ไปตุรกีซื้ออะไรดี ชอปอะไรในตุรกีดี ไปตุรกีซื้ออะไรมาฝากดี ไปตุรกีซื้ออะไรกลับมาดี ของที่ระลึกจากตุรกีมีอะไรบ้าง เหล่านี้เป็นคำถามยอดฮิตสำหรับคนชอบช้อป ตุรกีนอกจากจะมีสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงาม มีประวัติศาสตร์ และอารยธรรมที่น่าสนใจ ตุรกีก็ยังมีของมากมายให้เราได้ช้อป ได้เสียเงิน และขนกลับมาแบบกระเป๋าตุงกันเลยทีเดียว

มาดูกันเลยดีกว่าว่ามีอะไรน่าขโมยเงินในกระเป๋าเราบ้าง

1. Blue Evil Eye (อีวิลอาย) | ของฝากจากตุรกี

เป็นเครื่องรางของชาวตุรกี คนท้องถิ่นเรียก Nazar Boncuk (นาซา บองชุก) หรือ Benevolent eye หรืออีกชื่อที่เราเรียกกันว่าดวงตาปีศาจ เป็นของที่ระลึกที่ใครมาตุรกีต้องหิ้วกลับไปแน่นอน

ชาวตุรกีจะแขวนดวงตาสีฟ้านี้ไว้ที่ประตูทางเข้าบ้าน เพื่อขับไล่ดวงตาแห่งความอิจฉาริษยา แรกเริ่มดวงตานี้ทำด้วยดินเผาแล้วนำมาย้อมสี ต่อมาได้นำแก้วมาทำเป็นดวงตา ปัจจุบันก็พัฒนามาเป็นเครื่องประดับ พวงกุญแจ ฯลฯ

เราสามารถหาซื้อ Blue Evil Eye ได้ทั่วไปในตุรกี แต่แนะนำเพื่อนๆที่จะไปเที่ยวนะคะ Evil Eye สามารถพบได้ตามสถานที่ท่องเที่ยวทุกแห่งเจอที่ไหนถูกใจให้ซื้อเลย ขอบอกว่าราคาตามสถานที่ท่องเที่ยวหลายๆแห่งถูกกว่าในตลาด Spice market และ Grand Bazaar อีก อิฉันคอนเฟิม และสามารถต่อรองราคาได้มากกว่าด้วยค่ะ ในตลาดดังทั้งสองของที่ขายต่อราคาได้แต่ไม่ค่อยลด หรือหากลดก็น้อย ต่างจากร้านแผงลอยตามแหล่งท่องเที่ยวดูจะงอนง้อลูกค้าและอยากขายมากกว่า แต่ถ้าเป็นร้านตามจุดแวะพักรถอันนี้จะต่อราคาไม่ได้

2. Turkish Delight (เตอร์กิช ดีไลท์) | ของฝากจากตุรกี

คนท้องถิ่นเรียกว่า Lokum(โลคุม) หรือมีชื่อเป็นภาษาอาหรับว่า Rahat Al-halkum มีความหมายว่า 'คล่องคอ'

Turkish Delight เป็นขนมหวานโบราณดั้งเดิมอันเลื่องชื่อของตุรกี ทำจากแป้งและน้ำตาล อาจมีอัลมอนด์ ถั่วพิสทาชิโอ วอลนัท แมคคาเดเมียผสมเข้าไปด้วย มีรสชาติหวาน ซึ่งแต่ละร้านก็มีสูตร และรสชาติที่ต่างกัน ก่อนซื้อลองชิมเพื่อเลือกรสชาติที่ชอบก่อนนะคะ เรียกว่าอาจชิมกันจนอิ่มกันไปข้าง

