เยอรมนี | 3 เมืองเด่น เน้นศิลปะ ลุฟเทิลมาลเลอไร(Luftlmalerei)
ลุฟเทิลมาลเลอไร(Luftlmalerei) คืออะไร?
ลุฟเทิลมาลเลอไร(Luftlmalerei หรือ Lüftelmalerei) เป็นศิลปะภาพวาด ที่แสดงถึงเรื่องราวในพระคัมภีร์ และตำนานพื้นบ้านต่างๆ ของท้องถิ่น รวมไปถึงเรื่องราวคลาสสิกที่แสดงลวดลายของวิถีชีวิตชาวนาในชนบทตั้งแต่ชีวิตประจำวันไปจนถึงการล่าสัตว์ ภายในภาพวาดนั้นมักปรากฎป้ายคำขวัญ และนาฬิกาแดด ซึ่งเป็นองค์ประกอบที่นิยมในการวาดเรื่องราว เทคนิคการวาดภาพลงบนผนังเหล่านี้ใช้เทคนิคการวาดที่เรียกว่า สีเฟรสโก(Fresco)
เทคนิคการวาดโดยใช้สีเฟรสโก(Fresco) คืออะไร
เทคนิคการวาดโดยใช้สีเฟรสโก(Fresco) คือ การลงสีในขณะที่ผนังปูนยังเปียกอยู่ นิยมทำกันมากในอิตาลี เเละทางตอนใต้ของเยอรมัน ที่มาของสีเฟรสโกนั้นเกิดขึ้นในประเทศอิตาลี โดยศิลปินชาวฟลอเรนซ์(Florentine) ชื่อจ๊อตโต(Giotto) และ มาซัสโช(Masaccio) งานสีเฟรสโก (fresco) ในสมัยโบราณจะทำการวาดลงบนผนังหรือเพดานของโบสถ์ ว่ากันว่าเทคนิคการผสมสีเฟรสโกในสมัยโบราณนั้นค่อนข้างยากเนื่องจากการผสมสีต้องใช้สีผสมกับนํ้าแล้วต้องทำการวาดในขณะที่พื้นผิวของผนังนั้นยังคงเปียก หรือยังหมาดๆอยู่ ซึ่งทำให้สีบนผนังนั้นสียังสด คงทน ทนฝน ทนแดด ถ้าท่านใดเคยไปเที่ยวเมืองมันดาวา(Mandawa) เมืองหนึ่งในชัยปุระของอินเดีย ที่นี่ก็เป็นแหล่งรวมอาคารที่มีภาพวาดสีเฟรสโกด้วยเช่นกัน
ลุฟเทิลมาลเลอไร(Luftlmalerei หรือ Lüftelmalerei) พบเห็นได้ที่ไหน
เราสามารถพบเห็น ลุฟเทิลมาลเลอไร(Luftlmalerei หรือ Lüftelmalerei) ได้ในบางพื้นที่ของประเทศออสเตรีย(Austria) และเมืองทางตอนใต้ของประเทศเยอรมนีโดยเฉพาะในแคว้นบาวาเรีย(Bavaria) ฟรีเบิร์ด ทราเวิล แอนด์ ทัวร์ ชวนคุณไปสัมผัส สีสันงานศิลปะผ่านเรื่องราวบนผนังตึกกับ 3 เมืองเด่น เน้นศิลปะ ลุฟเทิลมาลเลอไร(Luftlmalerei)
1. Oberammergau(โอเบอรามาเกา)
สถานที่แรกที่ฟรีเบิร์ดทัวร์ จะพาไปรู้จักกับจิตรกรรมบนผนังที่เรียกว่า ลุฟเทิลมาลเลอไร(Luftlmalerei) ก็คือ Oberammergau(โอเบอรามาเกา) เมืองขนาดเล็ก ในอำเภอการ์มิช-พาร์เทินเคียร์เชิน(Garmisch-Partenkirchen) ของรัฐบาวาเรีย(ฺBavaria) ประเทศเยอรมนี
Oberammergau มีพรมแดนติดกับประเทศออสเตรีย ตามภาษาท้องถิ่นแปลตรงตัวได้ว่าดินแดนตอนเหนือของแม่น้ำอัมเมอร์ (Ober แปลว่า ทางตอนบน , Ammer คือ ชื่อแม่น้ำอัมเมอร์ , และ Gau แปลว่า เขตแดน) ที่นี่มีชื่อเสียงในเรื่องของงานแกะสลักไม้ รวมถึงจิตรกรรมบนผนังที่เรียกว่า ลุฟเทิลมาลเลอไร(Luftlmalerei) ก็โดดเด่นไม่แพ้กัน
เราสามารถพบเห็นจิตรกรรมบนผนังที่เรียกว่า ลุฟเทิลมาลเลอไร(Luftlmalerei) ในหมู่บ้านOberammergau(โอเบอรามาเกา) ชื่อเดียวกันกับเมือง ลุฟเทิลมาลเลอไร(Luftlmalerei) เป็นศิลปะที่กระจายอยู่ตามผนังตึกตลอดสองข้างทาง ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร โรงแรม ร้านขายของที่ระลึก ร้านกาแฟ นักท่องเที่ยวสามารถใช้เวลา 1-2 ชั่วโมง เพื่อเดินเล่น แต่สำหรับคนที่ชอบถ่ายรูป ถ่ายคลิป อยากมีเวลาเพ่งพินิจงานจิตรกรรมบนกำแพง นั่งเล่นจิบกาแฟ ค่อยๆละเลียดซึมซับบรรยากาศ มีเวลาสัก 3 ชั่วโมงก็ดีไม่น้อย
