เที่ยวตามแคว้นแน่นแฟ้น อิตาลีเหนือจรดใต้
ในอดีตจนถึงปัจจุบัน หลายประเทศในยุโรปมีการจัดการปกครองแบบแบ่งแยกตามเมืองหลัก เพื่อง่ายต่อการบริหารจัดการ โดยมีผู้คุมอำนาจในแต่ละแคว้นปกครอง อิตาลีก็เป็นอีกหนึ่งประเทศที่รวมตัวกันของหลายๆแคว้นกลายเป็นประเทศใหญ่ในปัจจุบัน หากแต่การท่องเที่ยวเราไม่ได้จำแนกแคว้นให้แตกแยกแต่อย่างใด ฟรีเบิร์ด ทราเวิล แอนด์ ทัวร์ จะพาท่านไปรู้จักแต่ละแคว้นว่าที่เที่ยวดังๆของอิตาลีนั้นอยู่ทางแคว้นไหนกันบ้าง การได้ออกเดินทางแล้วเที่ยวไปตามแคว้นต่างๆจะทำให้เราได้ลึกซึ้งกับแต่ละท้องถิ่น เพราะแต่ละแคว้นก็มีจุดเด่นของพื้นที่ ตลอดจนวิถีชีวิตวัฒนธรรมที่ต่างกัน
จริงๆแล้วอิตาลีก็เป็นประเทศที่คล้ายๆประเทศขวานทองอย่างบ้านเราอยู่ไม่น้อย ด้านบนก็มีธรรมชาติที่สมบูรณ์ ด้านใต้ก็มีทะเลสวยงาม การจะไปเที่ยวแม้เป็นภายในประเทศเดียวก็อาจจะทำให้คุณต้องวนไปเก็บตกกันอยู่หลายรอบ เช่นเดียวกับอิตาลีถ้าอยากชื่นชมความงดงามด้านศิลปวัฒนธรรมแบบยุโรป ก็มีหลายเมืองให้ไปเที่ยวชมไม่ว่าจะเป็นมิลานที่มีมหาวิหารดูโอโม(Duomo di Milano) ที่สวยติดอันดับ หรืออยากจะเที่ยวอย่างนักโบราณคดี ก็สามารถไปที่เมืองโรม ถ่ายรูปกับโคลอสเซียม(colosseum) สุดคลาสิค หรือใครชื่นชอบสถาปัตยกรรมโบสถ์คริสต์ต่างๆก็สามารถใช้เวลาในการเดินเที่ยวชมนครวาติกันอันเลื่องชื่อได้ ฟรีเบิร์ดทัวร์ ขอพาเที่ยวอิตาลีตามแคว้นเหนือจรดใต้อย่างจุใจ
1. แคว้นเวเนโต (Veneto)
แคว้นเวเนโต(Veneto) เป็นแคว้นที่อยู่ทางตอนเหนือของประเทศอิตาลี 1 ใน 20 แคว้นสำคัญที่มีนักท่องเที่ยวมากเป็นอันดับหนึ่ง แคว้นนี้มีเมืองหลักที่คุ้นหูกันดีอย่างเมืองเวนิส(Venice) , เมืองเวโรน่า(Verona) , เมืองปาโดวา(Padova) , เมืองวีเชนซา(Vicenza) , เมืองเทรวีโซ(Treviso) , เมืองโรวีโก(Rovigo) , เมืองคียอจจา เป็นต้น และเมืองต่างๆเหล่านี้ก็บรรจุไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวดังๆมากมาย
เมืองเวนิส (Venice)
เวนิส มหานครแห่งน้ำที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวแต่ละปีเป็นจำนวนมาก ด้วยความเป็นเมืองที่มีสถาปัตยกรรมอันโดดเด่น และความโรแมนติกของเมืองแห่งน้ำ เป็นสถานที่ที่เหมาะมากๆสำหรับคู่รักได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกันบนเรือกอนโดล่าอันลือชื่อ คลิกอ่าน พาล่องเรือกอนโดล่า เสน่ห์แห่งเวนิส หรือเที่ยวชมถ่ายรูปกับจัตุรัสเซนต์มาร์ค(St Mark’s Basilica) อันโด่งดัง เมืองนี้ยังเป็นที่จัดงานคาร์นิวัลสุดอลังการที่จัดขึ้นทุกปีอีกด้วย คลิกอ่าน พาเที่ยวเทศกาลคาร์นิวัล สีสันแห่งอิตาลี
เมืองเวโรน่า (Verona)