ว่ากันว่า ขนม Turkish Delight (เตอร์กิช ดีไลท์) เกิดขึ้นมาจากความเสน่หาของสุลต่านแห่งอาณาจักรออตโตมันที่ต้องการเอาใจภรรยาทั้งหลายของเขา ท่านจึงสั่งให้นักทำขนมผสมน้ำเชื่อมเข้ากับถั่ว และผลไม้แห้ง จากนั้นคนให้เข้ากับ mastic หรือยางไม้ของอาหรับ เมื่อได้ทดลองอยู่หลายครั้งต่อมา นายฮาซิ เบอเกียร์ (Haci Bekir) เฮดเชฟของหวานประจำราชสำนักก็ได้สร้างสรรค์ขนมหวานนี้ขึ้่นมาจนสำเร็จ และกลายเป็นของหวานประจำราชสำนักนับแต่นั้น ต่อมานายฮาซิได้ไปเปิดร้านขายขนมของตัวเองกลางกรุงอิสตันบูล ในปี ค.ศ.1777

ขนม Turkish Delight (เตอร์กิช ดีไลท์) มักทานคู่กับชา หรือกาแฟ เพราะรสขมของชาหรือกาแฟจะช่วยแบ่งเบาความหวานของขนมได้มาก กลมกลืน และลงตัว

เราสามารถหาซื้อขนมTurkish Delight นี้ได้ทั่วไปในตุรกี แต่ถ้าจะหาเลือกแบบหลายๆร้านก็เข้าไปที่นี่เลยค่ะ ตลาดเครื่องเทศ หรือ Spice Bazaar ตลาดในร่มที่ใหญ่เป็นอันดับสอง กลางกรุงอิสตัลบูล ถ้าไปกับทัวร์ๆพาไปช้อปแน่ๆ

ขนมTurkish Delight (เตอร์กิช ดีไลท์) จะวางจำหน่ายหลายรูปแบบ มีทั้งแบบชั่งกิโล หรือแบบอยู่ในแพคเกจสวยงาม บางคนแนะนำว่าซื้อแบบชั่งกิโลก็ได้เห็นและได้ชิม แต่ถ้าซื้อแบบที่ใส่กล่องก็เหมาะที่จะเป็นของฝากเพราะได้ความสวยงาม

แต่ถ้าใครอยากจะกินต้นตำหรับของนายฮาซิ เบอเกียร์ ก็แวะไปซื้อกันได้ที่ร้าน Ali Muhiddin | Haci Bekir ร้านเก่าแก่ที่สืบทอดกันมากว่า 200 ปี ที่ยังเปิดขายอยู่จนถึงปัจจุบันโดยทายาท ร้านตั้งอยู่บนถนน Hamidiye Caddesi ซึ่งมีขายแบบออนไลน์ด้วยนะเข้าไปดูกันได้ที่นี่ www.hacibekir.com แต่ว่ากันว่าเนื่องจากเป็นต้นตำรับราคาก็จะสูงกว่าเราซื้อในตลาดนะคะ

3. Turkish Carpet (พรมตุรกี) | ของฝากจากตุรกี

พรมของตุรกีมีชื่อเสียงมากๆ มีลวดลายและเอกลักษณ์เฉพาะตัว ค่อนข้างมีน้ำหนักกว่าของชาติอื่นในขนาดเท่ากัน ว่ากันว่าชาวตุรกีผูกพันกับพรมมากๆ แต่ละบ้านต้องมีอย่างน้อย 1 ผืน บางบ้านอาจไม่ได้นำมาปูพื้น แต่อาจนำมาติดผนังตกแต่งเพื่อความสวยงาม

พรมตุรกีมีสองแบบตามลักษณะความยาวของเส้นใยที่ใช้ทอ คือ ฮาลี(Hali) และคิลิม(Kilim) ฮาลีเป็นพรมที่เห็นทั่วไป วัสดุที่ใช้ทอมีทั้งขนสัตว์ฝ้าย ไหม ไหมถือเป็นเส้นใยที่มีความเหนียวที่สุดในโลก เมื่อผูกปมแล้วจะตัดเส้นใยออก ด้านหนึ่งจึงปุยขึ้นเป็นลายตามที่ช่างต้องการ ส่วนคิลิมใช้วัสดุเหมือนกัน แต่ทอโดยไม่ตัดด้ายพรม จึงมีลายเหมือนกันสองด้าน ราคาของคิลิมมักมีราคาถูกกว่า พรมที่มีชื่อเสียงจะมาจากเมืองเฮเรเค (HEREKE)

4. Turkish Ceramics (เซรามิค) | ของฝากจากตุรกี

เป็นอีกหนึ่งสินค้าขึ้นชื่อของตุรกี งานของเขาจะวาดมือ สีสันและลวดลายสวยงาม แต่ก็ให้ดูดีๆนะคะระวังเป็นของที่มากจากจีน

5. Turkish Coffee (กาแฟตุรกี) | ของฝากจากตุรกี

ที่ประเทศตุรกีปลูกกาแฟไม่ได้ นั่นหมายความว่า ที่เราเรียกว่า 'กาแฟตุรกี' ไม่ใช่เป็นสายพันธุ์ตุรกีนะคะ แต่เป็นวิธีชงกาแฟแบบตุรกีที่มีรากฐานทางวัฒนธรรมมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 16 วัฒนธรรมการดื่มกาแฟของตุรกียังได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกทางวัฒนธรรมของโลกอีกด้วย

แต่ๆๆๆๆถ้าจะซื้อกาแฟเจ้าดังของตุรกี(ที่อยู่ตรงตลาด Spice Market) อันนี้เป็นข้อเสนอแนะส่วนตัวเลยนะคะเพราะตัวเองก็ซื้อมาเหมือนกัน คือเราว่ากาแฟของเขามันไม่เข้มข้น ใครที่ชอบกาแฟเข้มๆอาจไม่โปรด แต่ๆๆๆๆถ้าอยากลองก็ซื้อมาเถิดเราคงไม่ได้ไปตุรกีบ่อยๆ กาแฟของเขาก็ถูกไม่แพงเลยจริงๆนะ แต่ๆๆๆๆๆ 555 วิธีการชงกาแฟของเขาไม่เหมือนของเรานะคะ ของเขาจะนำไปต้มแล้วให้กากกาแฟนอนก้นแล้วดื่มเลย อารมณ์ก็เหมือนดื่มกาแฟผสมกากกาแฟแปลกดีค่ะ ตอนเราซื้อมาเลยมากรองกากออกก่อนทำให้ไม่แน่ใจว่ามันเป็นเหตุผลที่ทำให้กาแฟไม่เข้มข้นหรือเปล่า ยี่ห้อ Kurukahveci (Kahvesi) เป็นที่นิยมมากๆ

6. Coffee Pot (หม้อต้มกาแฟ) | ของฝากจากตุรกี

การชงกาแฟแบบดั้งเดิมของตุรกีจะใช้หม้อต้ม (Pot) แบบตุรกีที่มีด้ามยาวสำหรับจับซึ่งเรียกว่า Cezve หรือ Ibrik (เชซเว หรือ ไอบริก) สามารถหาซื้อทั้งกาแฟและหม้อชงได้ที่ตลาดเครื่องเทศ สำหรับวิธีการชงกาแฟตุรกีคลิกอ่านที่นี่ค่ะ หม้อต้มที่ว่านี้จะมีหลายขนาด หลายลวดลาย หลายราคา แต่รวมๆ แล้ว ราคาไม่แพงเลย ราคาก็ขึ้นอยู่กับขนาด ลวดลาย และคุณภาพของวัสดุที่ใช้ สำหรับท่านใดที่ไม่ดื่มกาแฟ ฟรีเบิร์ดทัวร์ ก็แนะนำว่าอยากให้ซื้อกลับมาเป็นที่ระลึก อาจใช้ในการตกแต่งบ้าน นำไปใส่พลูด่างตั้งบนโต๊ะทำงานก็เก๋ไก๋ใช่เล่น หรือจะเอาไปวางเกะกะตรงห้องครัวก็เท่ไม่เบา นำไปเป็นอุปกรณ์สำหรับใส่ปากกาดินสอ ตั้งบนโต๊ะทำงานก็ดูจะมีเสน่ห์ไม่น้อย หม้อต้มกาแฟของตุรกี เป็นอีกหนึ่งของฝากจากตุรกี ที่ ฟรีเบิร์ด ทราเวิล แอนด์ ทัวร์ ขอบอกว่าห้ามพลาดเด็ดขาดที่จะสอยกลับมา

