ฤดูกาลล่องเรืออลาสก้า ดินแดนแห่งฝันแถบขั้วโลกเหนือ

ฤดูกาลล่องเรืออลาสก้า ดินแดนแห่งฝันแถบขั้วโลกเหนือ |ทัวร์ล่องเรืออลาสก้า กับฟรีเบิร์ดทัวร์

ทัวร์ล่องเรืออลาสก้า

ฉันจะไปเที่ยวอลาสก้า ....ฉันจะไปทัวร์ล่องเรืออลาสก้า ว่าแต่ว่าอลาสก้า(Alaska) นี่มันอยู่ตรงไหนของโลกใบนี้

อลาสก้าอยู่ที่ไหน

อลาสก้า(Alaska) อยู่ที่ไหน?

ถ้าเอ่ยถึงอลาสก้า(Alaska) รับรองว่านักเที่ยวหลายๆคนต้องคุ้นหูกันอย่างแน่นอน ท่านอาจจินตนาการถึงภูเขาน้ำแข็งๆสูงๆ มหาสมุทรอันหนาวเหน็บ วิวน้ำแข็งตกกระทบน้ำ หรือความเขียวขจีของป่าเขาของภูมิประเทศริมฝั่ง แต่หากท่านยังไม่เคยมาเยือนถิ่นนี้แล้วละก็จะเชื่อไหมครับว่าอลาสก้าเป็นมากกว่าที่ท่านจินตนาการถึงเลยครับ


อลาสก้า(Alaska) เป็นรัฐหนึ่งในอเมริกาดินแดนแห่งนี้อยู่ทางตอนเหนือของอเมริกาซึ่งติดกับประเทศแคนาดา ในอดีตอลาสก้าเคยเป็นของรัสเซียมาก่อน ว่ากันว่ารัสเซียได้จัดการขายอลาสก้าให้กับอเมริกาในราคา 7,200,000 ดอลลาร์ ในตอนนั้นทางรัสเซียคงเห็นว่าอลาสก้าแห่งนี้จะทำประโยชน์อะไรให้กับประเทศชาติได้ มาถึงตอนนี้รัสเซียคงเสียดายที่นี่มากๆ เพราะตอนหลังอลาสก้าเป็นพื้นที่ที่ถูกค้นพบทั้ง
ทองคำ แร่ธาตุต่างๆ ป่าไม้ สัตว์ป่า จะซื้อคืนก็คงไม่ทันแล้ว อลาสก้าอยู่ใกล้กับขั้วโลกเหนือจึงทำให้อากาศเย็นตลอดทั้งปี ใครไม่ชอบอากาศร้อนเรียนเชิญที่นี่นะครับ

 

อลาสก้ามีอะไรน่าเที่ยว

อลาสก้า(Alaska) มีอะไรให้เที่ยว

สถานที่ท่องเที่ยวในอลาสก้ามีทั้ง ธารน้ำแข็ง ภูเขา สัตว์ป่า ต้นไม้  ทะเล ฟยอร์ด(fjord) ท่ามกลางความงดงามของธรรมชาติเหล่านี้ก็ยังพ่วงมากับอากาศที่บริสุทธิ์มากๆ เรียกว่าถ้ามีโอกาสได้ไปสักครั้งจะต้องติดใจ

การเที่ยวอลาสก้านั้นสามารถเดินทางได้ด้วยหลายๆวิธี ทางเครื่องบิน ทางรถยนต์ ทางเรือ จริงๆเราขอแบ่งการท่องเที่ยวอลาสก้าออกเป็น 2 แบบ คือท่องเที่ยวในส่วนที่เป็น Mainland การเที่ยวแบบนี้จะต้องขับรถเที่ยว กับการท่องเที่ยวแบบ Inside passage เป็นการท่องเที่ยวทางเรือที่มีให้เลือกทั้งแบบที่เป็นเรือเฟอร์รี่ หรือเรือสำราญซึ่งเป็นที่นิยมมากๆ เราจึงมักเห็นโปรแกรมทัวร์ล่องเรืออลาสก้า หรือทัวร์ล่องเรือสำราญอลาสก้าซึ่งเป็นโปรแกรมในฝันของใครหลายๆคน เพราะการท่องเที่ยวทางเรือจะเข้าถึงจุดท่องเที่ยวสำคัญยอดนิยมอย่าง Inside Passage ได้เป็นอย่างดี

Inside Passage

เป็นเส้นทางท่องเที่ยวยอดนิยมของการล่องเรือสำราญเพราะเป็นเส้นทางล่องเรือสำราญที่พาดผ่านหลายประเทศตลอดเส้นทางมีเกาะต่างๆ ที่มีทัศนียภาพสวยงาม ทั้งเทือกเขา ธารน้ำแข็ง สัตว์ป่าหายากที่เห็นแล้วต้องยิ้มกับความน่ารักเหล่านั้น รวมไปถึงเมืองท่าต่างๆที่จะแวะให้ได้ท่องเที่ยวกับตลอดเส้นทาง

