจึงเข้ามาหางานในพื้นที่ท่องเที่ยว บ้างประดิษฐ์งานฝีมือเครื่องประดับลูกปัดที่ใช้ตกแต่งร่างกาย สร้อยคอ สร้อยข้อมือ ต่างหู งานแกะสลัก งานศิลปะอันเป็นเอกลักษณ์เพื่อจำหน่ายแก่นักท่องเที่ยว คลิกอ่าน เสน่ห์งานคราฟต์ชวนชอปที่แอฟริกา

นอกจากนี้ ยังได้สัมผัสกับประสบการณ์ การเต้นรำแบบชนเผ่าร้อง และกระโดดของชาวมาไซแบบดั้งเดิม อาดูมูแดนซ์(Adumu Dance) โดยการงอเข่ายืดตัวให้ตรงแล้วเด้งตัวขึ้นให้สูงที่สุด ส้นเท้าไม่สัมผัสพื้น มือแนบลำตัว กระโดดขึ้นลงตามจังหวะการให้ทำนองที่มาจากการเปล่งเสียงของคนชนเผ่าในการให้จังหวะ ดูเหมือนง่ายแต่กระโดดให้สูงต้องใช้ความแข็งแกร่งของร่างกาย การเต้นกระโดดแบบอาดูมูแดนซ์(Adumu Dance) ไม่ใช่การเต้นกระโดดธรรมดาเท่านั้นแต่ยังเป็นประเพณีที่แสดงถึงความแข็งแกร่งเปลี่ยนจากหนุ่มน้อยสู่การเป็นนักรบ ชายหนุ่มคนใดกระโดดได้สูงที่สุดสามารถเลือกหญิงสาวที่ถูกใจมาเป็นภรรยาได้ คลิกอ่าน 8 ระบำท่วงท่า อวดลีลานานาชาติ

แม้กาลเวลาจะผ่านไปเนิ่นนานแค่ไหน วัฒนธรรม และประเพณีเก่าแก่บางอย่างของแทนซาเนียนั้น ยังคงอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี การได้ท่องเที่ยวแทนซาเนีย นอกจากได้ชมความงดงามแปลกตาของประเทศแล้ว ยังได้สัมผัสวัฒนธรรมของประเทศแทนซาเนียควบคู่กันไป การมาท่องเที่ยวแทนซาเนียจะไม่สมบูรณ์หากไม่ได้มาสัมผัสความมหัศจรรย์ของชนเผ่าที่ไม่สามารถพบเห็นได้ในประเทศอื่น นอกจากประเทศแทนซาเนีย

5. มหัศจรรย์แห่งยอดเขาคีรีมันจาโร(Mount Kilimanjaro)

ภาพมหัศจรรย์ของ ยอดเขาคิลีมันจาโร(Mount Kilimanjaro) ที่ปกคลุมด้วยหิมะสีขาวเหนือทุ่งหญ้าสะวันนา สถานที่สำคัญของนักปีนเขาและนักเดินป่าทั่วโลก ภูเขาคิลีมันจาโร(Mount Kilimanjaro) ยอดเขาที่สูงที่สุดของทวีปแอฟริกา สัญลักษณ์อันโดดเด่นที่สุดแห่งแทนซาเนีย เป็นหนึ่งในเจ็ดยอดเขาที่นักปีนเขาใฝ่ฝันอยากพิชิตให้ได้สักครั้งในชีวิต “Seven Summits of the World”

การปีนเขา การเดินทางป่าขึ้นคิรีมันจาโรไม่ยาก และลำบากอย่างที่คิด ไม่จำเป็นต้องเป็นนักปีนเขามืออาชีพ ไม่จำเป็นต้องมีประสบการณ์การปีนเขามาอย่างโชกโชน การปีนเขามีหลายระดับขึ้นอยู่กับความสมบูรณ์ของร่างกาย และความพร้อมของจิตใจ เมื่อไปถึงจุดเป้าหมาย ไม่ว่าจะขึ้นถึงระดับสูงสุดอย่างที่ต้องการหรือไม่ ความอิ่มเอิบใจระหว่างทางนั้นมากมายมหาศาล การได้สัมผัสความยิ่งใหญ่ของคิรีมันจาโรนั้นไม่ว่าจะมองจากระยะใกล้ หรือไกล สร้างประสบการณ์อันมหัศจรรย์ที่น่าจดจำอย่างไม่มีวันลืม

ทั้งหมดนี้คือที่สุดของความมหัศจรรย์ คุณสามารถสัมผัสได้เมื่อเที่ยวเแทนซาเนีย ใครที่ชื่นชอบสัตว์ป่าต้องจัดไป ใครชอบทะเลสวยน้ำใสไม่พลุกพล่านแทนซาเนียเป็นตัวเลือกที่ไม่ผิดหวัง ใครอยากเห็นวิถีแห่งชนเผ่าเก่าแก่ก็ต้องมาเที่ยวแทนซาเนียอีกเช่นกัน การเที่ยวแทนซาเนียตอบโจทย์นักท่องเที่ยวหลายกลุ่ม พร้อมแล้วอย่าลังเล จองทัวร์แทนซาเนีย ติดต่อ บริษัท ฟรีเบิร์ด ทราเวิล แอนด์ ทัวร์ ได้เลยค่ะ