บริการยื่นวีซ่าอเมริกา

 บริการยื่นวีซ่าอเมริกาชั่วคราว วีซ่าธุรกิจ วีซ่าท่องเที่ยว(B1/B2)

อยากขอวีซ่าอเมริกา แต่ไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไรดี ฟรีเบิร์ด ทราเวิล แอนด์ ทัวร์ ให้บริการทำวีซ่าอเมริกา พร้อมให้คำแนะนำตั้งแต่เริ่มต้น และดำเนินการให้คุณจนจบทุกขั้นตอน ตั้งแต่ กรอกข้อมูล DS160 จัดทำแผนการเดินทางสำหรับขอวีซ่าอเมริกา ให้คำปรึกษาเรื่องการเตรียมเอกสาร ชำระค่าธรรมเนียมวีซ่า คอยดูคิวนัดหมาย เปลี่ยนแปลงคิวเมื่อคุณต้องการตามสิทธิ์ รวมทั้งพาคุณไปในวันสัมภาษณ์ ก่อนเริ่มทำวีซ่าอเมริกา ฟรีเบิร์ดทัวร์ พาคุณไปรู้จักกับประเภทของวีซ่า กันก่อน วีซ่าถาวร และ วีซ่าชั่วคราว

7 ขั้นตอนขอรับบริการยื่นวีซ่าอเมริกา

Step 1 :  ติดต่อเจ้าหน้าที่แผนกวีซ่า โดยการแอดไลน์ @freebirdtour แจ้งความต้องการ "ขอรับบริการยื่นวีซ่าอเมริกา"

Step 2 : กรอกแบบฟอร์ม กรอกแบบฟอร์มส่วนตัวของผู้ขอวีซ่า โปรดระบุสถานที่ที่จะรับสัมภาษณ์วีซ่า มีให้เลือก 2 แห่ง คือกรุงเทพฯ(จะมีเจ้าหน้าที่ไปกับท่านในวันสัมภาษณ์) หรือ เชียงใหม่(ไม่มีเจ้าหน้าที่ไป) ดาวน์โหลดแบบฟอร์มขอวีซ่าอเมริกา

2.1 กรุณากรอกแบบฟอร์มให้ครบถ้วน ท่านสามารถใช้การพิมพ์ หรือเขียนด้วยลายมือ กรณีเขียนด้วยลายมือ กรุณาเขียนตัวบรรจงให้อ่านง่าย ข้อมูลใดที่ไม่มีคำตอบให้ใส่เครื่องหมาย - 

2.2 ข้อมูลที่ต้องระบุ วัน/เดือน/ปี เช่น วัน เดือน ปี เกิด ของบิดา มารดา หากท่านจำไม่ได้ ให้ท่านใส่ตัวเลขใกล้เคียง ห้ามเว้นว่าง

2.3 พร้อมแนบ

      2.3.1 สำเนาหน้าพาสปอร์ต ที่ยังไม่หมดอายุ  และมีอายุการใช้คงเหลือมากกว่าระยะเวลาที่คุณจะอยู่ในสหรัฐ อเมริกา อย่างน้อยหกเดือน

      2.3.2 รูปถ่าย รายละเอียดของรูปถ่าย คลิกที่นี่

Step 3 : ชำระค่าบริการยื่นวีซ่า และค่าธรรมเนียมวีซ่าอเมริกา เจ้าหน้าที่แผนกวีซ่าจะทำใบเสนอราคาส่งให้ท่าน จากนั้นให้ท่านโอนเงินภายในเวลาที่ระบุ(ค่าธรรมเนียมวีซ่า และอัตราแลกเปลี่ยน กำหนดโดยสถานทูตอาจมีการเปลี่ยนแปลง กรุณาสอบถามก่อนการใช้บริการ)

Step 4 : เลือกวันสัมภาษณ์วีซ่าอเมริกา

Step 5 : เตรียมเอกสารสำหรับยื่นวีซ่าอเมริกา

Step 6 :  เดินทางไปสัมภาษณ์วีซ่า พร้อมทราบผลในวันสัมภาษณ์

Step 7 : รอรับเล่มหนังสือเดินทางคืนทางไปรษณีย์(กรณีวีซ่าผ่าน) หลังวันสัมภาษณ์ 3-5 วัน

