Bhutan | สัมผัสมนต์ขลังผ่าน 3 เมืองท่องเที่ยว....ภูฏาน

         

 

bhutan_freebirdtour

 

ประเทศภูฏาน(Bhutan) หรือราชอาณาจักรภูฏาน(Kingdom of Bhutan)  Bhutan ได้รับสมญานามว่า 'ดินแดนแห่งมังกรสายฟ้า' (Land of the Thunder Dragon) เป็นประเทศเล็กๆแต่ยิ่งใหญ่ไปด้วยธรรมชาติ ภูเขา วัฒนธรรม ขนบธรรมเนียมประเพณีที่ยังคงรักษาไว้ได้เป็นอย่างดี สิ่งเหล่านี้ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวอยากเดินทางไปสัมผัส 

ภูฏานเป็นประเทศที่ไม่มีทางออกสู่ทะเล สำหรับเมืองหลักๆที่เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวก็คือ เมืองพาโร(Paro) เมืองทิมพู(Thimphu) และเมืองพูนาคา(Phunaka)  ฟรีเบิร์ด ทราเวิล แอนด์ ทัวร์ ชวนออกเดินทางสัมผัสมนต์ขลังผ่าน 3 เมืองท่องเที่ยว...ภูฏาน 

 

เมืองพาโร(Paro)

 

paro

 

พาโร(Paro) นับเป็นประตูที่คอยเปิดต้อนรับนักท่องเที่ยวเข้าสู่ภูฏาน เพราะเป็นที่ตั้งของสนามบินพาโร สนามบินนานาชาติแห่งเดียวของภูฏาน ที่เครื่องบินจะพาเราไปถึงภูฏานนั่นเอง 

พาโรอยู่ห่างจากเมืองหลวงทิมพูประมาณ 53 กิโลเมตร ที่นี่มีแม่น้ำไหลผ่านจำนวนสามสาย คือ แม่น้ำตอสา แม่น้ำวัง และแม่น้ำพูนาซอง ทำให้ทัศนียภาพของเมืองพาโรเป็นที่ประทับใจของนักท่องเที่ยว พาโรเป็นเมืองที่มีสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ และเต็มไปด้วยประวัติศาสตร์มากมาย สถานที่ศักดิ์สิทธิ์เหล่านี้กระจายอยู่ทั่วเมืองพาโร 

สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญๆของเมืองพาโร(Paro) เช่น  Paro Dzong(พาโรซอง) หรือ  Rinpung Dzong(รินปุง ซอง) ป้อมปราการแห่งอัญมณี ก่อตั้งโดย Zhabdrung Ngawang Namgyal(ซับดุง งาวัง นัมเกล) 

Dzong(ซอง) หมายถึง ป้อมปราการ ซึ่งเราจะสามารถพบเห็น Dzong(ซอง) ได้ทั่วไปในภูฏาน อาจได้เห็น Dzong(ซอง)  ขนาดเล็กบ้าง ขนาดใหญ่บ้าง

Paro Dzong หรือ  Rinpung Dzong(รินปุง ซอง) เคยเป็นส่วนหนึ่งของฉากในภาพยนตร์เรื่อง Little Buddha ปี 1993

 

พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติภูฏาน(National Museum of Bhutan) เป็นอีกหนึ่งสถานที่ห้ามพลาดของเมืองพาโร ในอดีตที่นี่คือป้อมปราการแต่ก็ถูกเปลี่ยนให้มาเป็นพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติภูฏานในปี ค.ศ.1968  ภายในจัดแสดงเหรียญกษาปณ์ ดวงตราไปรษณีย์ เครื่องแต่งกาย อาวุธ เครื่องมือต่างๆ ที่แสดงให้เห็นถึงเรื่องราวประวัติศาสตร์ของภูฏานได้อย่างชัดเจน

National Museum of Bhutan

 

