การตัดสินใจที่จะเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศสักทริป ประเทศที่มีทุกอย่างที่ต้องการ ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ เมืองอันทรงเสน่ห์ ประเทศที่ถ่ายรูปสวย ชายหาดสวยงามที่ยังไม่ถูกทำลาย สถานที่เที่ยวทางธรรมชาติ อาหารอร่อยลำดับต้นๆ มีกิจกรรมให้ทำหลากหลาย ประเทศโปรตุเกส(Portugal) เป็นประเทศหนึ่ง ที่ท่านอาจจะนึกไม่ถึง แต่สามารถสร้างประสบการณ์แปลกใหม่สุดแสนจะเก๋ไก๋ไม่แพ้ที่ใดๆในโลก ฟรีเบิร์ด ทราเวิล แอนด์ ทัวร์ ชวนคุณออกเดินทางไปสัมผัสกับ 8 ประสบการณ์แสนเก๋ ไม่แพ้ที่ใดอย่าง โปรตุเกส(Portugal)

1. ชม แชะ อะซูเลโฮส(Azulejos) สุดอาร์ต

ภาพถ่ายที่ปรากฎบนโซเชียลมีเดียเกี่ยวกับการเดินทางเที่ยวประเทศโปรตุเกส สิ่งหนึ่งที่ปรากฎเป็นภาพคุ้นตากับงานสถาปัตยกรรมกระเบื้องเซรามิก สีน้ำเงิน-ขาว ที่ประดับประดาอยู่บนอาคารสถานที่สำคัญๆหลายแห่ง สามารถพบเห็นอยู่ทั่วไปในโปรตุเกส โบสถ์ สถานีรถไฟ ร้านอาหาร บาร์ สวนสาธารณะ อาคารบ้านเรือน งานศิลปะกระเบื้องเซรามิกสีน้ำเงิน-ขาว ที่เรียกว่า “อะซูเลโฮส”(Azulejos) เข้ามาที่โปรตุเกสตั้งแต่ศตวรรษที่ 15

สมัยอดีตพื้นที่ส่วนใหญ่ของคาบสมุทรไอบีเรียอยู่ภายใต้การปกครองของชาวมัวร์ ซึ่งได้นำประเพณีการทำกระเบื้องเข้ามาแพร่หลายสู่ดินแดนแถบนี้ โปรตุเกสจึงมีประเพณีการทำกระเบื้อง “อะซูเลโฮส” กระเบื้องเคลือบเขียนลาย สีน้ำเงิน-ขาว เป็นหลัก มีการใช้สีอื่นบ้างแต่ไม่มากเท่าสีน้ำเงิน-ขาว ใช้ตกแต่งทั้งภายในและภายนอกอาคาร แผ่นกระเบื้องหลายพันแผ่นเฉดสีมหาสมุทรที่จัดวางเรียงอย่างพิถีพิถันสร้างสรรผลงานชิ้นเอกที่โดดเด่น ลวดลายที่ปรากฎบนกระเบื้องบอกเล่าเรื่องราวความภาคภูมิใจ วิถีชีวิต ธรรมชาติ เรื่องเกี่ยวกับคริสตศาสนา ประวัติศาสตร์ของชาวโปรตุเกสงาน “อะซูเลโฮส”(Azulejos) ความโดดเด่นของงานศิลปะนี้ไม่ได้มีปรากฎเฉพาะ เมืองปอร์โต(Porto) เท่านั้น ยังกระจายไปเมืองต่างๆทั่วประเทศโปรตุเกสอีกด้วย

สถานีรถไฟ “เซาเบนโต”(Sao bento) ตั้งอยู่ย่านใจกลางเมืองปอร์โต(Porto) เป็นสถานที่รถไฟที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งมีความโดดเด่นภายนอก แต่ความสวยงามสะดุดตาที่จริงอยู่ด้านใน ส่วนโถงของสถานีรถไฟทั้งผนังและเพดานประดับประดาด้วยกระเบื้องเคลือบสีน้ำเงินและสีขาวกว่า 20,000 ชิ้น โดยรอบทิศภาพวาดกระเบื้องบอกเล่าเรื่องราวเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ กิจกรรมประจำวันของโปรตุเกส ได้ชื่นชมงานจิตกรรมฝาผนังอลังการของสถานีรถไฟแห่งนี้