วีซ่าชั่วคราว วีซ่าธุรกิจ วีซ่าท่องเที่ยว( B-1/B-2) คืออะไร

อ้างอิง ข้อมูลจาก ustraveldocs วีซ่าชั่วคราว หรือวีซ่าเยี่ยมเยียน B-1/B-2 เป็นวีซ่าสำหรับผู้ที่เดินทางไปสหรัฐอเมริกาชั่วคราวเพื่อวัตถุประสงค์ทางธุรกิจ (B-1) เพื่อพักผ่อน หรือเข้ารับการรักษาด้านการแพทย์ (B-2) โดยทั่วไปแล้ว วีซ่าชนิด B-1 เป็นวีซ่าสำหรับผู้เดินทางที่ต้องติดต่อกับผู้ร่วมงาน ผู้เข้าประชุมเชิงวิทยาศาสตร์ การศึกษา อาชีพ และธุรกิจ การจัดการสินทรัพย์ หรือต่อรองสัญญา วีซ่าชนิด B-2 สำหรับผู้ที่ต้องการเดินทางเพื่อการพักผ่อน การท่องเที่ยว เยี่ยมเยียนเพื่อนฝูงหรือญาติ การรักษาด้านการแพทย์ และการเข้าร่วมงานการกุศล กิจกรรมเพื่อสังคม หรือกิจกรรมด้านการบริการ วีซ่า B-1 และ B-2 มักจะออกร่วมกันเป็นวีซ่าเดียว เป็นวีซ่าชนิด B-1/B2

อัตราค่าบริการยื่นวีซ่าอเมริกา(วีซ่าชั่วคราว วีซ่าธุรกิจ/ท่องเที่ยว B-1/B-2)

ค่าวีซ่า แบ่งออกเป็น 2 ส่วน(ราคาต่อ 1 ท่าน)

1. ค่าบริการยื่นวีซ่าโดย ฟรีเบิร์ดทัวร์ ราคา 4,000 บาท 

2. ค่าธรรมเนียมวีซ่าอเมริกา 185 USD (ค่าธรรมเนียมวีซ่าอเมริกา และอัตราแลกเปลี่ยน กำหนดโดยสถานทูต อาจมีการเปลี่ยนแปลง กรุณาอิงจากใบเสนอราคา ณ วันนั้น) 

ทั้ง 2 ส่วน กรณีใช้บริการยื่นวีซ่าผ่านฟรีเบิร์ดทัวร์ ชำระเป็นสกุลเงินบาทไทย ผ่านบัญชีบริษัท ฟรีเบิร์ด ทราเวิล แอนด์ ทัวร์ ตามใบเสนอราคาที่ทางเจ้าหน้าที่ส่งให้

บริการที่ได้จากฟรีเบิร์ดทัวร์ฯ 

1. ให้คำแนะนำในการเตรียมเอกสารที่ใช้ในการยื่นวีซ่าอเมริกา ยื่นวีซ่าอเมริกาต้องใช้เอกสารอะไรบ้าง แนะนำโดยเจ้าหน้าที่แผนกวีซ่า

2. กรอกใบสมัคร DS-160 ผ่านระบบออนไลน์

3. ลงทะเบียนเข้าระบบ

4. ชำระค่าธรรมเนียมวีซ่าผ่านธนาคารกรุงศรีอยุธยา

5. จองคิวนัดสัมภาษณ์วีซ่า / เลื่อน / เปลี่ยนแปลงวันนัดหมาย / คอยดูวันหลุด

6. ตรวจสอบเอกสาร จัดเรียงเอกสาร(หากลูกค้าต้องการ)

7. แนะนำคำถามที่มักเจอจากลูกค้าที่ผ่านมา(หากลูกค้าต้องการ)

8. มีเจ้าหน้าที่ไปในวันสัมภาษณ์ด้วย(เฉพาะสัมภาษณ์ที่กรุงเทพฯ เท่านั้น) กรณีสัมภาษณ์ที่เชียงใหม่จะไม่มีเจ้าหน้าที่ไปในวันสัมภาษณ์

เอกสารที่ใช้ในการขอวีซ่าอเมริกา

ขอวีซ่าอเมริกาต้องเตรียมเอกสารอะไรบ้าง เอกสารที่ต้องใช้ในการขอวีซ่าอเมริกา มีดังนี้

เอกสารที่ฟรีเบิร์ดทัวร์เตรียมให้

1. ใบยืนยันการนัดสัมภาษณ์ Appointment Confirmation 

2. ใบยืนยันแบบฟอร์ม DS-160 Nonimmigrant Visa Electronic Application (DS-160) 