สถานที่ท่องเที่ยวตามเมืองท่าของการล่องเรืออลาสก้า(Alaska)

 

เมืองจูโน (Juneau) จูโน เป็นเมืองหลวงของรัฐอลาสก้า และเป็นอีกหนึ่งเมืองที่สวยงามที่ถูกรายล้อมด้วยภูเขาและทะเล และเป็นเมืองที่ไม่สามารถเข้าถึงได้ด้วยรถยนต์ แต่จะต้องเดินทางไปด้วยเครื่องบิน หรือเรือเท่านั้น เมืองจูโนมีสถานที่ท่องเที่ยว และกิจกรรมที่น่าสนใจหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการไปชื่นชม Mendenhall Glacier ธารน้ำแข็งขนาดใหญ่เป็นอันดับต้นๆ ของอเมริกา ที่นี่มีชื่อเสียงมากๆ การมาชื่นชมธารน้ำแข็งสามารถเข้าชมได้ทั้งทางรถยนต์ หรือขึ้นเฮลิคอปเตอร์ไปชมกันแบบใกล้ชิด, การได้แวะเที่ยวอ่าว Auke คุณอาจจะได้เห็นปลาวาฬหลากสายพันธุ์มาโฉบเฉี่ยวให้คุณเพลิดเพลิน และอาจได้เห็นความน่ารักของแมวน้ำ สิงโตทะเล นกอินทรีหัวขาว ,ยอดเขาโรเบิร์ต (Mt Roberts Tramway) เป็นต้น 

เมืองจูโน (Juneau)

 

เมืองเคตชิคาน (Ketchikanนับเป็นเมืองที่มีผู้คนอาศัยอยู่อย่างหนาแน่นที่สุดของรัฐอลาสก้า และเป็นเมืองที่มีชื่อเสียงมากๆในเรื่องของปลาแซลมอล เพราะเคตชิคานเป็นถิ่นอาศัยของปลาแซลมอลนั่นเอง ที่นี่เต็มไปด้วยปลาแซลมอลถึงกับขนาดได้รับฉายาว่าเป็น 'แหล่งแซลมอนของโลก' เลยทีเดียว  ใครชอบกินแซลมอลก็ต้องเมืองนี้เลยครับ ในฤดูวางไข่ของปลาแซลมอล(ประมาณเดือนสิงหาคม)ปลาจะว่ายทวนน้ำขึ้นมาวางไข่เราจะได้เห็นหมีมาคอยจับปลาพวกนี้กินเป็นอาหารด้วยหล่ะ  และที่นี่ก็ยังมีชื่อเสียงในเรื่องของเสาแกะสลักโทเทม (Totem Poles) ตั้งอยู่ที่ Totem Heritage Center มันคืองานแกะสลักบนเสาไม้ต้นใหญ่นั่นเอง ลวดลายที่แกะสลักก็จะเป็นลวดลายต่างๆ เป็นฝีมือของชาวพื้นเมืองในสมัยก่อน เสานี้ส่วนใหญ่จะแกะสลักจากต้นซีดาร์ (Cedar tree) โดยจะนิยมแกะเป็นลวดลายใบหน้าของคน หรือสัตว์ต่างๆ เช่น นกดุเหว่า เหยี่ยว นกอินทรี แล้วใส่สีสันเข้าไป และสำหรับขาช้อปที่อยากจะหาซื้อของฝากกลับไปฝากคนที่บ้าน แนะนำเลยครับที่นี่ของที่ฝากราคาถูกและดี 

เมืองเคตชิคาน (Ketchikan)

 

เมืองสแกกเวย์ (Skagway) เมืองเก่าเล็กๆที่ซ่อนตัวอยู่ในรัฐอลาสก้า ในอดีตที่นี่เป็นแหล่งของเหล่านักขุดทองที่ต่างเดินทางมาแสวงหาโชคกันอยู่ไม่ขาดสาย แต่เมื่อหมดยุคทองเมืองที่คึกคักด้วยผู้คนก็เริ่มเงียบเหงา หากแต่ก็กลับมาคึกคักอีกครั้งเมื่อปริมาณนักท่องเที่ยวที่เพิ่มมากขึ้น แม้ว่าเมืองนี้จะเป็นเมืองเล็กๆแต่ก็อย่างที่บอกว่าเล็กแต่น่ารักบ้านเรือนต่างๆ เขายังอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี สีสันของบ้านแต่ละหลังที่ฉาบอยู่บนตัวบ้านสไตล์คาวบอยทำให้นักท่องเที่ยวอย่างเราๆต้องเพลิดเพลินแทบจะลืมเวลาเลยทีเดียว อ้อ!ที่เมืองสแกกเวย์เขามีกิจกรรมอย่างหนึ่งที่น่าลองมากๆรับรองสนุกสุดๆแน่นอน นั่นก็คือกิจกรรม Dog Sledding นั่นเอง เป็นฝูงน้องหมาน้อยที่จะลากเลื่อนเราไปบนพื้นหิมะน่าสนุกไหมหล่ะ 