เวโรน่า เมืองยุโรปสุดคลาสสิคที่สุดแสนจะโรแมนติกไปด้วยกลิ่นอายความรัก ต้นกำเนิดโรมิโอ และจูเลียตอันก้องโลก เวโรน่าเป็นเมืองยุโรปโบราณที่มีศิลปะ และสถาปัตยกรรมส่วนใหญ่แบบโรมัน และยังคงรักษาไว้ได้อย่างดีเยี่ยมจนได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ชื่อเสียงเรียงนามของเมืองนี้จึงทำให้นักเขียนชื่อดังอย่างวิลเลียม เชกสเปียร์(William Shakespeare) ได้แรงบันดาลใจเขียนผลงานชิ้นเอกอย่างโศกนาฎกรรมความรักของโรมิโอ และจูเลียต ผลงานชิ้นนี้นับเป็นตัวดึงดูดให้นักท่องเที่ยวมาเที่ยวชมบ้านของจูเลียต(Casa di Giulietta) สถานที่ยอดนิยมอย่างไม่ขาดสาย หรือจะเป็น Arena di Verona สเตเดี้ยมแบบโรมันที่มีอายุกว่า 2,000 ปี Piazza delle Erbe จัตุรัสของเมืองที่มีผู้คนมาเดินเที่ยวกันอย่างขวักไขว่จับจ่ายใช้สอย และยังมีที่อื่นๆอีกมากมายที่รอให้เราไปค้นพบ
อุทยานแห่งชาติโดโลไมท์ (Dolomite)
เทือกเขาสูงใหญ่ติดกับประเทศออสเตรีย ตั้งตระหง่านอยู่ทางตอนเหนือของอิตาลีแห่งนี้มีนามว่า โดโลไมท์ หรือ โดโลมิเต เป็นเทือกเขาแสนสวยที่ได้รับการขึ้นทะเบียนจากยูเนสโกให้เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติ และถูกขนานนามว่าเป็นเทือกเขาที่สวยที่สุดในโลก จุดเด่นของเทือกเขาแห่งนี้ก็คือความสวยงามและสีสรรของธรรมชาติในแต่ละฤดูไปฤดูไหนก็จะไม่เหมือนกันไปกี่ครั้งก็ไม่เบื่อ ถ้างบถึง
ทะเลสาบเบรียส (Lake Braies)
ทะเลสาบเบรียส หรืออีกชื่อว่า Prager Wildsee เป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติโดโลไมท์ เมื่อได้ไปเทือกเขาที่สวยที่สุดในโลกแล้วก็ต้องคู่ไปกับทะเลสาบที่สวยที่สุดในโลกด้วย ด้วยความสวยงามของเทือกเขาโดโลไมท์ที่กลายไปเป็นฉากหลังที่สุดอลังการของทะเลสาบเบรียส เงาสะท้อนของเทือกเขาจากพื้นน้ำ และยังมีความงามของน้ำในทะเลสาบ อากาศสงบร่มรื่น สวยจริงสวยจัง ที่ทะเลสาบแห่งนี้มีไฮไลท์ให้พายเรือในทะเลสาบด้วยนะครับ ไปลั่นชัตเตอร์กันบนเรือก็จะได้ฟีลไปอีกแบบ สวยใสยอดไลค์ 2 แสน แน่นอน
ทะเลสาบมิซูรีนา (Lake Misurina)
ยังคงวนเวียนอยู่แถวเทือกเขาโดโลไมท์ ก็เพราะเทือกเขาแห่งนี้มันสวยจริงๆจังๆเลยยังไงล่ะ ทะเลสาบอีกแห่งที่อยู่ใกล้บริเวณเทือกเขาโดโลไมท์ ที่มีบรรยากาศร่มรื่นของธรรมชาติ และสิ่งที่ทำให้หลายท่านต้องร้องว๊าวเลยก็เห็นจะเป็นความใสของน้ำในทะเลสาบที่ถ้าวันไหนอากาศดีๆฟ้าเปิดล่ะก็เงาสะท้อนจากเทือกเขาโดโลไมท์ที่สะท้อนกับน้ำนี่งามมากเลยคุณเอ้ย หากเราไปค้นหาข้อมูลของทะเสสาบมิซูรีนาทางอินเตอร์เน็ตก็จะเจอภาพโรงแรมตั้งตระหง่านอยู่กลางทะเลสาบด้วย โรงแรมแห่งนั้นก็คือโรงแรมแกรนด์ มิซูรีน่า หากถ้าได้ไปพักนั่น และได้ห้องที่มีวิวของเทือกเขาด้วยรับรองฟินมากๆ
ทะเลสาบการ์ด้า (Lake Garda)