มหาวิหารปอร์โต(Porto Cathedral) สร้างขึ้นเมื่อศตวรรษที่ 12 และ 13 ตั้งอยู่ในย่านเมืองเก่าปอร์โต(Porto) มีการตกแต่งปูด้วยกระเบื้องเซรามิกสีน้ำเงิน-ขาว(Azulejos)

Igreja Dos Carmelitas โบสถ์ที่สร้างขึ้นในช่วงกลางศตวรรษที่ 17 ซุ้มประตูโค้งทำด้วยหินแกรนิต กำแพงปูด้วยกระเบื้องอะซูเลโฮส(Azulejos) สีน้ำเงินและขาววาดต่อกันบอกเล่าเรื่องราวในสมัยอดีต ด้านในตกแต่งสไตล์บารอคงดงามคลาสิค

“อะซูเลโฮส”(Azulejos) ถือเป็นงานศิลปะอันเป็นอมตะของโปรตุเกส แม้ว่ากาลเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน “อะซูเลโฮส” (Azulejos) ไม่มีวันหมดอายุ เป็นศิลปะที่อยู่เหนือเทรนด์ใดๆ หากท่านได้มาเที่ยวโปรตุเกส ต้องไม่พลาดที่จะถ่ายรูปสวยๆฮิปๆกับ“อะซูเลโฮส”(Azulejos) ตามสถานที่ต่างๆเป็นศิลปะที่สวยงามไม่เหมือนใครถือเป็นหนึ่งซิกเนเจอร์(Signature) ของโปรตุเกส

2. นั่งรถรางสายชิล Tram 28 ยลเสน่ห์ลิสบอน

ประสบการณ์สุดคลาสสิกเก๋ไก๋ไม่เบาเมื่อได้มีโอกาสมาเที่ยวโปรตุเกส(Portugal) นั่นคือการได้เพลิดเพลินกับเครือข่ายการคมนาคมแบบดั้งเดิม ยลเสน่ห์เมืองลิสบอนกับการนั่งรถรางคันยาวเก่าแก่ขนาดเล็กสไตล์วินเทจสีเหลืองเสียงดังเอี๊ยดอ๊าด “รถรางสีเหลืองสาย 28” Tram 28 เป็นรถรางสายประวัติศาสตร์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดถือเป็นสัญลักษณ์ที่มีชื่อเสียงของเมืองลิสบอนมีความยาวประมาณ 7 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 50 นาที มีที่นั่งประมาณ 20 ที่นั่ง ยืนได้ประมาณ 25 คน

ภายในรถรางตกแต่งด้วยกรอบไม้ ที่นั่งทำด้วยไม้สุดคลาสสิก เส้นทางรถรางแสนสนุกนี้ผ่านใจกลางเมืองลิสบอน ผ่านลานกว้างและถนนแคบๆ ผ่านสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์หลายแห่งไปตลอดเส้นทาง ชมสถาปัตยกรรมของลิสบอนผ่านมหาวิหาร โบสถ์ ปราสาท ย่านศิลปะ ผ่านเนินเขาที่สามารถมองเห็นทัศนียภาพอันงดงามของแม่น้ำเทกัส(Tagus) ผ่านโรงละคร คาเฟ่ ร้านค้า ร้านบูติกมากมาย จะประทับใจกับการขึ้นลงเนิน บางครั้งรถรางผ่านถนนบางสายที่แคบจนเกือบชิดติดบ้านของผู้คนเห็นวิถีชีวิตคนท้องถิ่น เป็นประสบการณ์ที่น่าสนุกและน่าสนใจในเวลาเดียวกัน