วัดทักซัง(Taktsang Monastery) หรือรู้จักกันอีกชื่อว่า Taktsang Palphug Monastery and the Tiger's Nest วัดศักดิ์สิทธิ์ เก่าแก่ของประเทศภูฏาน และเป็นวัดชื่อดังของเมืองพาโร  ตั้งอยู่ริมหน้าผาของหุบเขา Paro ตอนบนของภูฏาน การขึ้นไปบนวัดทักซังอาจใช้วิธีการเดินเท้า ระยะทางประมาณ 4 กิโลเมตร โดยแบ่งออกเป็น 3 ช่วง ช่วงแรกจะมีระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร โดยเดินจากจุดจอดรถไปจนถึงเบสแคมป์ ใช้เวลาเดินประมาณ 1.30 - 2 ชั่วโมง ตรงจุดเบสแคมป์จะเป็นจุดพักให้นักท่องเที่ยวพักเหนื่อย เข้าห้องน้ำ มีร้านค้าให้เราอุดหนุนชากาแฟ การเดินช่วงแรกถ้าใครไม่อยากเดินก็สามารถใช้บริการขี่ม้าได้ ตรงจุดจอดรถจะมีม้าจำนวนมากคอยให้บริการ ราคาทัวร์ที่ซื้อส่วนใหญ่จะไม่รวมค่าบริการขี่ม้า ม้าจะพาเรามาส่งที่เบสแคมป์นี้ และเราต้องเดินเท้าต่อไปเอง ง่ายๆคือม้าจะไม่สามารถพาเราไปถึงยังวัดได้นั่นเอง จากนั้นเป็นการเดินต่อในช่วงที่สอง อีกประมาณ 1.5 กิโลเมตร และช่วงสุดท้ายจะเป็นการเดินลงไปหุบเขาเล็กน้อยก็จะถึงที่หมาย คือ วัดทักซัง(Taktsang Monastery) วัดที่มีชื่อเสียง และศักดิ์สิทธิ์มากของภูฏาน สำหรับขากลับจะต้องเดินเท้าลงอย่างเดียวไม่มีม้าให้บริการ 

วัดทักซัง(Taktsang Monastery) หรือวัดรังเสือ ในอดีตเคยถูกไฟไหม้เสียหาย แต่ต่อมาทางภูฏานก็ได้มีการบูรณะใหม่ให้กลับมาสวยเหมือนเดิม ความน่าประทับใจของวัดนี้ไม่ใช่แค่ความสวยของตัววัด และความศักดิ์สิทธิ์เท่านั้น แต่วิวที่เราได้เห็นตลอดทางบอกเลยว่าอลังการงานสร้างมากๆ เมื่อขึ้นไปด้านบนมองลงมาด้านล่างก็จะได้เห็นวิวเมืองพาโรที่สวยงาม

Taktsang Monastery

 ภาพโดย Zoltán Szabó จาก Pixabay

 

เมืองทิมพู(Thimphu)

 

thimphu bhutan freebirdtour

 

ทิมพู(Thimphu) เป็นเมืองหลวงของภูฏาน และเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในภูฏาน ที่นี่เป็นศูนย์กลางทางการเมืองและเศรษฐกิจ แม้ทิมพูจะเป็นเมืองหลวง แต่ก็เป็นเมืองหลวงที่ไม่มีสัญญาณไฟจราจร

ความสำคัญของเมืองทิมพู(Thimphu) คือ เป็นที่ประทับของพระมหากษัตริย์แห่งราชอาณาจักรภูฏาน สมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก และราชวงศ์ รวมทั้งเป็นที่ตั้งสถานทูต ตลอดจนที่ทำการรัฐบาลอีกด้วย นับได้ว่าเมืองทิมพูเป็นศูนย์กลางการเมือง และเศรษฐกิจของประเทศ


สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญในทิมพู(Thimphu) เช่น ตาชิโชซอง(Tashicho Dzong) เป็นป้อมปราการของเมืองทิมพู สถาปัตยกรรมของตาชิโชซอง(Tashicho Dzong) โดดเด่นแสดงความเป็นเอกลักษณ์ของภูฏาน ตาชิโชซอง(Tashicho Dzong) เป็นเหมือนพระราชวัง เป็นที่ทรงงานของกษัตริย์องค์ปัจจุบัน เป็นที่ทำงานของคณะรัฐบาล เป็นสถานที่สำคัญในการจัดกิจกรรมทางศาสนา ที่นี่เป็นจุดหมายสำคัญของการเดินทางไปเที่ยวเมืองทิมพู