สุดยอดทะเลสาบขนาดใหญ่ที่มีความสวยงามไม่แพ้ทะเลสาบไหนๆตั้งอยู่ทางตอนเหนือของอิตาลี ทะเลสาบการ์ด้านับเป็นทะเลสาบที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในอิตาลี มีเมืองรายล้อมรอบทะเลสาบอยู่หลายเมือง และเมืองที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวก็คือเมืองซิมิโอเน่(Sirmione) มีทีเด็ดอยู่ที่ป้อมปราการที่สร้างยื่นไปในทะเลสาบการ์ด้าโดยนักท่องเที่ยวที่ไปเยือนจะสามารถชมวิวอันสวยงามของทะเลสาบได้ 360 องศา ชัดทุกมุม ทุกซอกเด็ดของทะเลสาบแน่นอน เมืองที่รายล้อมทะเลสายนี้เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมอันคลาสสิคของเมืองยุโรปใช้เวลาอยู่ในแถวนี้เท่าไหร่ก็ไม่เบื่อ
2.แคว้นทัสคานี (Tuscany)
แคว้นทัสคานี(Tuscany) แคว้นสวยใจกลางอิตาลี ภูมิประเทศเป็นเนินเขาเล็กใหญ่สลับทุ่งหญ้าผสมแดดอุ่นอ่อน ต้นสน สลับไร่องุ่น ไร่มะกอกธรรมชาติสวยงามหาที่เปรียบมิได้ เมืองสำคัญๆที่นักท่องเที่ยวนิยมเดินทางไป เช่น
เมืองปิซ่า(Pisa) เมืองสำคัญที่เป็นที่ตั้งของหอเอนอันโด่งดัง หอเอนปิซ่า
เมืองฟลอเรนซ์(Florence) เมืองเก่าโบราณแสนสวยสุดคลาสสิค ไฮไลท์สำคัญมของเมือง เช่น จัตุรัสชื่อดัง เดล คัมโป (Piazza del Campo) , มหาวิหารเซียน่า(Siena Cathedral)
3. แคว้นลอมบาร์เดีย (Lombardia)
แคว้นทางตอนเหนือที่มีอาณาเขตติดกับแคว้นเวเนโต เป็นแคว้นสำคัญ และเป็น 1 ในแคว้นที่มีประชากรอาศันอยู่เป็นจำนวนมาก มีเมืองที่สำคัญๆเป็นเมืองหลักอย่าง มิลาน สถานที่ท่องเที่ยวที่คนนิยมไปเที่ยวก็จะอยู่ภายในเมืองมิลาน นั่นเอง
มหาวิหารดูโอโม่(Duomo di Milano) มหาวิหารสำคัญแห่งมิลาน ที่มีความเก่าแก่กว่า 400 ปี เป็นมหาวิหารที่หากใครไปมิลานต้องห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง ด้วยความยิ่งใหญ่ของสถาปัตยกรรม และความสวยงามที่จะสะกดทุกสายตา
4. แคว้นลัตซีโย (Lazio)
แคว้นนี้เป็นที่ตั้งของเมืองหลวงนั่นก็คือ กรุงโรม 1 ใน 20 แคว้นที่มีประชากรหนาแน่นติดอันดับ 1 ใน 5 ของประเทศ แคว้นลัตซีโย (Lazio) มีเมืองท่องเที่ยวหลักอย่าง กรุงโรม(Rome) และวาติกัน(Vatican)
เมื่อมาถึงประเทศอิตาลีคงไม่มีนักท่องเที่ยวคนใดที่จะพลาดแวะมาเที่ยวที่เมืองหลวงอย่างกรุงโรมเป็นแน่ ที่นี่เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมแบบโรมัน และเรื่องราวทางประวัติศาสตร์มากมาย และสถานที่ยอดนิยมที่ต้องห้ามพลาดเมื่อมาเยือนเมืองนี้ก็คือ
Colosseum(โคลอสเซียม) สนามกีฬากลางแจ้งขนาดใหญ่มีลักษณะเป็นอัฒจันทร์รูปครึ่งวงกลม สถานที่นี้เคยใช้เป็นสถานที่ต่อสู้ของแกลดิเอเตอร์ และสัตว์ดุร้ายเพื่อสร้างความบันเทิงให้กับชาวโรมัน
Colosseum ของอิตาลีนี้ยังได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคปัจจุบัน (New 7 Wonders of the World) อีกด้วย
Roman Forum (โรมันฟอรัม) ศูนย์กลางทางด้านการค้าในอดีตที่ปัจจุบันเหลือเพียงเศษซากปรักหักพัง