3. ลอยล่อง เรือโบราณโมลิเซโรส(Moliceiros)

สัมผัสความงดงามของประเทศโปรตุเกสในอีกแง่มุมใหม่กับการล่องเรือโบราณ “โมลิเซโรส”(Moliceiros) ที่เมืองเอเวียโร(Aviero) เรือท้องแบนแบบดั้งเดิมของโปรตุเกส เมื่อสมัยก่อนใช้สำหรับเก็บสาหร่ายจากทะเลสาบ เป็นเรือที่มีลักษณะก้นแบนและตื้นรูปร่างลำเรือเรียวยาวหัวเรือคล้ายคันธนูโค้งงุ้ม ภายนอกทาสีสดใส ออกแบบลวดลายที่มีความหลากหลายบริเวณหัวเรือและท้ายเรือ สร้างจากไม้สนโดยช่างฝีมือท้องถิ่นออกแบบคล้ายเรือกอนโดล่าที่เวนิส ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ เป็นงานฝีมือที่ตกทอดมาจากรุ่นสู่รุ่น ถือเป็นศิลปะพื้นบ้านเฉพาะของโปรตุเกส

การได้สัมผัสกับประสบการณ์ล่องเรือโบราณโมลิเซโรส(Moliceiros) เมืองเอเวียโร(Aviero) เมืองเวนิสขนาดเล็กของโปรตุเกส ลัดเลาะแล่นไปตามคลองเรียงรายไปด้วยบ้านชาวประมงในอดีตและผ่านชมอาคารหลากหลายสีสันของเมืองเอเวียโร ตัวอาคารตัดกับสีเรือสร้างความสดใส ชมบรรยากาศสุดฟิน รับลมชมวิว ได้สัมผัสถึงความเป็นเอกลักษณ์ที่มีกลิ่นอายเวนิสแบบโปรตุเกส ฟรีเบิร์ดทัวร์ บอกได้เลยว่าเป็นความทรงจำที่น่าประทับใจแบบหนึ่งในการท่องเที่ยวโปรตุเกส

4. ตามรอยอดีต ผ่านสถาปัตยกรรมล้ำค่า

โปรตุเกส(Portugal) เป็นประเทศที่มีประวัติความเป็นมาอันยาวนาน มีสถานที่อันเป็นสัญลักษณ์มากมายเก็บรักษาไว้อย่างน่าทึ่งในรูปแบบของ โบสถ์ พระราชวัง กำแพงเมืองยุคกลาง อนุสาวรีย์ เมืองประวัติศาสตร์ชั้นนำของโปรตุเกสมากมายหลายเมือง เช่น ลิสบอน(Lisbon) ปอร์โต(Porto) โคอิมบรา(Coimbra) เอโวรา(Avora) โอบิดอส(Obidos)

โปรตุเกสเป็นประเทศที่มากด้วยศิลปะและสถาปัตยกรรมอันล้ำค่าผ่านการทำนุบำรุงมาอย่างยาวนานมีปรากฎให้นักท่องเที่ยวได้ตามรอยย้อนอดีต เช่น

มหาวิหารเจโรนิโมส(Jeronimos Monastery) เป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศสตร์ ตั้งอยู่เมืองลิสบอน สถาปัตยกรรมที่เรียกว่า มานูเอลไลน์(Mauneline) ปัจจุบันเป็นที่ฝังศพของวาสโกดากามา นักเดินเรือคนสำคัญของโปรตุเกส

หอคอยเบเล็ม(Torre de Belem) ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากยูเนสโก(UNESCO) หรือองค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ ในปี ค.ศ.1983 สร้างขึ้นบนฝั่งเหนือของแม่น้ำเทกัส(Tagus) ใช้เพื่อปกป้องเมืองในอดีตเป็นหนึ่งในอนุสรณ์สถานโดดเด่นแห่งหนึ่งของลิสบอน

อนุสาวรีย์ดีสคัฟเวอร์รี่(Discoveries Monument) อนุสาวรีย์ สูง 52 เมตร ริมแม่น้ำในเมืองลิสบอน แผงคอนกรีตสูงตระง่านประกอบด้วย รูปปั้นของบุคคลในประวัติศาสตร์มากกว่า 30 คนที่มีบทบาทสำคัญในช่วงแห่งการค้นพบของโปรตุเกส สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1960

พระราชวังพีน่า(Pena Palace) สร้างบนเนินเขาเหนือเมืองซินตร้า(Sintra) ล้อมรอบด้วยสวนธรรมชาติและป่าไม้ สถานที่ท่องเที่ยวที่โดดเด่นที่สุดด้วยความงดงามของตัวสถาปัตยกรรมและทัศนียภาพที่รายล้อมด้วยธรรมชาติ ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากจากยูเนสโก(UNESCO) หรือองค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ เมื่อปี ค.ศ 1995

มหาวิหารเอโวรา(Evora Cathedral) โบสถ์นิกายโรมันคาทอลิกยุคกลางที่ใหญ่ที่สุดในโปรตุเกส สร้างขึ้นปลายศตวรรษที่ 13-14 อาคารหินแกรนิตขนาบด้วยหอคอยสองแห่ง ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากยูเนสโก(UNESCO) หรือองค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ เมื่อปี ค.ศ.1988

5. ฟินๆ ชิมของเด่นโปรตุเกส

โปรตุเกส(Portugal) มีของดีของเด่นที่ถือเป็นวัฒนธรรมสะสมถ่ายทอดกันมาอย่างยาวนานให้ได้ลิ้มลองสำหรับนักท่องที่ยวต่างถิ่นเมื่อมีโอกาสไปเที่ยวโปรตุเกส เช่น

“พอร์ตไวน์”(Port Wine) ภูมิภาคปอร์โต(Porto) และโดรู(Douro) เป็นภูมิภาคที่มีชื่อเสียงในการผลิตไวน์ที่สำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมืองปอร์โต(Porto) มีโรงบ่มไวน์ที่เชื่อมโยงกับประวัติศาสตร์อันยาวนานของโปรตุเกส มีความสำคัญในการผลิตพอร์ตไวน์(Port Wine) ที่มีชื่อเสียงที่สุด

“ทาร์ตไข่”(Egg Tart) ขนมอบที่ขึ้นชื่อของโปรตุเกส แป้งด้านนอกกรอบเล็กน้อย ไส้คัสตาร์ด ราดด้วยผงน้ำตาล และอบเชย สามารถหาทานได้ง่ายทั่วไปตามร้านเบเกอรี่เกือบทุกแห่งในโปรตุเกส

“Ginja de Obidos” เหล้าเชอร์รี่เสริฟมาในถ้วยช็อกโกแลต มีความนุ่มนวลและมีกลิ่นหอม

“Ovos moles de Aveiro” ขนมเอกลักษณ์ของเมืองอาเวียโร(Aveiro) ประเทศโปรตุเกส ทำจากแป้งไข่และน้ำตาล โดยใช้เทคนิควิธีทำแบบดั้งเดิมสืบทอดต่อกันมายาวนาน รูปทรงคล้ายเปลือกหอย หรือปลา

อาหารทะเล(Seafood) โปรตุเกสเป็นชาติแห่งนักเดินเรือ จึงมีความผูกพันกับมหาสมุทรมายาวนาน อาหารทะเลแถบโปรตุเกสมีมากมายหลายชนิดทั้งสดและรสชาติเยี่ยม โดยเฉพาะปลามีมากมายหลายพันธุ์ ให้นักท่องเที่ยวได้ลิ้มลองรสชาติสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับการเดินทางเที่ยวโปรตุเกส