Tashicho Dzong

 ภาพโดย Ana Arantes จาก Pixabay

 

สถานที่ท่องเที่ยวในเมืองทิมพูนอกจาก ตาชิโชซอง(Tashicho Dzong) แล้วก็ต้องไม่พลาดที่จะไปสักการะ Buddha Dordenma Statue พระพุทธรูปทองสัมฤทธิ์ และปิดทององค์ใหญ่ที่มีความสูงถึง 169 ฟุต มองเห็นได้จากที่ไกล Buddha Dordenma Statue สร้างขึ้นเพื่อฉลองครบรอบ 60 ปีของกษัตริย์ภูฏานลำดับที่ 4 สมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี ซิงเย วังชุก(Jigme Singye Wangchuck)

Buddha Dordenma Statue

Buddha Dordenma Statue

ตลาดนัดสุดสัปดาห์ ตั้งอยู่ริมแม่น้ำ ถ้าอยากได้สัมผัสวิถีชีวิตของคนท้องถิ่นจริงๆ ตลาดแบบนี้เป็นสถานที่ที่ห้ามพลาด ตลาดนัดสุดสัปดาห์ จะมีขึ้นทุกวันศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์ ชาวบ้านจะนำผลิตภัณฑ์ต่างๆออกมาขายทั้งพืชผัก ผลไม้ ตามฤดูกาล ชีส เสื้อผ้า งานฝีมือต่างๆ เป็นตลาดที่รวมผู้ซื้อผู้ขายของชาวเมืองไว้อย่างคึกคัก

 

เจดีย์ Druk Wangyal Chortens สร้างขึ้นโดย Ashi Dorji Wangmo Wangchuk ตั้งอยู่ระหว่างทางเมืองทิมพู(Thimpu)ไปเมืองพูนาคา(Punakha) ที่นี่เป็นที่ตั้งของเจดีย์ จำนวน 108 องค์

Chorten

 

เมืองพูนาคา(Phunaka)  หรือเมืองปูนาคา

 

phunaka

 

เมืองพูนาคา(Phunaka) หรือปูนาคา อดีตเมืองหลวงเก่าของภูฏาน พูนาคาอยู่ห่างจากเมืองทิมพู ประมาณ 70 กิโลเมตร เมืองพูนาคาเป็นเมืองที่ได้รับการกล่าวขานว่าเป็นเมืองที่มีความโรแมนติกมากที่สุดในภูฏาน พูนาคาเป็นที่ประทับของสมเด็จพระสังฆราช และคณะสงฆ์ในช่วงฤดูหนาว ด้วยอุณหภูมิของเมืองพูนาคาที่อบอุ่นกว่าเมืองทิมพู

Phunaka

 Phunaka

สถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของเมือง คือ Punakha Dzong หรือที่รู้จักกันในชื่อ Pungthang Dewa chhenbi Phodrang สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1637 Punakha Dzong พูนาคาซอง หรือปูนาคาซอง เป็นป้อมปราการประจำเมือง เป็นสถานที่ที่มีความสวยงาม โอบล้อมไปด้วยธรรมชาติ เพราะตั้งอยู่ระหว่างแม่น้ำสองสาย คือ แม่น้ำโพชู(Phochu)  และแม่น้ำโมชู(Mochu) ที่ไหลมาบรรจบกัน และที่เมืองพูนาคานี้ก็ยังเป็นที่จัดพระราชพิธีอภิเษกสมรสของพระราชาธิบดีจิกมีเคเซอร์ นัมเกล วังชุก อีกด้วย

Punakha Dzong

นอกจาก Punakha Dzong(พูนาคาซอง) ที่เป็นสถานที่สำคัญของเมืองพูนาคาแล้ว เมืองนี้ก็ยังเป็นที่ตั้งของ เจดีย์คัมซุม ยุลเล นัมเกล(Khamsum Yulley Namgyal Chorten) เจดีย์แห่งนี้นับได้ว่าเป็นสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นตามแบบภูฏาน ใช้เวลาก่อสร้างนานถึง 8 ปีครึ่ง (เจดีย์ ในภาษาภูฏาน เรียกว่า โชเต็น(Chorten)) 