Saint Peter’s Basilica(เซนต์ ปีเตอร์ส บาซิลิกา) หรือมหาวิหารนักบุญเปโตร(Basilica Sancti Petri) หนึ่งในมหาวิหารเอกของกรุงโรม และนับเป็นสิ่งก่อสร้างที่ใหญ่ที่สุดในรัฐวาติกัน
ในแคว้นนี้ก็ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังอื่นๆอีกไม่ว่าจะเป็น Castel Sant’Angelo(ปราสาท ซันตันเจโล) , Pantheon(วิหารแพนธีออน) , Trevi Fountain(น้ำพุ เทรวี่) , Spanish Steps(บันไดสเปน) , Vatican Museum(พิพิธภัณท์แห่งวาติกัน) , Piazza Navona(จัตุรัส นาโวน่า) , Campo de’ Fiori ตลาดท้องถิ่นในกรุงโรม เป็นต้น
5. แคว้นคัมปาเนีย (Campania)
เป็นแคว้นที่อยู่ทางตอนใต้ของประเทศอิตาลี มีประชากรอาศัยอยู่มากเป็นอันดับที่สองของประเทศ และนับเป็นแคว้นที่มีประชากรอาศัยอยู่หนาแน่นมากที่สุดของอิตาลี มีอาณาเขตติดกับทะเล และเต็มไปด้วยเมืองท่าริมทะเลสวยๆมากมาย แคว้นนี้มีเมืองหลวงชื่อ เนเปิลส์ (Naples) หรือนาโปลี (Napoli)
เนเปิลส์ (Naples) หรือนาโปลี (Napoli) เป็นเมืองที่มีประวัติยาวนานพอๆกับเมืองอื่นของอิตาลี เมืองนี้ได้รับการจัดอันดับในหลายๆเรื่องทั้งเมืองท่องเที่ยวริมทะเลแสนสวย เมืองสุดแสนโรแมนติก หรือจะเป็นเมืองที่ติดอันดับเรื่องคู่รักมาฮันนีมูนกัน คลิกอ่าน 8 สถานที่ฮันนีมูนสุดฟินเพิ่มความหวานให้ข้าวใหม่ปลามัน อีกทั้งยังเป็นเมืองต้นกำเนิดอาหารสุดฮิตอย่างพิซซ่าอีกด้วย สถานที่เที่ยวสำคัญของที่นี่ เช่น ปอมเปอี (Pompei) นามนี้มีมาแต่โบราณกว่าพันปี เป็นชื่อของเมืองโบราณมีการตั้งถิ่นฐานอยู่บริเวณใกล้ๆภูเขาไฟวิสุเวียส(Mount Vesuvius) ที่นี่เคยมีเหตุการณ์การปะทุของภูเขาไฟที่สะสมความร้อนรอวันระเบิดกว่าพันปี หลังจากการระเบิดครั้งนั้นปอมเปอีก็ได้ถูกฝังไปกับอารยธรรม และประวัติศาสตร์อันโศกเศร้ากว่าพันปี จนได้มีการค้นพบ และบูรณะในที่สุด ปัจจุบันสถานที่นี้ได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก และมีนักท่องเที่ยวแห่แหนไปชมกันอย่างไม่ขาดสาย
6. แคว้นซิซีลี(Sicily) (แคว้นปกครองพิเศษ)
ซิซิลีเป็นแคว้นที่เป็นเกาะอยู่ทางตอนใต้สุดของประเทศอิตาลี เกาะแห่งนี้มีความเป็นมากว่า 4,000 ปี ผ่านการปกครองจากการแย่งชิงของนานาประเทศ เห็นได้จากความหลากหลายของศิลปวัฒนธรรม สถาปัตยกรรม
การมาเที่ยวที่ซิซิลีนักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับประวัติศาสตร์หลายยุคหลายสมัยตั้งแต่สิ่งก่อสร้างโบราณของอาณาจักรโรมัน ณ เมืองเทอร์มินา(Taomina) หรือท่านที่ชื่นชอบสถาปัตยกรรมแบบยุโรปโบราณก็มีหลายมุมเมืองให้เลือกเดิน
7. แคว้นบาซีลีคาตา (Basilicata)