และสำหรับคนที่มีเวลาเยอะๆอยากจะลองนั่งรถไฟสาย White Pass & Yukon Route ที่สร้างขึ้นระหว่างปี ค.ศ. 1898 - 1900 เชื่อมต่อระหว่างเมืองสแกกเวย์และเมืองไวท์ฮอร์ส ก็เป็นกิจกรรมบนฝั่งหลังจากเรือจอดเทียบท่าที่น่าสนใจมากๆเพราะเหมือนเป็นการพาเราย้อนยุคไปสมัยยุคขุดทองที่เป็นพาหนะพานักแสวงโชคทั้งหลายไปสู่จุดหมายปลายทาง ระหว่างทางจะผ่านเทือกเขา อุโมงค์ และธรรมชาติอันงดงาม รับรองไม่เบื่อแน่นอน ส่วนใหญ่กิจกรรมนั่งรถไฟนี้นักท่องเที่ยวจะต้องซื้อทัวร์เสริมนะครับมักไม่รวมอยู่ในราคาทัวร์ล่องเรือนี้แต่อย่างใด 

เมืองสแกกเวย์ (Skagway)

 

อุทยานแห่งชาติกลาเซียร์เบย์ (Glacier Bay National Park) การได้แวะเข้ามาที่อุทยานแห่งชาติกลาเซียร์เบย์นี้ถือเป็นไฮไลท์สำคัญของการท่องเที่ยวในเส้นทางอลาสก้าเลยทีเดียว เพราะที่นี่นับเป็นธารน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุดในอลาสก้า แต่ปัญหาโลกร้อนก็ทำให้ธารน้ำแข็งขนาดยักษ์เล็กลงทุกปี อุทยานแห่งนี้มีขนาดใหญ่กินพื้นที่กว่า 3 ล้านเอเคอร์   ภายในอุทยานแห่งชาติกลาเซียร์เบย์จะประกอบไปด้วยกลาเซียร์น้อยใหญ่หลายกลาเซียร์ และเราก็จะได้พบสัตว์นาชนิด เช่น นกกว่า 270 สายพันธุ์ เช่นนกพัฟฟิน นกเมอร์รีเล็ต รวมไปถึงสัตว์ทะเลมากมาย ทั้งวาฬ แมวน้ำ สิงโตทะเล และนากทะเล นอกจากจะเห็นสัตว์ต่างๆในทะเลก็ยังพบเห็นสัตว์น่ารักบนบกอีกมากมายไม่ว่าจะเป็น กวาง กวางมูส หมาป่า แพะภูเขา และหมาป่าโคโยตี  นอกจากนี้ภายในอุทยานยังมีต้นเฮมล็อก ต้นสน และถ้าไปในช่วงฤดูร้อนท่านก็จะได้พบกับดอกไม้ป่าสีสันสดใส สำหรับเรือที่จะล่องเข้าไปในอุทยานแห่งนี้จะต้องได้รับสัมปทานจึงจะสามารถเข้าไปได้

อุทยานแห่งชาติกลาเซียร์เบย์ (Glacier Bay National Park)

 

เที่ยวอลาสก้าฤดูไหนดี

เที่ยวอลาสก้าฤดูไหนดี

ต้องขอบอกไว้ก่อนนะครับว่าจริงๆแล้วอลาสก้านั้นมีความสวยงามแตกต่างกันในแต่ละเดือนนั่นหมายถึงว่าเราสามารถมาเที่ยวอลาสก้าได้ตลอดทั้งปี แต่ช่วงที่พีคของอลาสก้าและคนที่อยากจะท่องเที่ยวทางเรือนั้นเราขอแนะนำช่วงกลางเดือนพฤษภาคมถึงประมาณเดือนกันยายน ซึ่งเป็นช่วงฤดูร้อนของที่นั่น และช่วงฤดูร้อนนี้เองอุทยานแห่งชาติกลาเซียร์ เบย์ จะเปิดให้เข้าชมธารน้ำแข็งได้ครับ  

ทัวร์อลาสก้า

จะไปเที่ยวอลาสก้าได้อย่างไร?