ฤดูกาลในภูฏาน

อุณหภูมิในภูฏานจะแตกต่างกันเล็กน้อยตามภูมิภาค กลางวันอุณหภูมิประมาณ 15 - 25 องศาเซลเซียส กลางคืน 5 - 10 องศาเซลเซียส  ฤดูกาลในภูฏานจะมี 4 ฤดู คือ

ฤดูหนาว เดือนธันวาคม – กุมภาพันธ์ เวลากลางคืนอากาศจะหนาวเย็น บางช่วงอาจมีหิมะตกบ้าง

ฤดูใบไม้ผลิ เดือนมีนาคม – พฤษภาคม อากาศอบอุ่น อาจมีฝนบ้างเล็กน้อย สำหรับคนชอบดอกไม้สวยๆต้องไม่พลาดที่จะมาเที่ยวภูฏานในช่วงฤดูใบไม้ผลิ เพราะคุณจะได้เห็นดอกไม้สีสวยงามบานสะพรั่ง เช่น ดอกโรโดเดนดรอน(Rhododendron) หรือกุหลาบพันปี , ดอกเอเดลไวส์(Edelweiss) รวมไปถึงดอกไม้ป่านาชนิด ฤดูใบไม้ผลินับเป็นช่วง High Season ของการเที่ยวภูฏานเลยทีเดียว

ฤดูร้อน เดือนมิถุนายน – สิงหาคม เป็นฤดูกาลที่เต็มไปด้วยความเขียวขจี ดอกไม้บานสวย แดดดี

ฤดูใบไม้ร่วง เดือนกันยายน – พฤศจิกายน ท้องฟ้าแจ่มใส อากาศเย็นสบาย เป็นช่วง High Season ของการเที่ยวภูฏานเช่นกัน นักท่องเที่ยวหนาแน่น ข้าวออกรวงสีทอง บางพื้นที่จะได้เห็นความงดงามของดอกคอสมอส(Cosmos) ทั้งสีชมพู และสีขาวสวยงาม

 

ภาษาที่ใช้เมื่อไปเที่ยวภูฏาน

ชาวภูฏานรุ่นใหม่สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้เป็นอย่างดี เพราะมีการสอนภาษาอังกฤษตามโรงเรียน ภาษาประจำชาติของชาวภูฏานคือ ภาษาซองคา(Dzongkha) 

 

สกุลเงินที่ใช้ในภูฏาน

ภูฏานใช้สกุลเงิน งุลตรัม(Ngultrum) หรือ NU เมื่อเดินทางไปเที่ยวภูฏานให้ถือเงินสกุลดอลล่าร์สหรัฐ(USD) แล้วค่อยไปแลกสกุลเงิน งุลตรัม(Ngultrum) ที่สนามบินในภูฏาน หรือตามธนาคาร หากคุณเคยไปเที่ยวอินเดียและมีเงินรูปีหลงเหลืออยู่ก็สามารถนำไปใช้ในภูฏานได้ด้วยนะคะ  สำหรับบัตรเครดิตสามารถใช้ได้บางโรงแรม และบางร้านค้า

สกุลเงินงุลตรัม(Ngultrum) เป็นเงินที่ใช้หมุนเวียนอยู่ในประเทศภูฏาน ควรแลกแต่พอดีค่อยๆทยอยแลก และควรใช้ให้หมดก่อนกลับ หรือแลกคืนก่อนกลับประเทศไทย


การเดินทางไปประเทศภูฏาน

เวลาของประเทศภูฏานช้ากว่าประเทศไทย 1 ชั่วโมง การเดินทางจากประเทศไทยไปยังสนามบินพาโร(Paro Airport) ใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมง

สายการบินที่เปิดให้บริการไปภูฏาน มีเพียง 2 สายการบิน (ข้อมูล ณ ปี 2021) คือ สายการบิน ดรุ๊กแอร์(Druk Air) หรือ โรยัลภูฏาน แอร์ไลน์(Royal Bhutan Airline) เป็นสายการบินประจำชาติของราชอาณาจักรภูฏาน มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ Dzongkhag ทางตะวันตกของเมืองพาโร(Paro) ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1981 อีกสายการบินคือ ภูฏานแอร์ไลน์(Bhutan Airlines) หรือ Tashi Air เป็นสายการบินเอกชนแห่งแรกของภูฏาน สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่เมืองทิมพู(Thimphu) ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ.2011