7. Turkish Tea and Glasses (ชา และแก้วชาตุรกี) | ของฝากจากตุรกี

ตุรกีเป็นประเทศที่มีการผลิตชาที่ใหญ่เป็นอันดับ 5 ของโลก และเชื่อไหมคะว่ามีปริมาณการบริโภคชาสูงเป็นอันดับ 4 ของโลก ดังนั้นจึงไม่แปลกใจเลยที่เราจะเห็นชาตุรกีใส่แก้วใส่ทรงเว้าๆถูกขายอยู่ทั่วไปในตุรกี แม้เดินซื้อของอยู่ในตลาดเราก็จะเห็นคนเดินส่งชาด้วยแก้วแบบนี้อยู่ตลอด ชารสดีมีกลิ่นหอม และที่แอดชอบมากเป็นพิเศษก็คือชาทับทิมหอมและอร่อยถูกปากแอดมากๆๆๆๆๆ ไปถึงตุรกีแล้วอย่าลืมลองซื้อกลับมานะคะ แล้วก็ซื้อแก้วใสแบบนี้กลับมาด้วย ห่อกันดีๆนะคะอย่าให้แตกเชียว ถ้าทางร้านหอมาแบบเบาบาง แนะนำให้ท่านใช้เสื้อผ้าที่ใส่แล้วของเรานี่แหละห่อพันหลายๆ รอบ รับรองว่ารอดแน่นอน

8. Turkish Glass Lamps (โคมไฟตุรกี) | ของฝากจากตุรกี

โคมไฟสีสันแบบนี้เห็นได้ในตุรกี ส่วนเรื่องราคาคงต้องต่อรองกันก่อนนะคะ ซื้อกลับมาตกแต่งบ้าน รับรองบ้านของท่านจะสวยแปลกตา

9. Leather (เครื่องหนัง) | ของฝากจากตุรกี

ผลิตภัณฑ์จากเครื่องหนังก็เป็นอีกหนึ่งของฝากที่เห็นได้ในตลาดแกรนด์บาซาร์ (Grand Bazaar) และตลาดสไปซ์มาร์เก็ต (Spice Market) รวมไปถึงหากไปทัวร์ตุรกีบางทริปอาจพาไปแวะเยี่ยมชมร้านจำหน่ายเครื่องชื่อดังอีกด้วย ส่วนเรื่องราคาก็ไม่ธรรมดาเลยทีเดียว ผลิตภัณฑ์จากเครื่องหนังมีทั้งที่เป็นเสื้อ รองเท้า และกระเป๋านะคะ