แคว้นบาซีลีคาตา(Basilicata) 1 ในหลายแคว้นทางตอนใต้ของประเทศอิตาลี เป็นแคว้นโบราณที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่าหลายพันปี มีเมืองท่องเที่ยวสำคัญๆอย่างเมืองเมทารา(Metara) จุดเด่นของเมืองนี้ก็ตรงที่เป็นเมืองโบราณที่มีบ้านเรือนสวยสะดุดตา ทางเดินหินสุดคลาสสิค และโบสถ์ต่างๆที่ดูเก่าแต่คลาสสิคไม่น้อย นักท่องเที่ยวสามารถเดินเที่ยวชมเมืองนี้ได้อย่างมีอรรถรสพร้อมที่จะซึมซับประวัติศาสตร์ สถานที่เที่ยวที่สำคัญของเมืองนี้ก็คือ Sassi di Matera ที่เป็นเมืองที่สร้างจากหินสไตล์ถ้ำหลายๆหลังดูแล้วสวยเพลินตาไปอีกแบบหนึ่ง
8. แคว้นปูเกลีย (Puglia)
แคว้นปูเกลีย (Puglia) หรือปุลยา หรืออะพิวเลีย (Apulia) แคว้นสุดส้นรองเท้าของประเทศอิตาลี มีอาณาเขตติดกับทะเลอย่าง ทะเลเอเดรียติก(Adriatic Sea) , ทะเลไอโอเนียน(Ionian Sea) มีเมืองท่องเที่ยวริมทะเลหลากหลายเมือง แต่มีเมืองเด่นๆที่เป็นเมืองหลวงของแคว้นด้วยก็คือเมืองบารี(Bari) เมืองโบราณที่มีประวัติศาสตร์ความเป็นมาตั้งแต่สมัยอาณาจักรโรมันรุ่งเรือง เป็นเมืองท่าการค้าสำคัญตั้งแต่อดีตมาจนถึงปัจจุบัน เมืองนี้ถูกขนานนามอีกชื่อเก๋ๆว่า แคลิฟลอเนียตอนใต้ของอิตาลี ภายในเมืองมีสิ่งปลูกสร้างสำคัญๆหลายอย่าง หนึ่งในนั้นที่เป็นจุดเด่นก็คือ ปราสาทซูโว (Svevo Castle) ที่สร้างเพื่อให้เห็นถึงอำนาจ และความรุ่งเรื่องของอาณาจักรโรมันนั่นเอง นักท่องเที่ยวสามารถเดินเที่ยวชมความเจริญของอาณาจักรได้ นอกจากนั้นยังมีเมืองอัลเบอโรเบลโล (Alberobello) เมืองนี้มีจุดเด่นตรงหมู่บ้านหินปูนเป็นชุมชนโบราณที่เรียกกันว่า ตรูลี (Trulli) คลิกอ่าน ตรูลี(Trulli) หมู่บ้านทรงกรวย มรดกโลกในอิตาลี ที่มีความสวยงามแปลกตา หากได้ไปเยือนเมืองบารีก็ห้ามพลาดเด็ดขาด
9. แคว้นลีกูเรีย (Liguria)
แคว้นลีกูเรีย (Liguria) หรือลีกือรียา มีเมืองหลวงชื่อ เจนัว มีอาณาเขตส่วนใหญ่ติดกับทะเลที่นี่จึงนับเป็นสวรรค์ของนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบทะเลเลยทีเดียว ด้วยความสวยงามของธรรมชาติ ทะเลสีฟ้าตัดกับตึกรามที่ทาสีสดใส เหมือนหลุดเข้าไปในอีกโลกหนึ่ง การได้มาเที่ยวที่แคว้นนี้จะทำให้คุณ ตกหลุมรัก Cinque Terre 5 หมู่บ้านงามในอิตาลี ที่คุณสามารถเดินเล่น ทำกิจกรรม หาของอร่อยๆกิน ได้ตลอดทริปไม่มีเบื่อ
และสำหรับสายช้อปทั้งหลายไปถึงอิตาลีแล้วจะพลาดได้อย่างไรกับการช้อปปิ้งอันแสนสนุก ไปอิตาลีไม่ต้องกังวลใจเรื่องของช้อป ที่อิตาลีมีของให้น่าซื้อมากมาย อิตาลีมีอะไรให้ซื้อบ้าง คลิกอ่าน ไปอิตาลีซื้ออะไรดีน๊า การเดินทางไปเที่ยวยังประเทศอิตาลีสามารถไปได้ทุกเดือน ทุกฤดูกาล แต่ละฤดูก็จะมีความสวยงามที่แตกต่างกัน คลิกอ่าน เที่ยวอิตาลีช่วงไหนดี
- หากบทความนี้ดีต่อใจ ชวนคนที่คุณรักมาเที่ยวกับฟรีเบิร์ดทัวร์กันค่ะ -
สนใจโปรแกรมทัวร์อิตาลีคลิกที่นี่
คุยกับครอบครัวฟรีเบิร์ดทัวร์
โทร.02-0488-785-7 Hotline 085-151-1000 , 094-782-6888 และ 093-570-3000