แลนด์มาร์คของเมืองโอเบอรามาเกา(Oberammergau)
เมื่อมาถึงโอเบอรามาเกา(Oberammergau) ทั้งทีไม่ควรพลาดการเช็คอินสถานที่เหล่านี้
1.ถ่ายรูปกับโรงแรมชื่อดังนามว่า Hotel Alte Post เป็นโรงแรม และร้านอาหารดัง ของที่นี่ เปิดทำการมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1612 Hotel Alte Post น่าจะเป็นโรงแรมที่เก่าแก่ที่สุดของเมือง ด้วยความเก่าแก่นี้เองจึงน่าจะเป็นตัวแทนในการบอกเล่าเรื่องราวประวัติศาสตร์ของโอเบอรามาเกา(Oberammergau) ได้เป็นอย่างดี
Hotel Alte Post มีตระกูล Preisinger เป็นเจ้าของ ปัจจุบันดำเนินการโดยรุ่นที่ห้า ถ้าใครมาเที่ยวโอเบอรามาเกา(Oberammergau) แล้วอยากจะพักโรงแรมที่มีความเก่าแก่ของเมือง ฟรีเบิร์ดทัวร์ ก็ขอแนะนำโรงแรมนี้เลยค่ะ
Hotel Alte Post นอกจากจะมีศิลปะสวยๆให้ได้ชื่นชม อาหารของ Alte Post ก็ยังมีรสชาติถูกปากหลายๆ ท่านด้วย โดยเฉพาะรสชาติของไส้กรอกสไตล์เยอรมันแท้ๆ รวมไปถึงการได้นั่งจิบเบียร์เยอรมันแท้ๆ ก็ทำให้การมาเที่ยวเยอรมันในครั้งนี้สมบูรณ์แบบมากขึ้น สนใจเรื่องราวของ Hotel Alte Post คลิกอ่าน
2.โบสถ์คาทอลิชเคิช (Katholische Kirche) โบสถ์ของชาวคริสต์ที่มีหอคอยสูงตั้งอยู่ด้านข้างกัน นอกจากเป็นหอคอยแล้วยังเป็นหอนาฬิกาบอกเวลาของเมือง ด้านบนของหอคอยจะเป็นหลังคารูปทรงคล้ายหัวหอมสีเขียวเด่นเป็นเอกลักษณ์ มาให้ถึงต้องโพสต์ท่าสวยๆถ่ายภาพลงโซเชี่ยลอวดเพื่อนๆด้วยนะครับ
เที่ยว Oberammergau(โอเบอรามาเกา) เดือนไหนดี
ช่วงเวลาของการมาเที่ยวโอเบอรามาเกานั้นสามารถมาเที่ยวได้ทั้งปี แต่ถ้าท่านใดอยากได้ภาพสวยๆ มีสีสันของใบไม้หลายๆ สี ฟรีเบิร์ด ทราเวิล แอนด์ ทัวร์ ขอแนะนำว่าอาจจะมาช่วงฤดูใบไม้ร่วง ประมาณเดือนกันยายน – พฤศจิกายน ช่วงนี้ที่เยอรมันใบไม้จะแข่งกันออกสีเหลืองสีส้ม แดง อากาศเย็นสบาย ท้องฟ้าเปิดจะได้ภาพสวยทุกมุมอย่างแน่นอน แต่ถึงไม่ใช่ช่วงนี้ก็ไม่ต้องกังวลใจ ไม่ว่าจะฤดูไหนๆ ก็ไม่ได้บันทอนความสวยงามของOberammergau(โอเบอรามาเกา) ไปแม้แต่น้อย
แต่หากมาในวันอาทิตย์ หรือวันหยุด เช่น วันอีสเตอร์ ร้านค้าส่วนใหญ่จะปิด ทำให้มีนักท่องเที่ยวน้อย และดูเงียบเหงา แต่ก็มีข้อดีตรงที่เราจะได้เดินดูจิตกรรมฝาผนังด้วยใจที่เงียบสงบ และอยากให้มาถึงที่ Oberammergau(โอเบอรามาเกา) ก่อนเย็นย่ำ เพราะถ้าเย็นแล้วจะทำให้ถ่ายภาพไม่สวย จะได้ภาพสีหม่นๆ หากเลือกเวลามาในช่วงเช้า หรือบ่ายๆ ที่ยังมีแสงส่องจะทำให้ภาพบนผนังดูสดสวย ถ่ายรูปออกมาก็โดดเด่นดูมีชีวิต
เอาจริงๆ เรื่องเวลาก็อาจจะวางแผนยากสักนิด แม้ Oberammergau(โอเบอรามาเกา) จะเป็นสถานที่ที่เราไม่อยากให้พลาด แต่มันก็มักจะถูกจัดให้เป็นสถานที่เที่ยวแบบเที่ยวผ่านๆ
Oberammergau(โอเบอรามาเกา) มักจะถูกบรรจุอยู่ในทริปทัวร์ยุโรปตะวันออก เช่น เยอรมนี ออสเตรีย เชค ