อิตาลี | 11 เสน่ห์ซิซิลีในมุมที่คุณไม่เคยรู้มาก่อน

Tags: 11 sicily charms you never know, sicily, italy, ซิซิลี, 11 เสน่ห์ซิซิลีในมุมที่คุณไม่เคยรู้มาก่อน, ทัวร์ซิซิลี, เที่ยวซิซิลี

เกาะซิซิลี(Sicily) ประเทศอิตาลี(Italy) ตั้งอยู่ในทำเลที่ดีเป็นจุดเชื่อมระหว่างเอเชีย ยุโรป และแอฟริกา ทำให้เป็นที่ต้องการของหลายชาติจึงทำให้หลายชาติเข้ามาแย่งชิงเพื่อครอบครอง ทั้งกรีก โรมัน อาหรับ นอร์มัง เยอรมัน ฝรั่งเศส สเปน ทำให้แต่ละชาตินำเอาศิลปะของพวกเขาเข้ามาเผยแพร่ และทิ้งร่องรอยอารยธรรมของตนเองกระจัดกระจายทั่วเกาะซิซิลี ไม่ว่าจะเป็น สถาปัตยกรรมโบราณสถานของชาวกรีก-โรมันต่างๆ ซึ่งกลายมาเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของซิซิลี

ทางใต้ของเกาะซิซิลีอยู่ห่างจากแอฟริกาเหนือไม่ถึง 100 ไมล์ อาหรับได้เข้ามาในศตวรรษที่ 9 ความหลากหลายของชนชาตินับเป็นมนต์เสน่ห์ของซิซิลี แต่ละชนชาติที่เข้ามาปกครองซิซิลีในอดีตต่างมีวิถีชีวิตและมีเอกลักษณ์เฉพาะในแต่ละชนชาติ มีมรดกทางวัฒนธรรมที่ได้รับตกทอดมาจากอดีตไม่ว่าจะเป็นอาหาร ประเพณี

วัฒนธรรมของซิซิลีกับอิตาลี ถึงแม้จะเป็นประเทศเดียวกัน อยู่ในยุโรปเหมือนกัน แต่ซิซิลีเป็นเขตปกครองตนเองมีความเชื่อ และวิถีชีวิตของตนเอง อีกทั้งซิซิลี(Sicily) มีความสมบูรณ์ทางธรรมชาติที่ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าภูมิภาคอื่นของอิตาลี มีสถานที่เที่ยวทางธรรมชาติมากมาย

ความสมบูรณ์ของสภาพภูมิอากาศ ภูมิประเทศ เป็นส่วนประกอบที่ทำให้ผลผลิตทางการเกษตรผักผลไม้มีคุณภาพมาก ทั้งหมดที่กล่าวมาเป็นเพียงส่วนหนึ่งที่ทำให้ซิซิลีมีเสน่ห์มากมาย แต่ความจริงแล้วยังมีเสน่ห์ของซิซิลีอีกหลายอย่างที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อน ฟรีเบิร์ด ทราเวิล แอนด์ ทัวร์ ชวนไปรู้จักกับ 11 เสน่ห์ซิซิลีในมุมที่คุณไม่เคยรู้มาก่อน

1. คนดังเกี่ยวพันซิซิลี

คนดังเกี่ยวพันซิซิลีมีหลายคนที่ฟรีเบิร์ดทัวร์อยากพาไปรู้จัก คนแรกก็คือ โยฮันน์ โวล์ฟกัง ฟอนเกอเธ่(Johann Wolfgang von Goethe) นักเขียนนักกวีชื่อก้องโลกชาวเยอรมัน เขาได้ใช้เวลาช่วงหนึ่งของชีวิตในการมาเยือนอิตาลีในระหว่างปี 1786-1788 เช่น เมืองปาแลร์โม(Palermo), เมืองทาโอร์มินา(Taormina) , เมืองอากรีเจนโต(Agrigento), เมืองคาทาเนีย(Catania)

ซิซิลี(Sicily) เป็น 1 ในแคว้นที่เกอเธ่ได้เลือกมาเยือน และนำมาเขียนหนังสือ “Italian Journey” ต้นฉบับเป็นภาษาเยอรมัน เกอเธ่ยังได้เคยกล่าวไว้ว่า

"To have seen Italy without having seen Sicily is to not have seen Italy at all, for Sicily is the clue to everything"
"ถ้าเคยเห็นอิตาลีแต่ยังไม่เคยเห็นซิซิลีถือว่ามาไม่ถึงอิตาลี ซิซิลีคือเบาะแสของทุกสิ่ง"
-Johann Wolfgang von Goethe-

อะคิมิดีส(Archimedes) นักประดิษฐ์ นักดาราศาสตร์ นักฟิสิกส์ นักคณิตศาสตร์ผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดในยุคกรีก บ้านเกิดของอะคิมิดีส อยู่ที่เมืองไซราคิวส์(Syracuse) เมืองเก่าแก่ในเกาะซิซิลีที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากยูเนสโก(UNESCO : United Nations Educational, Scientific and Cultural Organization)

อะคิมิดีส(Archimedes) เป็นบุคคลสำคัญที่ประดิษฐ์เครื่องทุ่นแรง อาวุธ เครื่องเหวี่ยงหิน เครื่องปล่อยท่อนไม้ ใช้สู้รบกับทหารโรมันเมื่อคราวเมืองไซราคิวส์(Syracuse)ถูกโจมตี

ฟรานซิส ฟอร์ด คอปโปล่า(Francis Ford Coppola) ผู้กำกับชาวอเมริกันชื่อดังได้เลือกซิซิลี(Sicily) เมืองคอร์เลโอเน(Corleone) เมืองเล็กๆที่ห่างจากปาแลร์โมประมาณ 30 กิโลเมตร เป็นสถานที่หนึ่งในการถ่ายทำภาพยนตร์ “The Godfather” ภาพยนตร์คลาสิคดังระดับตำนานชื่อก้องโลกเป็นภาพยนตร์ครบรสมากที่สุดเรื่องหนึ่งทั้งเรื่องราวความรัก ครอบครัว แอคชั่น วิถีชีวิตมาเฟียของซิซิลี อีกทั้งเพลงประกอบภาพยนตร์นั้นมีมนต์ขลังยิ่งใหญ่ที่สุดของฮอลีวูดเมื่อปี 1972 ในเพลงชื่อ “Speak Softly Love “

โดเมนิโก โดลเช่(Domenico Dolce) เป็นดีไซน์เนอร์คนดังชาวซิซิลี และเป็น 1 ในผู้ก่อตั้งแบรนด์ดังระดับโลก "โดลเช่ แอนด์ กับบานา"(Dolce & Gabbana) เขาก่อตั้งแบรนด์นี้ร่วมกับสเตฟาโน กาบบานา(Stefano Gabbana) นักออกแบบแฟชั่นชื่อดัง แม้สเตฟาโน กาบบานาจะไม่ได้เกิดที่ซิซิลีแต่ทั้งสองก็ทำให้คนทั่วโลกรู้จักซิซิลีมากขึ้นผ่านการออกแบบลวดลายผ้าที่เป็นเรื่องราวของซิซิลี เรื่องราวของซิซิลีปรากฎบนเสื้อผ้าในคอลเลคชั่นต่างๆ อีกทั้งแบรนด์ โดลเช่ แอนด์ กับบานา ยังจับมือกับเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวแบรนด์ดัง “Smeg” ออกแบบคอลเลคชั่น "Sicily My Love" สีสันสดใสลวดลายต่างๆนั้นได้แรงบันดาลใจมาจากเกาะซิซิลี นั่นเอง

2. ประวัติศาสตร์ยาวนานและยิ่งใหญ่

กว่าซิซิลี(Sicily) จะได้เป็น 1 ใน 20 แคว้น และเป็น 1 ใน 5 แคว้นปกครองตนเองของอิตาลี ร่วมกับ แคว้นฟริอูลิ เวเนเซียจูเลีย(Friuli-Venezia Giulia) แคว้นซาร์ดิเนีย(Sardinia) แคว้นเตรนติโน-อัลโต้ อาดิเจ้(Trentino Alto Adige) แคว้นวัลเล่ ดาออสต้า(Valle d’Aosta) ซิซิลี(Sicily) ผ่านเหตุการณ์มาหลายรูปแบบตลอดระยะเวลาหลายศตวรรษมีประวัติความเป็นมายาวนานต่อเนื่องมากว่า 4,000 ปี ภูมิประเทศเป็นเกาะอยู่กลางเมดิเตอร์เรเนียน เป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญให้หลายชาติมั่นหมายเข้ามาครอบครอง ตั้งแต่สมัยกรีก โรมัน ไบแซนไทน์ อาหรับ นอร์มัน ฝรั่งเศส เยอรมัน สเปน เหล่านี้ได้แพร่กระจาย วัฒนธรรม สถาปัตยกรรม ปรากฎต่อเนื่องเรื่อยมา

เสน่ห์ซิซิลีเมื่อวันวานสร้างมนต์ขลังที่มัดใจให้ผู้ไปเยือนได้อย่างอัศจรรย์เหมือนย้อนอดีตกลับไปท่องประวัติศาสตร์ผ่านสถาปัตยกรรมที่ได้รับการอนุรักษ์อย่างดี สถาปัตยกรรมของซิซิลีที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยยูเนสโก เป็นผลมาจากอารยธรรมจากอดีตในสมัยโบราณผสมผสานจนมาเป็นซิซิลี(Sicily) ทุกวันนี้ อยากรู้จักซิซิลีในปัจจุบัน ต้องเข้าใจอดีตของซิซิลี แล้วเราจะพบอัตลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร

3. เสน่ห์สถาปัตยกรรมแตกต่างที่ลงตัว Land of Beauty and Contrasts

ซิซิลี(Sicily) มีลักษณะเป็นเกาะที่แยกออกจากแผ่นดินใหญ่ของอิตาลีโดยมีช่องแคบเมสซิน่า(Strittu di Missina)คั่น เป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญของยุโรป จึงเป็นที่หมายปองของหลายชนชาติในสมัยอดีต การที่ซิซิลี(Sicily) เคยถูกปกครองจากหลายชนชาติ เช่น กรีก โรมัน อาหรับ นอร์มัน ฝรั่งเศส สเปน ผลัดกันเข้ามาครอบครองและได้เผยแพร่ศิลปะวัฒนธรรมของตนเองกระจายไปทั่วเกาะ เมื่อใดที่มีชนชาติใหม่เข้ามาปกครองก็มิได้ทำลายล้างสถาปัตยกรรมของเก่าไปแต่อย่างใด เพียงแต่เปลี่ยนแปลงลักษณะการใช้งานเช่นจากที่เคยใช้เป็นที่บูชาเทพเจ้าเปลี่ยนมาเป็นโบสถ์คริสต์ ชนชาติต่างๆยังคงศิลปะดั้งเดิมเอาไว้พร้อมบูรณะ และนำสถาปัตยกรรมของตนเองแทรกเข้าไป มีผลให้สถาปัตยกรรมที่มีอยู่ในซิซิลีเต็มไปด้วยศิลปะแตกต่างแต่ผสมผสานกลมกลืนปรากฎให้เห็นอยู่ในโบสถ์ วิหาร พระราชวัง ตึกอาคาร การประดับตกแต่งงดงามล้ำค่า ภาพโมเสคแบบไบแซนไทน์ โดม ซุ้มประตูสไตล์อาหรับ กำแพงพระราชวังแบบนอร์มัน งดงามลงตัวมีเอกลักษณ์โดดเด่น เราสามารถเห็นสิ่งเหล่านี้ได้ใน แคปเปลล่า พาลาตินา(Cappella Palatina), วิหารมอนเรอาเล(Monreale Duomo) เป็นสถาปัตยกรรมผสมผสาน ไบเซนไทน์ กรีก โรมัน อาหรับ และนอร์แมน หรือแม้จะอยู่ในเกาะซิซิลี(Sicily) เกาะเดียวกัน แต่ละเมืองยังมีสถาปัตยกรรมที่แตกต่างกัน

ในปีค.ศ. 1693 เกิดแผ่นดินไหวทำลายล้างหลายเมืองทางตะวันออกเฉียงใต้ของซิซิลี เช่น เมืองโนโต(Noto) เมืองโมดิกา (Modica) เมืองคาทาเนีย(Catania) เมืองรากูซา(Ragusa) ทำให้ต้องสร้างเมืองทั้งเมืองขึ้นมาใหม่ เมืองที่สร้างขึ้นใหม่ในเขตนี้ ไม่ว่าจะเป็นตึกราม อาคาร โบสถ์ วิหาร เป็นสไตล์ซิซิเลียนบารอค(Sicilian Baroque) ที่งดงามตระการตาน่าทึ่งได้รับการดูแลและบูรณะเป็นอย่างดีถึงแม้จะผ่านกาลเวลามาหลายปี

ซิซิลี(Sicily) มีความร่ำรวยทางสถาปัตยกรรมมากมายอย่างน่าอัศจรรย์ เป็นภูมิภาคที่เที่ยวได้คุ้มค่ามาก แม้กาลเวลาผ่านไปนานนับพันปีก็ไม่สามารถทำลายคุณค่าของสถาปัตยกรรมของซิซิลีได้เลย

4. 7 มรดกโลกอันทรงคุณค่าแห่งซิซิลี

ด้วยความงดงามของศิลปะ วัฒนธรรม สถาปัตยกรรม และประวัติศาสตร์ความเป็นมาอันยาวนานทำให้ ซิซิลี(Sicily) เป็นเกาะที่มีสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากยูเนสโก(UNESCO : United Nations Educational, Scientific and Cultural Organization) มากถึง 7 แห่ง นั่นก็คือ

1. Villa Romana del Casale ปี ค.ศ.1997 คลิกอ่านรายละเอียด

2. Archaeological Area of Agrigento ปี ค.ศ.1997 คลิกอ่านรายละเอียด

3. Isole Eolie (Aeolian Islands) ปี ค.ศ.2000 คลิกอ่านรายละเอียด

4. Late Baroque Towns of the Val di Noto (South-Eastern Sicily) ปี ค.ศ.2000 คลิกอ่านรายละเอียด

5. Syracuse and the Rocky Necropolis of Pantalica ปี ค.ศ.2005 คลิกอ่านรายละเอียด

6. Mount Etna ปี ค.ศ.2013 คลิกอ่านรายละเอียด

7. Arab-Norman Palermo and the Cathedral Churches of Cefalú and Monreale ปี ค.ศ.2015 คลิกอ่านรายละเอียด

ข้อมูลจาก UNESCO : United Nations Educational, Scientific and Cultural Organization

5. แหล่งกำเนิดของอร่อยสไตล์ซิซิลี

เนื่องด้วยซิซิลี(Sicily) มีวัฒนธรรมที่แตกต่างหลากหลายตามอิทธิพลของชาติต่างๆที่เข้ามายึดครอง ทำให้วัฒนธรรมการกิน อาหารท้องถิ่นของซิซิลีจึงเกิดการผสมผสานกัน ไม่แปลกเลยที่ซิซิลีจะมีอาหารที่หลากหลายเป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร ของอร่อยซิซิลีได้รับอิทธิพลมาจาก กรีก อาหรับ นอร์แมน สเปน หลายอย่างกลายเป็นซิกเนเจอร์ประจำเกาะ ประกอบกับซิซิลีมีวัตถุดิบชั้นดีทำให้สามารถรังสรรค์อาหารได้หลากหลายเมนู และขึ้นชื่อมีเอกลักษณ์โดดเด่นในเรื่องรสชาติ อาหารซิซิลีจึงเป็นอาหารที่ปราณีตที่สุดของอิตาลี เมื่อมาถึงซิซิลิอาหารที่เราต้องไม่พลาดที่จะกินก็คือ

พาสต้า อัลลานอร์มัน(Pasta alla norma) พาสต้ามะเขือยาว เมนูพิเศษเฉพาะในแถบซิซิลี ที่มีต้นกำเนิดมาจากเมืองคาทาเนีย(Catania) โดยมีส่วนผสมของมะเขือม่วง มะเขือยาวคลุกเค้าในซอสมะเขือเทศ กระเทียม สมุนไพร ชีส นี่คือตำนานพาสต้าแถบซิซิลีแห่งนี้

อารันชินี(Arancini) ด้านนอกเป็นเกล็ดขนมปังกรอบนอก ไส้ในผสมด้วยเนื้อ ชีส ผัก แล้วแต่สูตร นำไปทอดให้เหลืองกรอบ กินร้อนๆจะอร่อย หากินได้ทั่วไป ตามร้านคาเฟ่ ร้านอาหาร ร้านแถวสถานีรถไฟ หรือสตรีทฟู้ดทั่วไปในซิซิลี

กรานิต้า บรีโอเช่(Granita Brioche) ซิซิลีบ้านเกิดของกรานิต้า Sicilian Granita น้ำแข็งปั่นละเอียดเนียนนุ่มราวผงแป้งมีหลากหลายรส เช่น สตรอว์เบอร์รี เลมอน อัลมอนด์ กาแฟ ช็อกโกแลต และรสชาติอื่นๆอีกมากมาย การกินกรานิต้ารสชาติต่างๆ คู่กับขนมปังบริยอช(Brioche) อุ่นๆ ราดด้วยวิปครีมด้านบนสดชื่น หวาน อร่อยอุดมไปด้วยรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ สามารถเสริฟได้ทั้งวัน เช้า กลางวัน เย็น รับประทานได้ตลอดทั้งปีไม่จำเป็นต้องเฉพาะฤดูร้อน

แคนโนลี(Cannoli) ของหวานประจำเกาะซิซิลี มีต้นกำเนิดจากเมืองปาแลร์โม(Palermo) คาโนลีได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายไม่เพียงแต่ทั่วอิตาลีเท่านั้น ยังเผยแพร่ไปถึงอเมริกาจากการนำเข้าไปของชาวซิซิลีที่สมัยก่อนได้ไปอยู่ที่อเมริกา ของหวานแคนโนลี(Cannoli) ยังมีปรากฎในภาพยนตร์ชื่อดัง The Godfather อีกด้วย ลักษณะของคานโนลี หรือแคนโนลีคือแป้งด้านนอกรูปคล้ายท่อม้วนเล็กๆกรุบกรอบ ด้านในสอดไส้เนียนละเอียดของครีมริคอตต้าผสมส้ม หรือผลไม้อื่นๆ ถั่ว ช็อกโกแลต สอดไส้ครีม ถั่วพิสตาชิโอบด ใครมาซิซิลีต้องไม่พลาดลิ้มลองขนมซิซิลีแท้ๆ คลิกอ่าน ของอร่อยอิตาลีไม่ได้มีดีแค่พิซซ่า

ฟรุตตา มาร์โทรานา(Frutta Martorana) ขนมหวานสไตล์ซิซิลี ทำเป็นรูปผลไม้ และผัก คล้ายลูกชุบเมืองไทยแต่ขนาดใหญ่กว่า ว่ากันว่าการปั้นมาร์โทรานา ถือเป็นงานฝีมืออย่างหนึ่งของซิซิลีเลยก็ว่าได้

เลมอนเชลโล่(Limoncello) เหล้ามะนาวที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เครื่องดื่มสีเหลืองผลิตในอิตาลีนอกเหนือจากแถบ Capri, ชายฝั่งอัลมาฟี่(Amalfi Coast) และเมืองซอร์เรนโต(Sorrento) แล้ว ในแถบซิซิลีก็ยังเป็นแหล่งปลูกมะนาวที่ดีเพราะซิซิลีมีสภาพพื้นดิน และสภาพอากาศที่สมบูรณ์ ทำให้ท่านสามารถหาเหล้ามะนาวอร่อยๆได้ในซิซิลี คลิกอ่าน 9 เครื่องดื่มจาก 9 ประเทศที่ควรลิ้มรสสักครั้ง

6. ทะเลใส.....ภูเขาไฟทรงพลัง

ซิซิลี(Sicily) มีลักษณะเป็นเกาะล้อมรอบด้วยทะเลทริเรเนียน(Tyrrhenian) ไอโอเนียน(Ionian) เมดิเตอร์เรเนียน (Mediterranean) มีแนวชายฝั่งที่สวยงามกว่า 1,400 กิโลเมตร เป็นชายฝั่งที่มีเสน่ห์มากที่สุดแห่งหนึ่ง หาดทรายสวยงาม น้ำทะเลใสสะอาด เงียบสงบ เช่น เกาะไอโซล่า เบลล่า(Isola Bella) ฉายา The Pearl of the Ionian Sea เป็นเกาะเล็กๆติด ทอร์โอมินา(Taormina) เกาะที่รายล้อมไปด้วยชายหาดน้ำทะเลใสสะอาด

เมืองเซฟาลู(Cefalu) เมืองที่มีหาดทรายสวยที่สุดบนเกาะซิซิลี เป็นจุดหมายของหลายคนในการมาเที่ยวที่เกาะซิซิลีแห่งนี้ เรียกได้ว่าเป็นเมืองตากอากาศก็ไม่ผิด เพราะมีโรงแรมน้อยใหญ่ได้มาเปิดตัวอยู่ ณ เมืองเซฟาลู(Cefalu) แห่งนี้ จุดเด่นของเมืองคือ ชายหาดที่สวยงามทอดยาวไปตามแนวตัวเมือง หาดทรายสีขาว น้ำทะเลสีฟ้าครามใสไร้มลพิษ

หมู่เกาะเอโอเลียน(Aeolian) อยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของซิซิลี ชายหาด สกาล่าเดอเตอชี่(Scala dei Turchi) ชายหาดผาหินสูงตั้งตระหง่านสีขาวเกิดจากการกัดเซาะจนดูเหมือนขั้นบันได ยังมีชายหาดอีกหลายแห่งในซิซิลีที่นักท่องเที่ยวสามารถพักผ่อนเล่นน้ำทะเล อาบแดด ริมชายหาด ดำน้ำ ว่ายน้ำ เล่นสกี วินด์เซิร์ฟ ล่องเรือ

ซิซิลีไม่ได้มีเฉพาะทะเลสวยน้ำใสเท่านั้น ลักษณะเด่นที่ทรงเสน่ห์ของเกาะซิซิลีอีกอย่างหนึ่ง คือ ภูเขาไฟเอทน่า(Mount Etna) ที่ทรงพลังยังคุกกรุ่นอยู่สูงที่สุดของยุโรปและเป็นภูเขาไฟหนึ่งเดียวในยุโรปที่มีหิมะปกคลุม อยู่ทางตอนเหนือของเมืองคาตาเนีย เป็นภูเขาไฟที่ยิ่งใหญ่น่าเกรงขาม พื้นที่ส่วนใหญ่ปลอดภัยและท่องเที่ยวได้ หากมาที่ซิซิลีคงพลาดไม่ได้ในการมาเที่ยวภูเขาไฟเอทน่า มิเพียงแค่มาชมวิวเท่านั้นแต่ยังมีกิจกรรมที่จะทำให้เราได้ตื่นเต้นผจญภัยไปกับการนั่งรถจี๊ปแบบออฟโรดไปเห็นลำธารกระแสลาวาเก่าแก่สีแตกต่าง น้ำตาล ดำ ดำเข้ม หรือการได้นั่งกระเช้าไปสัมผัสภูมิประเทศของภูเขาไฟเอทน่าที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง หรือขึ้นเครื่องบินชมความงามของยอดภูเขาไฟเอทน่าในมุมกว้าง แม้กระทั้งการเล่นสกีในฤดูหนาวที่หิมะตกทับถมใต้พื้นหิมะเป็นสายลาวาอายุหลายศตวรรษ การได้ลองทำกิจกรรมที่ภูเขาไฟเอทน่าสักครั้ง ทำให้การมาเที่ยวซิซิลีนำมาซึ่งความประทับใจที่ยากจะหาที่ใดเหมือน คลิกอ่าน Sicily ส่องเมืองสวยไม่ซ้ำใครที่ควรไปเยือนสักครั้ง

7. ดินแดนแห่งพืชผักผลไม้และอาหารทะเล

ซิซิลี(Sicily) มีภูมิประเทศที่แตกต่างกันมีเนินเขาสลับสูงต่ำ มีภูเขาไฟเอทน่าที่สูงที่สุดในยุโรปตั้งเด่นเป็นสง่า ตัวเกาะอยู่กลางทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ภูมิอากาศดี ดินอุดมสมบูรณ์อันเกิดจากแร่ธาตุจากภูเขาไฟทำให้การเพาะปลูกได้ผลผลิตที่มีคุณภาพดี พืชผักงอกงามสดสะอาด และเพราะอยู่ติดทะเลเมดิเตอร์เรเนียน มีกระแสน้ำอุ่น ปริมาณฝนที่พอดี แสงแดดอุ่น ผลผลิตทางการเกษตรจึงมีมากมายหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็น ส้ม เลมอน มะกอก อัลมอนด์ องุ่น มะเขือเทศ ลูกพีช แอปเปิล แอปริคอตและอื่นๆ