10. Handmade Natural Soap (สบู่) | ของฝากจากตุรกี

สบู่ตุรกีเป็นอีกหนึ่งของฝากที่อยากจะแนะนำ อาจเป็นของที่ดูนอกสายตาของผู้ที่เดินทางไปเที่ยวตุรกี แต่เป็นอีกหนึ่งของน่าซื้อจากตุรกีที่ ฟรีเบิร์ดทัวร์ แนะนำ สบู่นี้มีกลิ่นหอมแบบธรรมชาติ หอมแบบกลิ่นเก๋ๆ ชวนสงสัย 555 อธิบายไม่ถูกแต่แอดชอบนะคะ ในตลาดแกรนด์บาซาร์(Grand Bazaar) และตลาดสไปซ์มาร์เก็ต(Spice Market) จะมีสบู่ที่ใส่กล่องสีสวยเป็นก้อนกลมๆ ขาย ถ้าไม่สังเกตอาจมองไม่เห็น เพราะบางร้านวางใส่ตะกร้าไว้ที่พื้น ดูเหมือนของไม่มีราคา แต่ด้วยสีสันของแพคเกจมาสวดสด จึงทำให้แอดพุ่งตรงไปหยิบขึ้นมาเปิดแล้วดอมดม โอ้ย! มันถูกอกถูกใจจริงๆ นะ ที่สำคัญราคาไม่แพงสามารถสอยมาเยอะๆ มาฝากคนทางบ้านรับรองคนรับเห็นแค่กล่องก็ชอบแล้ว สบู่เมื่อนำไปใช้ กล่องก็สามารถเก็บไว้ใส่เครื่องประดับ ใส่ของเล็กๆ น้อยๆ ได้อีก ต้องซื้อกลับมาจริงๆ นะ

11. อินทผาลัม แอพริคอต ผลไม้แห้ง ถั่วชนิดต่างๆ | ของฝากจากตุรกี

สำหรับคนที่ชอบทานถั่ว ตุรกีเป็นสวรรค์ของคนรักถั่วเลยทีเดียว อัลมอนด์ พิสตาชิโอ เกาลัด สารพัดถั่วที่ยกมาให้เราซื้อราคาแพงหรือไม่แอดก็ว่าแล้วแต่ร้านคือมันบอกยากว่าแพงหรือไม่เพราะมันมีขนาดเม็ดเล็กเม็ดใหญ่ เทียบกันยาก เอาเป็นว่าพอใจที่ราคาไหนก็สอยค่ะ ส่วนอิทผาลัมก็เช่นกันมีทั้งขนาดเล็กขนาดใหญ่ อ้อ!เวลาซื้ออินทผาลัมที่เขาจัดใส่กล่องสวยๆให้ทำใจเลยนะคะว่ากล่องมันหนักแล้วเวลาเขาชั่งน้ำหนักบางร้านจะชั่งน้ำหนักกล่องรวมไปกับน้ำหนักอินทผาลัมไปด้วย เช่น เราบอกเอากล่องละครึ่งโลเขาก็จะหยิบอินทผาลัมใส่กล่องแล้วชั่ง น้ำหนักของอินทผาลัมไม่ถึงครึ่งโลนะคะ ถ้าไม่ยอมก็เถียงเขากันเอาเองนะ แต่คนขายก็ยืนยันว่าหักน้ำหนักกล่องออกแล้ว แต่แอดพิสูจน์มาแล้ว ดังนั้นถ้าซื้อมาทานเองไม่ได้ซื้อฝากใครก็ไม่ต้องใส่กล่องก็ได้นะคะ

12. Turkish Spices (เครื่องเทศ) | ของฝากจากตุรกี

สารพัดเครื่องเทศก็เป็นสินค้าชื่อดังของตุรกีที่น่าซื้อกลับมา เครื่องเทศตุรกีก็สามารถหาซื้อได้ในตลาดสไปซ์มาร์เก็ต (Spice Market) เลยค่ะ

13. Pomegranate (ทับทิม) | ของฝากจากตุรกี

ชาวตุรกีนิยมปลูกทับทิมกันมานานแสนนาน และมีสายพันธ์ุหลากหลายกระจายอยู่ในหลายพื้นที่ปลูกทั่วประเทศ ตุรกียังเป็นประเทศที่ปลูกทับทิมมากเป็นอันดับต้นๆของโลกอีกด้วย ดังนั้นไปถึงแล้วอย่าลืมลองชิมกันค่ะ น้ำทับทิมของที่นั่นก็อร่อยเข้มข้น ชื่นใจไม่แพ้กัน ทับทิมอาจจะซื้อเป็นของฝากไม่ได้ แต่เป็นสิ่งที่อยากให้ชิม