สนามบินพาโร(Paro Airport) เป็นท่าอากาศยานนานาชาติเพียงแห่งเดียวของประเทศภูฏาน และเป็น 1 ใน 4 สนามบินในประเทศภูฏาน สนามบินพาโร(Paro Airport) ตั้งอยู่ใกล้กับแม่น้ำพาโร ชูชู(Paro Chu River) อยู่ลึกเข้าไปในหุบเขาประมาณ 6 กิโลเมตรจากเมืองพาโร สภาพแวดล้อมโดยรอบเต็มไปด้วยภูเขาสูงไม่ต่ำกว่า 5,500 เมตรจากระดับน้ำทะเล ด้วยข้อจำกัดของภูมิประเทศนี้ รวมทั้งสนามบินพาโรเป็นสนามบินนานาชาติที่ไม่มีระบบนำทาง การนำเครื่องบินขึ้นลงเป็นฝีมือ และประสบการณ์ล้วนๆของนักบิน นักบินที่จะบินเข้าออกประเทศภูฏานจึงเป็นนักบินของประเทศภูฏานเท่านั้น

นอกจากสนามบินพาโร(Paro Airport) ที่เป็นสนามบินนานาชาติของภูฏานแล้ว ภูฏานก็ยังมีสนามบินในประเทศอีก 3 แห่ง คือ สนามบินยงภูลา หรือสนามบินยอนพูลา(Yonphula Airport) , สนามบินบุมทัง(Bumthang Airport) และสนามบินเกเลฟู(Gelephu)

ไปประเทศภูฏานควรเลือกไปสายการบินอะไรระหว่าง สายการบิน ดรุ๊กแอร์(Druk Air) และสายการบินภูฏานแอร์ไลน์(Bhutan Airlines)  ฟรีเบิร์ดทัวร์แนะนำว่าทั้งสองสายการบินดีพอๆกัน

 

อาหารภูฏาน

1. อาหารภูฏานจะเน้นผักเป็นหลัก ส่วนเนื้อสัตว์จะมีการนำเข้ามาจากประเทศอินเดีย เพราะในภูฏานจะไม่ฆ่าสัตว์เพื่อมาบริโภคแต่จะใช้วิธีการนำเข้ามาจากประเทศอินเดียเป็นหลัก

2. อาหารภูฏานมักมีส่วนประกอบของชีส พริก ชาวภูฏานชอบทานรสเผ็ด และทานข้าวเป็นหลักเหมือนคนไทย

3. กรณีไปเที่ยวภูฏานกับฟรีเบิร์ดทัวร์ จะมีการจัดเตรียมอาหารเสริมจากเมืองไทยเพื่อเพิ่มรสชาติให้กับมื้ออาหารของคุณ

 

ของฝากจากภูฏาน

1. น้ำผึ้งป่าภูฏาน เป็นของฝากจากภูฏานที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากจากนักท่องเที่ยว

2. นมผึ้งภูฏาน อีกหนึ่งของฝากจากภูฏานที่ได้รับความนิยมไม่แพ้กัน

3. ผ้าทอพื้นเมือง ทักโซ(Thagzo)

4. ชุดประจำชาติของภูฏาน ชุดโก(Gho / Kho / Go) ชุดประจำชาติภูฏานของผู้ชาย  และชุดคีร่า(Kira) ชุดประจำชาติของผู้หญิง

5. หน้ากากไม้แกะสลัก

6. แสตมป์ภูฏาน

7. แยมผลไม้ของภูฏาน


         

 



 

- หากบทความนี้ดีต่อใจ ชวนคนที่คุณรักมาเที่ยวกับฟรีเบิร์ดทัวร์กันค่ะ -   

สนใจโปรแกรมทัวร์ภูฏานคลิกที่นี่

 

คุยกับครอบครัวฟรีเบิร์ดทัวร์

โทร.02-0488-785-7 Hotline 085-151-1000 , 094-782-6888 และ 093-570-3000

    instagramfreebirdtour  twitter freebirdtour  Youtube freebirdtour    

  

Visitors: 467,888