10 ประเทศน่าไปในปี 2018 จากการจัดอันดับของ Lonely Planet

ทัวร์ต่างประเทศ | 10 ประเทศน่าไปในปี 2018 จากการจัดอันดับของ Lonely Planet

 

แม้จะเพิ่งเริ่มต้นปีแต่เชื่อว่าบางคนวางแผนการเดินทางยาววววววไปถึงปลายปีแล้วใช่ไหมคะ แต่สำหรับใครที่ยังนึกเท่าไหร่ก็นึกไม่ออกเสียทีว่าปีนี้ทั้งปีเราจะไปเที่ยวไหนกันดี ลองมาดูแนวทางของ Lonely Planet  ที่จัด 10 อันดับประเทศน่าไปในปี 2018 อาจเป็นประเทศที่อยู่ในใจของเราก็เป็นได้

10. Oslo, Norway ออสโล เมืองหลวงของประเทศนอร์เวย์ หากไปเที่ยวในปี 2018 นี้เราจะได้สัมผัสกับบรรยากาศที่พิเศษ เพราะเป็นปีแห่งการฉลองครบรอบ 50 ปี การแต่งงานของพระราชา และราชินี ของพวกเขา รวมไปถึงความน่าสนใจของโรงละครเก่าแก่ 

9. Guanajuato, Mexico  รัฐกวานาคัวโต อยู่ทางตอนกลางของประเทศเม็กซิโก เมืองที่เต็มไปด้วยความสวยงามของสถานที่ และวัฒนธรรม ที่เมืองนี้มีพิพิธภัณฑ์มัมมี่ และยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปี ค.ศ. 1988  สถานที่นี้ยังเป็นแรงบันดาลใจในภาพยนตร์เอนิเมชั่นของพิกซ่า เรื่อง Coco อีกด้วย

8. San Juan, Puerto Rico 'ซานฮวน' เป็นเมืองหลวงของเปอร์โตริโก และเป็นเมืองที่มีความใหญ่เป็นอันดับที่ 42 ของสหรัฐอเมริกา เมืองนี้เป็นเมืองที่ผสมผสานไปด้วยความหลากหลาย มีชายหาดเก่าแก่ มีแหล่งบันเทิงยามค่ำคืน มีพิพิธภัณฑ์ งานแสดงศิลปะ ทั่วทั้งเมืองมีศิลปะตามกำแพง นักท่องเที่ยวสามารถเดินทอดน่องตามตรอกซอกซอยที่เต็มไปด้วยตึกรามบ้านช่องที่ฉาบสีพาสเทลแซมสลับกับความเขียวขจีของต้นไม้ รับรองว่าเพลินตาเพลินใจกันเลยค่ะ

7. Matera, Italy มาเตรา เมืองมรดกโลกสถานที่ท่องเที่ยวที่มีความสำคัญทางด้านประวัติศาสตร์มากว่า 9,000 ปี  เป็นเมืองโบราณตั้งอยู่เหนือหุบเขาที่มีแม่น้ำสายเล็กๆไหลผ่าน อาคารบ้านเรือนสร้างจากหิน เวลากลางคืนแสงไฟที่ลอดมาจากอาคารบ้านเรือนที่มีลักษณะเหมือนถ้ำนั้น สวยงามเกินบรรยาย

6. Antwerp, Belgium นึกถึงเบลเยี่ยมทีไร แอดมักจะนึกถึงเด็กยืนฉี่มาก่อนอื่นเสมอ แต่ถ้าพูดที่ไฮไลท์สำคัญที่น่าไปในปี 2018 นี้ ก็ต้องแอนต์เวิร์ป เมืองในประเทศเบลเยียม เพราะที่นี่เป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน แต่มีความทันสมัย เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรม ศิลปะสไตล์โกธิก ของศิลปินที่มีชื่อเสียงอย่าง Peter Paul Rubens 

5. Kaohsiung, Taiwan เกาสงอีกหนึ่งเมืองที่น่าสนใจในไต้หวัน แต่ถ้าไปไต้หวันและอยากสัมผัสให้ถึงชีวิตจริงๆ อย่าลืมเดินเที่ยวตลาดกลางคืนอันคึกคัก ชมงานศิลปะของเหล่าศิลปิน เดินเล่นจิบกาแฟตามร้านคาเฟ่ต่างๆรอบเมือง ไม่อยากเดินก็สามารถเช่าจักรยานปั่นได้สบายมาก

4. Hamburg, Germany ที่นี่มีหอจัดแสดงดนตรี Elbhilharmonie ที่ใช้อัลกอริทึ่มเป็นวัสดุกันเสียงมากกว่า 10,000 แผ่น วัสดุซับเสียงทุกแผ่นทำมาจากเส้นใยยิปซั่ม และมีเซลส์จำนวนหนึ่งล้านเซลส์เรียงรายอยู่ตามเพดาน ผนัง และราวบันได เมื่อคลื่นเสียงกระทบกับแผ่น เซลส์เหล่านี้จะช่วยดูดซับคลื่น หรือสะท้อนกลับไปทั่วหอประชุม ประสานกันเกิดเป็นเสียงสมบูรณ์ 

3. Canberra, Australia มีอะไรหลายอย่างที่จะเกิดขึ้นมากมายในปีนี้ของสถานที่แห่งนี้ ที่นี่จะเป็นครั้งแรกของการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน Cricket ระหว่างออสเตรเลีย และศรีลังกา  และยังจะเป็นเจ้าภาพจัดงานครบรอบ 100 ปี แห่งการสงบศึกสงครามโลกครั้งที่ 1 อีกด้วย นอกจากนี้เมืองนี้ยังเต็มไปด้วยสถานที่สำคัญของประเทศ และวัฒนธรรมที่น่าสนใจ

2. Detroit, Michigan  เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมาเมืองดีทรอยต์ได้ทำการปรับปรุงพัฒนาพื้นที่รกร้างให้กลายเป็นหอศิลป์ โรงแรม โรงกลั่น และร้านจักรยาน  นอกจากนี้ยังมีสนามฮอกกี้ สนามบาสเกตบอลอยู่ในตัวเมือง รวมไปถึงสวนสาธารณะแห่งใหม่อีก 3 แห่ง 

1. Seville, Spain  ที่นี่เป็นเมืองหลวงของแคว้นอันดาลูซีอา ซึ่งอยู่ทางภาคใต้ของประเทศสเปน เมืองนี้เป็นที่รู้จักกันดีทางด้านความสวยงามของสถาปัตยกรรมแบบ Moorish เป็นเมืองที่มีความน่าสนใจและน่าเดินเที่ยวมากๆ และในปี 2018 ที่นี่จะมีการเฉลิมฉลองครบ 400 ปี ของ Bartolomé Esteban Murillo จิตรกรคนสำคัญของสเปน รวมทั้งการเป็นเจ้าภาพงาน European Film Awards ครั้งที่ 31 อีกด้วย

เรื่องและภาพจาก INSIDER

 

| Freebird Travel & Tour |

Visitors: 467,924