นอกจากของฝากที่กล่าวมาในข้างต้นแล้ว ที่ตุรกีก็มีของให้นักช้อปอย่างเราได้เลือกซื้อกันได้อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น magnet ที่ติดตู้เย็นตามเมืองต่างๆ เครื่องปั้น พวงกุญแจ หมวก ฯลฯ เอาเป็นว่ากุมเงินในกระเป๋าไว้ให้มั่น แล้วสะกดใจไว้ให้ลึก เพราะความสนุกจะมันจะเตลิด 555

กระเป๋าแบบนี้ก็เป็นที่นิยม มีวางขายอยู่ทั่วทุกที่เลยค่ะ

สำหรับสถานที่ที่นักท่องเที่ยวนิยมไปซื้อของฝากนั้น ก็คือ

ตลาดแกรนด์บาซาร์ (Grand Bazaar) เป็นตลาดที่มีขนาดใหญ่ เก่าแก่มีอายุมากกว่า 1,500 ปี สร้างตั้งแต่ พ.ศ. 1996 เป็นตลาดที่มีชื่อเสียงมากอีกแห่งหนึ่งของโลก มีพื้นที่ราว 200 ไร่ มีประตูทางเข้า 11 ประตู ประตูหลัก 4 ประตู ทางเข้าหลักของตลาดอยู่ใกล้กับมัสยิดนูรูออสเมนนิเย (Nuruosmaniye) มีร้านค้ากว่า 4,000 ร้าน ที่นี่จะเปิดวันจันทร์-เสาร์ เวลา 09.00-19.00 น. ปิดวันอาทิตย์ อยู่ใกล้กับจัตุรัสสุลต่านอาร์เมต

ตลาดแห่งนี้มีสินค้าให้เลือกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย เสื้อหนังแกะ เสื้อแบบตุรกี กระเป๋า รองเท้า เครื่องประดับ เครื่องราง ผ้าคลุมไหล่ พรม เซรามิค ของที่ระลึก ซื้อของในตลาดแกรนด์บาซาร์ (Grand Bazaar) อย่าลืมต่อรองราคากันเยอะๆ อย่างน้อยสัก 50 % กันเลยทีเดียวเพราะที่นี่เขาจะตั้งราคาไว้ค่อนข้างสูง

ตลาดสไปซ์มาร์เก็ต (Spice Market) ตลาดที่ใหญ่เป็นอันดับสองรองจากตลาดแกรนด์บาซาร์ ที่นี่ก่อตั้งมานานตั้งแต่ พ.ศ. 2203 สินค้าที่มีจำหน่ายในตลาดแห่งนี้ก็ตรงตามชื่อเลยค่ะ คือกลุ่มเครื่องเทศที่แทบทุกร้านจะมีกระบะไม้วางเรียงกันเป็นแถวแล้วบรรจุผงเครื่องเทศไว้จนเต็ม เครื่องเทศแต่ละชนิดก็มีสีสันแตกต่างกันไป ส่วนใหญ่จึงมักเป็นคนพื้นที่ที่จะมาซื้อเพื่อนำไปปรุงอาหาร และยังมีสินค้ากลุ่มธัญพืชทั้งหลายโดยเฉพาะตระกูลถั่วของตุรกีจะเป็นที่ขึ้นชื่อมาก ในตลาดเครื่องเทศยังมีผลไม้ทั้งสดและแห้ง น้ำผึ้งแท้ น้ำมันหอมระเหย สมุนไพร ชาท้องถิ่นชั้นดี และที่น่าลองชิมสำหรับนักท่องเที่ยวก็คือขนมพื้นเมืองของตุรกีแท้ๆตรงตามต้นตำรับก็หาได้ไม่ยากในตลาดแห่งนี้ และยังมีราคาถูกอีกด้วย