เส้นทางตามเมืองต่างจังหวัดในซิซิลีเราจะเห็นไร่ส้มยาวตลอดทาง ผลส้มสีทองสุกอร่ามห้อยเต็มต้น เลมอน เมล่อน ผลไม้รสเปรี้ยวอาหรับเป็นผู้นำเข้ามาปลูกแพร่หลายไปทั่วเกาะ มีเส้นทางไร่องุ่นหลากสายพันธุ์กว้างไกลสุดตา องุ่นแถบนี้เริ่มเก็บเกี่ยวเดือนสิงหาคมจนถึงกันยายน สวนมะกอกสีเขียวเรียงเป็นแนวยาว ชาวกรีกเป็นชาติที่นำต้นมะกอกเข้ามาในซิซิลีเมื่อศตวรรษที่ 6 ฤดูเก็บเกี่ยวมะกอกจะอยู่ระหว่างกลางเดือนกันยายน ถึง ปลายเดือนพฤศจิกายน ขึ้นอยู่กับพื้นที่ที่ปลูก 10%ของน้ำมันมะกอกในประเทศอิตาลีผลิตในเขตซิซิลีแห่งนี้

ถั่วพิสตาชิโอปลูกแถบเมืองบรอนเต้(Bronte) ใกล้ภูเขาไฟเอทน่า 80%ของการปลูกพิสตาชิโอในประเทศอิตาลีเป็นผลผลิตมาจากเมืองบรอนเต้(Bronte)

บรอนเต้ พิสตาชิโอ(Bronte Pistachio) เป็นพิสตาชิโอที่มีชื่อเสียงมากเนื่องจากมีรสชาติอร่อย เนื้อไม่แข็ง อันเนื่องมาจากความอุดมสมบูรณ์ของดินแถบภูเขาไฟเอทน่า ผลไม้แถบซิซิลีมีคุณภาพสดอร่อย ถ้าไปซิซิลีช่วงที่ผลไม้ออกผลตามฤดูกาล เราจะฟินสุดๆกับการหาซื้อผลไม้ได้ตามตลาดทั่วไป ซิซิลีเป็นเกาะกลางทะเลเมดิเตอร์เรเนียน อาหารทะเลที่นั่นจึงมีมากมายไม่ว่าจะเป็น กุ้ง หอย ปลาหลากชนิด ทั้งสดและอร่อย วัตถุดิบทั้งหมดของซิซิลีมีคุณภาพที่ยอดเยี่ยมจึงกลายมาเป็นอาหารเมนูอร่อยๆ ให้ท่านได้ลิ้มลองเมื่อได้มาเที่ยวซิซิลี

8. สวรรค์ของคนรักเซรามิก

สำหรับ Ceramic Lover ทั้งหลาย การได้เดินทางมาเที่ยวซิซิลี(Sicily) คงเป็นที่สุดของความสุขในการเพลิดเพลินกับงานกระเบื้องเคลือบ งานเซรามิกที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของซิซิลี

ซิซิลี(Sicily) ได้ผ่านการยึดครองของหลายเชื้อชาติ ชาติที่ได้เข้ามาตั้งถิ่นฐานในแต่ละยุคสมัยได้ทิ้งร่องรอยศิลปะวัฒนธรรมเครื่องปั้นดินเผา เครื่องเคลือบและวิวัฒนาการเทคนิคการทำในรูปแบบต่างๆ เช่น กรีกทิ้งรูปแบบเครื่องปั้นดินเผา แจกัน โถ เหยือก ชาวโรมัน ทิ้งรูปแบบเครื่องเคลือบ “เทอร์ราซิจิลลาตา”(Terra Sigillata) โดดเด่นด้วยสีเอิร์ธโทน สีส้มอ่อนจนถึงสีแดง อาหรับนำพาเทคนิคการพัฒนาเครื่องปั้นดินเผาที่ตกแต่งลวดลายทรงเรขาคณิตอันเป็นคุณลักษณะพิเศษของเซรามิกซิซิลี

กาลเวลาผ่านไปกลายเป็นความสวยงามทางศิลปะที่ผ่านการตกแต่งออกแบบเป็นเครื่องเรือน ภาชนะใส่อาหาร กระถางต้นไม้ เครื่องประดับบ้าน เราจะพบเห็นสิ่งเหล่านี้อยู่ทั่วบนเกาะซิซิลี ศูนย์กลางเซรามิก อยู่ที่เมืองคัลตาจีโรเน(Caltagirone) ซึ่งเรียกว่าเป็น “City of Ceramic” “เมืองแห่งเซรามิก” เมืองที่ตึกอาคาร โบสถ์ บันได Santa Maria del Monte มีการใช้เซรามิกเป็นส่วนประกอบบอกเล่าเรื่องราวที่น่าสนใจ งานศิลปะเครื่องปั้นดินเผา งานเซรามิกแถบ คัลตาจีโรเน(Caltagirone) เป็นงานศิลปะที่ดีที่สุดในเกาะซิซิลี

งานศิลปะเซรามิกเด่นของแถบซิซิลียังมีอีกหลายเมือง แต่ละเมืองจะมีเอกลักษณ์แตกต่างกัน แถบปาเลอโม(Palermo) เน้นงานลายกราฟิก งานโมเสก ส่วนงานกระเบื้องแถบเมืองทาโอร์มินา(Taormina) มีเทคนิคที่หลากหลาย แต่ที่โดดเด่นจะเป็น “Testa di Moro” เซรามิกหัวคน สีสันสวยงามหลากหลายแบบ ทำเป็นแจกันหรือกระถางต้นไม้ใหญ่ ที่เพ้นท์ด้วยมือ รูปใบหน้าหนุ่มแขกมัวร์ บ้างเป็นสาวหน้าตาดี งานฝีมือที่ใส่ใจรายละเอียดความเข้มอ่อนของสีสัน ดวงตา ริมฝีปาก บนศีรษะประดับมงกุฎดอกไม้ใบไม้ประดับหรือโพกศีรษะ ตั้งวางเรียงรายอยู่ตามริมทางเดิน ริมระเบียง หรือทำเป็นแจกัน ของที่ระลึกเล็กจิ๋ว เซรามิกหัวคนเป็นวัฒนธรรมเซรามิกของชาวซิซิลีอย่างแท้จริง

ตำนานหัวมัวร์กล่าวกันหลายความเป็นมา เหตุหนึ่งเชื่อว่าสมัยก่อนมีการตัดหัวเสียบประจานผู้รุกรานทหารแขกมัวร์ของเกาะซิซิลีแห่งนี้ บ้างก็เล่าว่าหญิงสาวสวยชาวซิซิลีที่ใช้เวลาดูดอกไม้บนระเบียงของเธอตกหลุมรักชายหนุ่มแขกมัวร์แต่หนุ่มมีภรรยาและลูกแล้ว ความโกรธหญิงสาวจึงตัดหัวชายหนุ่มทิ้งเพื่อที่เขาจะไม่ทิ้งเธอไปตลอดกาล วันรุ่งขึ้นเธอจึงนำศีรษะหันหน้าออกและประดับประดาด้วยต้นไม้บนระเบียงของเธอ เราจึงได้พบเห็นแจกันหรือกระถางต้นไม้อยู่ทั่วเมือง คลิกอ่าน ไปอิตาลีซื้ออะไรดีน๊า

9. ดินแดนแห่งส้มหลากสายพันธุ์ “Sicily Land of orange diversity”

“ส้ม”(Orange) สัญลักษณ์ของความสดชื่น ผลไม้รสเปรี้ยวที่อุดมด้วยวิตามิน ซิซิลี(Sicily) เป็นดินแดนแห่งความหลากหลายของสีส้ม ยุโรปรู้จักส้มเมื่อศตวรรษที่ 15 นอกจากสเปนที่ปลูกส้มมากแล้ว ซิซิลีก็เป็นอีกหนึ่งที่ที่มีชื่อเสียงของส้มหลากหลายสายพันธุ์ โดยเฉพาะในเขตพื้นที่ของ ภูเขาไฟเอทน่า(Mount Etna) เมืองคาทาเนีย(Catania) และบางหมู่บ้านในเมืองไซราคิวส์(Syracuse) ส้มเจริญเติบโตได้ดีเนื่องจากดินภูเขาไฟที่อุดมสมบูรณ์ อุณหภูมิของแสงแดดอันอบอุ่น ปริมาณแร่ธาตุในดินทำให้เกิดสีแดงในผลไม้ อันประกอบด้วยสารแอนโทไซยานินมีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ มีปริมาณวิตามินซีสูงทำให้ส้มในแถบนี้มีคุณสมบัติไม่เหมือนใคร เราจะพบพันธุ์ส้มหลากสายพันธุ์แตกต่างกันมีเอกลักษณ์เป็นของตนเอง เช่น พันธุ์นาเวลลีนา(Navelina) ส้มพันธุ์นี้เปลือกหนาสีส้มออกเหลืองเข้มเนื้อในเป็นสีส้มเนื้อหวานฉ่ำจะเก็บเกี่ยวช่วงเดือนตุลาคม-ต้นเดือนพฤศจิกายน

พันธุ์ทารอคโค(Tarocco) ผิวสีเหลืองรูปร่างเป็นวงรีหวานปานกลางเปรี้ยวเล็กน้อยกลิ่นหอมละมุนนิยมนำมาเป็นน้ำผลไม้คั้นสด เก็บเกี่ยวช่วงกลางเดือนธันวาคม-ปลายเดือนพฤษภาคม

พันธุ์ซันกิวเนโล(Sanguinello) รูปร่างกลมสีออกส้มแดง เนื้อในเป็นสีแดงสดเก็บเกี่ยวประมาณเดือนมีนาคม