6. สัมผัสชายหาด และท้องทะเลแสนงาม

โปรตุเกส เป็นประเทศที่อยู่ติดมหาสมุทรแอตแลนติก สถานที่ท่องเที่ยวตามชายฝั่งทะเล เกาะแก่ง มีมากมาย การมาเที่ยวโปรตุเกสจึงพลาดไม่ได้กับการเพลิดเพลินไปกับเมืองต่างๆ ที่อยู่ติดชายหาด ทำกิจกรรมทางน้ำที่หลากหลาย เช่น โต้คลื่น เล่นน้ำทะเล อาบแดด พายเรือคายัค ดำน้ำ

เมืองลากอส(Lagos) เมืองชายหาดที่ความสวยงามตามธรรมชาติในภูมิภาคอัลการ์วึ(Algarve)

ถ้ำเบนากิล(Benagil Cave) ถ้ำริมทะเลที่มีความสวยงามเกิดจากการกัดเซาะตามธรรมชาติด้านบนจนกลายเป็นช่อง ที่ทำให้เป็นที่รับแสงแดด แสงสามารถส่องลงมายังถ้ำได้ มีหาดทรายที่กว้างใหญ่อยู่ภายในถ้ำ ทำให้ถ้ำนี้มีความแตกต่างจากถ้ำอื่น

เกาะมาเดรา(Madeira) เป็นเกาะที่มีชื่อเสียงโด่งดังในเรื่องความงดงามด้วยทะเลสีครามของมหาสมุทรแอตแลนติก รายล้อมไปด้วยป่าไม้ หุบเขา

7. สัมผัสแหล่งแรงบันดาลใจ นักเขียนระดับโลก J.K Rowling

ร้านหนังสือ “Livraria Lello” ตั้งอยู่ในเมืองปอร์โต(Porto) เป็นร้านหนังสือที่เก่าแก่ และสวยงามแห่งหนึ่งของโลก การตกแต่งร้านภายในเป็นสถาปัตยกรรมสไตล์นีโอโกธิค งานแกะสลักไม้อย่างมีศิลปะ บันไดที่ทอดเวียนโค้งจากชั้นล่างถึงชั้นบนงดงามคลาสสิก

การจัดวางหนังสือเรียงงดงามเป็นระเบียบ บนผนังเพดานประดับกระจกหลากสีแผ่นใหญ่เล่นลายสวยงาม เป็นร้านหนังสือที่เป็นแรงบันดาลใจของ เจ.เค โรว์ลิ่ง(J.K Rowling) เขียนหนังสือนิยายชื่อดังระดับโลก แฮร์รี่ พอตเตอร์(Harry Potter) เจ .เค โรว์ลิ่ง อาศัยอยู่เมืองนี้ เมื่อปี 2534-2536 และเป็นลูกค้าประจำของร้านหนังสือแห่งนี้ ปัจจุบันร้านหนังสือแห่งนี้มีผู้เข้าชมมากมายและยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอันดับต้นๆ ของเมืองปอร์โต จนบางครั้งทำให้ร้านหนังสือนี้ดูคับแคบลง

8. ชอปเพลิน เดินชิล ของฝากถูกใจ

การเดินทางท่องเที่ยวไปยังสถานที่ต่างๆ สิ่งที่ขาดไม่ได้นั่นคือ เดินเล่น ชอปปิง ซื้อของกินของที่ระลึก ของประเทศนั้นๆ โปรตุเกสก็เช่นกัน มีของที่ระลึกของฝากที่เป็นเอกลักษณ์หลายอย่างด้วยกัน ท่านสามารถเลือกจับจ่ายใช้สอยได้ตามต้องการ

หากมีโอกาสได้ไปเที่ยวโปรตุเกส ฟรีเบิร์ด ทราเวิล แอนด์ ทัวร์ ก็ขอแนะนำว่าอย่าพลาดที่จะแวะเที่ยวสเปนไปด้วย เพราะสเปนก็มีเมืองสวยๆน่าเที่ยวไม่แพ้กัน คลิกอ่าน สเปน เที่ยว 7 เมืองสวย คุณค่าที่คู่ควร