โอ้ย!! อ่านมาทั้งหมด อยากจะไปช้อปกันให้รู้แล้วรู้รอดกันเสียวันนี้พรุ่งนี้กันเลย ...เรื่องช้อปอาจไม่ใช่วัตถุประสงค์หลักของการไปเที่ยวตุรกี แต่ถ้าไม่ได้ช้อปจะเป็นปัญหาหลักแน่ๆ

ข้อแนะนำ ของฝากตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆหลายๆ แห่งราคาถูกกว่าในตลาดแกรนด์บาซาร์ และตลาดสไปซ์มาร์เก็ต ขึ้นอยู่กับการต่อรองด้วยนะ บางร้านตามสถานที่ท่องเที่ยวบอกราคามาแม่จะเป็นลม แต่พอต่อคำเดียวแม่จะเป็นลมรอบสองทำไมราคามันลดไปเยอะขนาดนั้น ถ้าท่านเจอถูกใจก็อย่าลังเล ซื้ออย่างละนิด อย่างละหน่อยเก็บไว้ และสามารถต่อรองราคาได้มากกว่าอีกด้วย จริงๆๆๆๆๆๆนะคะ โดยเฉพาะ Evil Eye ประสบการณ์ตรงเลยจ้า ...เขาถึงบอกว่ารู้อะไรไม่สู้รู้งี้ 5555 ...มีอีกหนึ่งคำถามที่มักเจอบ่อยๆ 'ของในตุรกีแพงไหม' บอกเลยค่ะ ทั้งของฝาก ของที่ระลึก ของกินราคาไม่แพงเลยสามารถซื้อได้สบายกระเป๋าค่ะ ไปเที่ยวตุรเคีย เราต้องเตรียมตัวให้พร้อม จะทำให้เที่ยวสนุก และได้สิ่งดีๆ กลับมา ฟรีเบิร์ดทัวร์ ชวนไขข้อข้องใจกับ 12 คำถามยอดฮิตก่อนเที่ยวตุรกี

ตุรกีมีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจมากมาย เช่น อิสตันบูล ฮิปโปโดรม สุเหร่าสีน้ำเงิน สุเหร่าเซนต์โซเฟีย อุโมงค์เก็บน้ำเยเรบาตัน พระราชวังทอปกาปึ เมืองอีเซียบัท เมืองชานัคคาเล่ ทรอย ม้าไม้เมืองทรอย เมืองเปอร์กามัม อัซเคลปิออน เมืองคูซาดาซึ บ้านพระแม่มารี เมืองโบราณเอฟิซุส ปามุคคาเล่ เมืองคอนย่า คาราวานสไลน์ เมืองคัปปาโดเกีย นครใต้ดินไคมัคลึ พิพิธภัณฑ์กลางแจ้งเกอเรเม่ เมืองอังคาร่า พระราชวังโดลมาบาเช่ คลิกอ่าน 17 สถานที่ต้องห้ามพลาดเมื่อไปตุรกี

ไปตุรกีซื้ออะไรดีก็ลองเลือกดูนะคะ แต่ไปเที่ยวตุรกีกับบริษัทไหนดี แหมๆๆๆก็ต้องขอนำเสนอ ไปตุรกีกับฟรีเบิร์ดแน่นอนค่ะ ทัวร์ตุรกีราคาถูกเราก็มีให้เลือกสรร ลองดูโปรแกรมของเราก่อนนะคะ และถ้ากังวลใจเรื่องอาหารตุรกีว่ากินยากไหม ไม่ต้องกังวลใจไปค่ะ เพราะหัวหน้าทัวร์ของเราจะหอบหิ้วสิ่งที่จะทำให้ลูกทัวร์ตุรกีทุกท่านหายกังวลค่ะ แต่ถ้าอยากรู้ว่าอาหารตุรกีหน้าตาเป็นอย่างไร คลิกอ่าน 8 เมนูห้ามพลาดเมื่อไปตุรกี