3. ใบเสร็จค่าธรรมเนียมวีซ่าอเมริกา 

เอกสารแสดงตัวตน

4. หนังสือเดินทาง(Passport) เล่มปัจจุบันที่ยังไม่หมดอายุ และมีอายุการใช้คงเหลือมากกว่าระยะเวลาที่คุณจะอยู่ในสหรัฐ อเมริกา อย่างน้อยหกเดือน (หากมีหนังสือเดินทางเล่มเดิมให้นำไปด้วยทุกเล่ม)

5. รูปถ่ายสี ขนาด 2x2 นิ้ว(5 cm x 5 cm) ถ่ายไว้ไม่เกิน 6 เดือน

6. สำเนาทะเบียนบ้าน (ถือตัวจริงติดไปในวันสัมภาษณ์ด้วย)

7. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน(กรณีเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี ใช้สำเนาสูติบัตร) (บัตรประชาชนถือตัวจริงติดไปด้วยในวันสัมภาษณ์จะต้องใช้)

8. สำเนาทะเบียนสมรส หรือกรณีหย่า ให้ใช้สำเนาทะเบียนหย่า หรือ ถ้าไม่ได้จดทะเบียนสมรส กรณีมีบุตรให้เตรียมสำเนาสูติบัตรลูกเพื่อเป็นการยืนยันความสัมพันธ์

9. สำเนาหลักฐานการเปลี่ยนชื่อ หรือนามสกุล(กรณีเคยเปลี่ยนชื่อ หรือนามสกุล ให้เตรียมสำเนาหลักฐานการเปลี่ยนชื่อ หรือนามสกุล)

เอกสารทางการเงิน

10. เอกสารทางการเงิน(ออกเป็นภาษาอังกฤษ)
• Bank Statement จากธนาคารของผู้ยื่นคำร้องย้อนหลัง 6-12 เดือน
o บัญชีเงินฝากต้องเป็นประเภทออมทรัพย์
o ควรมียอดเงินแสดงในบัญชีล่าสุดอย่างน้อย 2 แสนบาท (หากเล่มปัจจุบันมีอายุไม่ถึง 6 เดือน ต้องถ่ายสำเนาเล่มเก่าทั้งเล่มด้วย)
o กรุณาทำรายการเดินบัญชีโดยการฝาก หรือถอนก่อนอัพเดทยอดเงิน
o ชื่อบัญชีต้องเป็นชื่อ-นามสกุล เดียวกับพาสปอร์ต
o ควรเลือกใช้บัญชีที่มีเงินฝากมากที่สุด
o Bank Statement ต้องออกจากธนาคารเท่านั้น ไม่สามารถถ่ายสำเนาจากสมุดบัญชี หรือโหลดจากแอพธนาคาร
o กรุณานำสมุดบัญชีเล่มจริงไปในวันสัมภาษณ์ด้วย เจ้าหน้าที่อาจจะขอดูหรือไม่ขอดู(Book Bank ตัวจริงต้องเป็นบัญชีเดียวกับที่ใช้ยื่น และ update สถานะบัญชีในสมุดฝากให้เป็นวันที่ปัจจุบันใกล้วันสัมภาษณ์ให้มากที่สุด)
o ไม่ควรขอเอกสารก่อนวันสัมภาษณ์นานเกินไป หากเป็นไปได้ให้อยู่ภายใน 7 วัน เพื่อให้เอกสารเป็นปัจจุบันที่สุด

• เอกสารรับรองสถานะทางการเงิน(Bank Certificate)
o ออกโดยธนาคารเป็นภาษาอังกฤษ
o ต้องเป็นบัญชีเดียวกันกับสมุดบัญชีแบบออมทรัพย์ที่นำมาแสดง
o ชื่อ นามสกุล ตรงกับพาสปอร์ต
o เอกสารรับรองสถานะทางการเงินให้ระบุ TO WHOM IT MAY CONCERN ไม่ต้องระบุชื่อสถานทูต
o ระบุสกุลเงินเป็น USD(United States dollar)
o ไม่ควรขอเอกสารก่อนวันสัมภาษณ์นานเกินไป หากเป็นไปได้ให้อยู่ภายใน 7 วัน เพื่อให้เอกสารเป็นปัจจุบันที่สุด