พันธุ์โมโร(Moro) สีส้มทับทิมแดง เนื้อผลข้างในสีม่วงเข้มสีนี้มาจากแอนโธไซยานิน(เม็ดสี)มีในปริมาณสูง รสเปรี้ยวฉ่ำ จะให้ส้มพันธุ์นี้ประมาณเดือนธันวาคม-ปลายเดือนกุมภาพันธ์ หากมาเที่ยวซิซิลีในช่วงที่ส้มออกดอกออกผล ท่านจะได้ซึมซับกลิ่นหอมสดชื่นและลิ้มรสส้มหลากสายพันธุ์หรืออาหารที่มีส่วนประกอบของส้มหลายเมนู

10. เสน่ห์ตลาดพื้นเมือง วิถีซิซิเลียน

สำเนียงเสียงซิซิเลียนร้องเชิญชวนของพ่อค้าแม่ค้าประหนึ่งเป็นเสียงเพลงที่ร้องสอดรับกัน เพื่อขายผลผลิตของตนอย่างเป็นมิตรเป็นกันเอง ผลผลิตมีหลากหลายทั้ง ผัก ผลไม้ นานาชนิด ปลา อาหารทะเลสด เนื้อสัตว์ เครื่องเทศ ของแปรรูป ขนมต่างๆ โลเคชั่นที่ติดทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ผลผลิตต่างๆจึงมีค่อนข้างเยอะหลากหลายและคุณภาพดี ในตลาดพื้นเมืองเก่าแก่อายุร้อยกว่าปีที่ได้รับอิทธิพลมาจากอาหรับเมื่อครั้งที่เข้ามาปกครองซิซิลี ตลาดคล้ายซุก(Souk) ของอาหรับ บรรยากาศตลาดพื้นเมืองจึงเป็นเอกลักษณ์รูปแบบหนึ่งของเกาะซิซิลี ตลาดที่เป็นที่นิยมของที่ซิซิลี เช่น ตลาดบัลลาโร(Ballaro), ตลาดคาโป (Capo), ตลาดวัคซิเรีย(Vucciria) การได้เดินเล่นในตลาดพื้นเมืองที่ซิซิลี เป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของการมาเที่ยวเกาะซิซิลี

11. แหล่งไวน์ท้องถิ่นคุณภาพเยี่ยม

การมาเที่ยวซิซิลี(Sicily) จะไม่สมบูรณ์แบบหากไม่ได้ดื่มด่ำกับไวน์รสเลิศในบรรยากาศสุดคลาสิค และแวะเที่ยวไร่องุ่น โรงบ่มไวน์เก่าแก่

แหล่งปลูกองุ่นในเกาะซิซิลีมีมากในแถบเมืองมาซาลา(Marsala) เมืองทราปานี(Trapani) เมืองอากรีเจนโต(Agrigento) เมืองปาแลร์โม(Palermo) เมืองรากูซา(Ragusa) เมืองโนโต(Noto) เป็นดินแดนใกล้ภูเขาไฟเอทน่า ซึ่งเป็นแหล่งดินอุดมสมบูรณ์ไปด้วยแร่ธาตุประกอบกับภูมิอากาศแบบเมดิเตอร์เรเนียนแสงแดดอบอุ่น ทำให้องุ่นมีคุณภาพดีและมีความโดดเด่น เป็นผลให้ผลผลิตไวน์มีคุณภาพสูงเช่นกัน ในอดีตซิซิลีผลิตไวน์ได้จำนวนมากแต่ผลิตเพื่อบริโภคกันเองในประเทศเท่านั้น ต่อมากได้มีการปรับปรุงพัฒนาทดลองเทคนิคใหม่ๆปรับปรุงพันธุ์องุ่นให้สอดคล้องไปกับพื้นดิน แสงอาทิตย์ ลม มีโรงบ่มไวน์ที่ได้คุณภาพ ทำให้ผลผลิตมีคุณภาพมากขึ้น ปริมาณการผลิตเพิ่มขึ้น สามารถส่งเป็นสินค้าออกไปขายยังอิตาลีตอนเหนือและนานาประเทศ จนทำให้ไวน์ซิซิลีมีชื่อเสียง ไวน์จากดินแดนแถบนี้ได้รับรางวัลคุณภาพมากมาย เช่น ไวน์มาซาร่า ไวน์จากทราปานี จึงกล่าวได้ว่าไวน์ดีที่สุดของอิตาลีบางส่วนมาจากซิซิลีแห่งนี้

มนต์เสน่ห์ที่มาพร้อมกับศิลปะ วัฒนธรรม ธรรมชาติ ประวัติศาสตร์ สามารถพบเห็นได้ทั่วเกาะซิซิลีแห่งนี้ ถ้าอยากให้การเดินทางเที่ยวซิซิลีเป็นมากกว่าการท่องเที่ยวธรรมดาที่คุณจะได้ทั้งสนุกเพลิดเพลินได้รับความรู้ และได้รับความสะดวกสบายเพิ่มขึ้น คุณสามารถออกเดินทางไปได้กับเรา ฟรีเบิร์ด ทราเวิล แอนด์ ทัวร์