อย่างที่บอกไว้ตอนต้นว่าการเที่ยวอลาสก้านั้นสามารถเที่ยวได้ทั้งทางบก และทางเรือ แต่หากมาทางเรือเราจะได้เห็นในสิ่งที่เส้นทางทางบกไม่มีโอกาสได้เห็นอย่างแน่นอน ดังนั้นการไปเที่ยวอลาสก้าอย่างได้อรรถรสเราจึงขอแนะนำให้ท่านเดินทางท่องเที่ยวทางเรือสำราญ ซึ่งมีกลากหลายเส้นทางเดินเรือที่แตกต่างกัน และมีหลายบริษัทเรือให้เลือก สำหรับชาวไทยนั้นจะต้องนั่งเครื่องบินไปลงเรือที่เมืองซีแอตเทิ้ล สหรัฐอเมริกา หรือที่เมืองแวนคูเวอร์ ประเทศแคนาดา  จะไปลงเรือที่เมืองไหนนั้นก็ขึ้นอยู่กับเส้นทางที่เราเลือก แต่ทั้งสองเมืองเราจะได้เที่ยวสถานที่สำคัญในเส้น Inside Passage เหมือนกันครับ

เมนูเด็ดชวนชิมที่อลาสก้า

เมนูเด็ดชวนชิมที่อลาสก้า

มาเที่ยวอลาสก้าทั้งทีอย่าลืมลองชิมของกินขึ้นชื่อของอลาสก้าด้วยนะถึงจะเรียกว่ามาถึงแล้วจริงๆ ของกินขึ้นชื่อของอลาสก้านอกจากพวกอาหารทะเลที่สดใหม่แล้ว ในบรรดาความสดเหล่านั้นมีสิ่งหนึ่งที่พลาดไม่ได้นั่นก็คือ “ปูยักษ์อลาสก้า” ซึ่งท่านจะได้ลิ้มรสเนื้อแน่นๆที่อัดเต็มอยู่ในขาปูแต่ละขา เพลิดเพลินกับการกินควบคู่ไปกับวิวอันแสนสวยงาม


เป็นอย่างไรกันบ้างครับ อ่านมาถึงตรงนี้อยากลองเปลี่ยนบรรยากาศไปเที่ยวโดยการล่องเรือสำราญกันบ้างหรือเปล่า ทัวร์ล่องเรือสำราญใช้เงินเยอะไหม?ลองเลือกโปรแกรมดูก่อนนะครับค่าใช้จ่ายทั้งหมดรับรองว่าคุ้มกับประสบการณ์ที่ได้กลับมา ทัวร์ล่องเรือสำราญต้องใช้เวลากี่วัน เรื่องจำนวนวันแอดมินอยากให้ดูที่ตัวโปรแกรมที่ออกมาแต่ละช่วงเป็นหลักนะครับ เที่ยวแบบล่องเรือสำราญจะน่าเบื่อไหม? รับรองเรื่องความเบื่อคุณไม่ทันรู้สึกเบื่อแน่นอน เพราะคุณจะเพลิดเพลินกับทุกๆกิจกรรม ทุกๆเวลา นาทีเลยทีเดียว 

ทัวร์ล่องเรืออลาสก้า หรือล่องเรือสำราญอลาสก้าเป็นอีกหนึ่งเส้นทางที่ได้รับความนิยมมากๆ และอยากจะชวนคุณมาสัมผัสประสบการณ์นี้สักครั้ง สำหรับการท่องเที่ยวโดยการล่องเรือสำราญนั้นก็ยังมีเส้นทางที่น่าสนใจอื่นๆอีกหลายๆเส้นทาง เช่น ทัวร์ล่องเรือสำราญยุโรป  ทัวร์ล่องเรือสำราญเมดิเตอร์เรเนียน  ทัวร์ล่องเรือสำราญแคริบเบียน  ทัวร์ล่องเรือสำราญออสเตรีย-นิวซีแลนด์  ทัวร์ล่องเรือสำราญเอเชีย   สนใจเส้นทางไหนก็เลือกได้เลยนะครับ แต่หากยังตัดสินใจไม่ถูกโทรมาปรึกษาครอบครัวฟรีเบิร์ด ทราเวิล แอนด์ ทัวร์ ได้นะครับ ไปทัวร์ล่องเรืออลาสก้ากับบริษัทไหนดี นึกถึงเรานะครับ

 


 

 หากบทความนี้ดีต่อใจ ชวนคนที่คุณรักมาเที่ยวกับฟรีเบิร์ดทัวร์กันค่ะ -    

สนใจโปรแกรมเดินทางทัวร์ล่องเรืออลาสก้า

 

คุยกับครอบครัวฟรีเบิร์ดทัวร์

โทร.02-0488-785-7 Hotline 085-151-1000 และ 094-782-6888 

    instagramfreebirdtour  twitter freebirdtour  Youtube freebirdtour     


Visitors: 467,909