• ผู้เดินทางสามารถเตรียมเอกสารอื่นๆ เพิ่มเติม(เตรียมหรือไม่ก็ได้) เพื่อแสดงให้เห็นถึงความมั่นคง หรือแสดงให้เห็นถึงสถานะความผูกพันที่มีอยู่ในเมืองไทย เช่น โฉนดที่ดิน บ้าน คอนโด ฯลฯ รวมไปถึงสามารถแสดงรูปถ่ายทรัพย์สิน อสังหา ต่างๆ ที่ท่านมี

• กรณีผู้เดินทางไม่ได้ออกค่าใช้จ่ายเอง ให้เตรียมเอกสารของตัวเองทุกอย่างตามข้อ 10 และเพิ่มเติม
o Bank Statement ของผู้ที่ออกค่าใช้จ่าย(Sponsor) ต้องเป็นบัญชีออมทรัพย์ ที่ออกจากธนาคารเท่านั้น
o เอกสารรับรองสถานะทางการเงิน(Bank Certificate) ของผู้ที่ออกค่าใช้จ่าย(Sponsor) ต้องออกจากธนาคาร มีลายเซนต์ พร้อมมีตราประทับ เอกสารต้องเป็นภาษาอังกฤษ ระบุสกุลเงินเป็น USD
o เอกสารรับรองสถานะทางการเงินให้ระบุ TO WHOM IT MAY CONCERN ไม่ต้องระบุชื่อสถานทูต
o แนบเอกสารระบุความสัมพันธ์ เช่น ทะเบียนสมรส หรือหากรับรองให้บุตรต้องมีสำเนาสูติบัตร
o สำเนาบัตรประชาชน ของทั้งผู้สัมภาษณ์ และ ผู้ออกค่าใช้จ่าย
o สำเนาทะเบียนบ้าน ของทั้งผู้สัมภาษณ์ และ ผู้ออกค่าใช้จ่าย (กรุณาถ่ายหน้าแรก และหน้าที่มีชื่อของผู้สัมภาษณ์ และผู้ออกค่าใช้จ่าย)
o เอกสารใช้ 1 คน ต่อ 1 ชุด ไม่สามารถถ่ายสำเนาได้

เอกสารทางการงาน

11. เอกสารทางการงาน

•  กรณีเป็นพนักงานบริษัท ราชการ รัฐวิสาหกิจ

o   ให้บริษัท ออกเอกสารรับรองการทำงาน ระบุชื่อ นามสกุล ตำแหน่งงาน วันที่เริ่มงาน ระยะเวลาการทำงานอัตราเงินเดือน ของผู้เดินทาง

o   เอกสารรับรองการทำงานให้ระบุหัว TO WHOM IT MAY CONCERN (ไม่ต้องระบุชื่อสถานทูต)

o   ชื่อ นามสกุล ต้องสะกดให้ตรงกับพาสปอร์ต

o   ลงท้ายผู้มีอำนาจลงนาม พร้อมประทับตราบริษัท

o   เอกสารรับรองการทำงานต้องเป็นภาษาอังกฤษ

o   สลิปเงินเดือน 3 เดือนล่าสุด

•  กรณีเป็นจ้าของกิจการ ให้เตรียมเอกสารที่แสดงให้เห็นว่าท่านเป็นเจ้าของกิจการ เช่น

o   หนังสือรับรองจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล

o   ใบทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม(ภ.พ. 20)

o   ใบทะเบียนพาณิชย์(พ.ค. 0403)

o   หลักฐานการจดทะเบียนบริษัทมหาชนจำกัด แบบ พ.ค.0504(กรณีเป็นมหาชน)

o   คำขอจดทะเบียน แบบ บมจ.101

o   เอกสารอื่น เช่น รูปถ่ายบริษัท , websit บริษัท เป็นต้น

(เอกสารอาจแตกต่างกันไป แต่ละเจ้าของกิจการ)

• กรณีเป็นนักเรียน นักศึกษา

o   ให้ออกหนังสือรับรองสถานะการเป็นนักเรียน นักศึกษา จากโรงเรียน หรือสถาบันการศึกษานั้นๆ ระบุชื่อ นามสกุล ให้ตรงกับพาสปอร์ต, ระบุชั้นปี สาขา คณะ ชื่อสถาบัน ลงชื่อผู้มีอำนาจ และตราประทับของสถาบัน

o   ผลการเรียนล่าสุด ใบรับรองผลการศึกษา 

o   สำเนาบัตรนักเรียน นักศึกษา(ถ้ามี)

o   หนังสือรับรองต้องเป็นภาษาอังกฤษ

o   เอกสารให้ระบุTO WHOM IT MAY CONCERN (ไม่ต้องระบุชื่อสถานทูต)

12. กรณีผู้ขอวีซ่า(ผู้เดินทาง) อายุไม่ถึง 20 ปี

• หากเด็กเดินทางไปกับบิดา หรือมารดา คนใดคนหนึ่ง จะต้องมีหนังสือยินยอมให้เด็กเดินทางออกนอกประเทศจาก      โดย หนังสือยินยอมนี้จะต้องออกจากสำนักงานเขต หรือที่ว่าการอำเภอ ตามทะเบียนบ้าน พร้อมแนบสำเนาหน้าพาส  ปอร์ตของทั้งมารดา และบิดา โดยต้องมีลายเซนต์ของทั้งบิดา และมารดา โดยจะต้องมีข้อความระบุว่าให้เด็กเดินทาง  ไปกับใคร เกี่ยวข้องกันอย่างไร
• หากเด็กไม่ได้เดินทางกับทั้งบิดา และมารดา จะต้องมีหนังสือยินยอมให้เด็กเดินทางออกนอกประเทศจากทั้งบิดา และมารดา หนังสือยินยอมนี้จะต้องออกจากสำนักงานเขต หรือที่ว่าการอำเภอ ตามทะเบียนบ้าน พร้อมแนบสำเนาหน้าพาสปอร์ตของทั้งมารดา และบิดา โดยจะต้องมีข้อความระบุว่าให้เด็กเดินทางไปกับใคร เกี่ยวข้องกันอย่างไร
• กรณีที่บิดา มารดา ของเด็กหย่าร้าง ให้แนบสำเนาใบหย่า โดยมีการสลักหลังระบุว่าบิดา หรือมารดา เป็นผู้มีอำนาจปกครองบุตรแต่เพียงผู้เดียว
• หนังสือยินยอมออกเป็นภาษาอังกฤษ
• เอกสารให้ระบุTO WHOM IT MAY CONCERN (ไม่ต้องระบุชื่อสถานทูต)

13. แผนการเดินทางตลอดระยะเวลาเดินทาง

14. กรณีผู้เดินทางจะไปพักกับญาติ ให้ญาติพิมพ์จดหมายระบุให้ที่พัก ไม่มีแบบฟอร์มของเอกสาร หรือรูปแบบตายตัว แต่ในจดหมายควรระบุ ข้อมูลของทั้ง 2 ฝั่ง คือฝั่งของผู้ให้ที่พัก กับฝั่งของผู้ขอวีซ่า เช่น

ข้อมูลผู้ให้ที่พัก ระบุ

• ชื่อนามสกุล
• ที่อยู่
• หมายเลขโทรศัพท์
• หมายเลขหนังสือเดินทาง
• อีเมล์
• อาชีพ
• ประเภทของบ้านที่จะให้พัก เช่น อพาท์เม้นท์ บ้านเดี่ยว ระบุสถานะ เช่น เช่า เจ้าของ
• สถานะในอเมริกาของผู้ให้ที่พัก เช่น วีซ่าทำงาน, วีซ่านักเรียน, ผู้อยู่อาศัยถาวร หรือเป็นพลเมือง หรือสถานะทาง กฎหมายอื่นๆ
• พร้อมลงลายมือชื่อ
• แนบสำเนาหลักฐานสถานภาพของญาติที่อยู่ในประเทศสหรัฐฯ (เช่นกรีนการ์ด ใบรับรองสัญชาติ วีซ่าที่ยังไม่หมดอายุ เป็นต้น)

ข้อมูลของผู้ขอวีซ่า ระบุ

• ชื่อนามสกุลตามที่ปรากฎบนหนังสือเดินทาง
• หมายเลขหนังสือเดินทาง
• ที่อยู่และหมายเลขโทรศัพท์ของบุคคลนั้น
• ความสัมพันธ์ เช่น พ่อ, แม่ ลูกชาย, ลูกสาว ฯลฯ
• วัตถุประสงค์ของการเดินทาง เช่น เยี่ยมเยือน, ท่องเที่ยว, ร่วมงานวันรับปริญญา, งานแต่งงาน, งานเลี้ยงวันเกิด ฯลฯ
• วันที่เดินทางเข้าออก ประเทศ และ วันที่จะให้ที่พัก
  

15. อื่นๆ เช่น

• หากท่านเคยเดินทางไปสหรัฐอเมริกามาก่อน ให้นำเอกสารยืนยันการเดินทางเข้าประเทศ และสถานะวีซ่ามาประกอบ
  

รูปถ่ายที่ใช้สำหรับขอวีซ่าอเมริกา

• รูปถ่ายสี ขนาด 2x2 นิ้ว(5 cm x 5 cm) ถ่ายไว้ไม่เกิน 6 เดือน จำนวน 2 รูป(สถานทูตต้องการเพียง 1 รูป แต่เผื่อไว้อีก 1 รูป)
• รูปถ่ายจะต้องมีลักษณะเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัส ซึ่งหมายความว่าความสูง และความกว้างของรูปจะต้องเท่ากัน
• ไม่อนุญาตให้ใช้รูปถ่ายด่วน หรือโพรารอยด์
• ไม่มีการตกแต่งภาพใดๆ ทั้งสิ้น และภาพต้องไม่มีลวดลาย
• พื้นหลังของภาพต้องเป็นสีขาวเท่านั้น และต้องไม่มีเงา
• รูปถ่ายต้องหน้าตรง ไม่หลับตา
• ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2559 ผู้สมัครห้ามสวมแว่นตาในรูปถ่าย
• ห้ามสวมหมวก หรือสิ่งคลุมศีรษะ ยกเว้นภายใต้ข้อกำหนดทางศาสนา ในรูปถ่ายจะต้องมองเห็นทั้งใบหน้าเต็ม และสิ่งปิดคลุมศีรษะจะต้องไม่ทำให้เกิดเงาบนใบหน้า ไม่ใส่เครื่องประดับ
• ความสูงของศีรษะ เมื่อวัดจากด้านบนสุดของศีรษะซึ่งรวมผมด้วยจนถึงใต้คางจะต้องอยู่ระหว่าง 50%-70% ของความสูงของรูปถ่ายทั้งหมด ระดับดวงตาที่วัดจากด้านล่างสุดของรูปถ่ายจนถึงระดับดวงตาควรอยู่ระหว่าง 55% ถึง 70% - หรือประมาณ 2/3 ของความสูงของรูปถ่าย
• รูปถ่ายต้องไม่มีรอยเลอะของน้ำหมึกจากปากกา หรือรอยเลอะใดๆ
• รูปถ่ายที่ใช้ในการยื่นคำร้องขอวีซ่าจะต้องตรงตามกำหนดไว้ทุกประการทั้งขนาด และสิ่งที่ปรากฏในรูป(ตามตัวอย่างด้านล่าง)
• รูปถ่ายจะต้องมีอายุไม่เกิน 6 เดือน ในวันสัมภาษณ์
• กรุณาเตรียมเงิน 150 บ./ท่าน ให้พอดีไม่มีทอน กรณีรูปที่ท่านนำไปใช้ไม่ได้ ต้องถ่ายใหม่(ด้านในมีบริการ) แต่ควรเตรียมรูปไปให้พร้อม

ขอรับบริการยื่นขอวีซ่าอเมริกามีขั้นตอนอย่างไร ขอวีซ่าอเมริกาต้องใช้เอกสารอะไรบ้าง รูปถ่ายที่ต้องใช้สำหรับขอวีซ่าอเมริกา ค่าธรรมเนียมวีซ่าอเมริกาเท่าไหร่ ค่าบริการยื่นวีซ่าอเมริกาเท่าไหร่ ทั้งหมดนี้ Freebird Travel and Tour ได้เขียนมาให้เรียบร้อยแล้ว ท่านที่มีแผนจะเดินทางไปเที่ยวสหรัฐอเมริกา แต่ไม่มีเวลาขอวีซ่าอเมริกา อยากจะหา Agency สำหรับช่วยอำนวยความสะดวกในการกรอกวีซ่าอเมริกา ฟรีเบิร์ด ทราเวิล แอนด์ ทัวร์ ยินดีอำนวยความสะดวกให้กับท่าน แต่สำหรับท่านใดที่อยากจะขอวีซ่าอเมริกาด้วยตัวเอง ฟรีเบิร์ดทัวร์ แนะนำคลิกอ่าน 8 ขั้นตอนการขอวีซ่าอเมริกาด้วยตัวเอง ล่าสุด2024 

Update ข้อมูล ณ วันที่ 16 พ.ค.2567

อัตราค่าบริการ และค่าธรรมเนียมวีซ่าอาจมีการเปลี่ยนแปลง

ดาวน์โหลดแบบฟอร์ม และเอกสารที่เกี่ยวข้อง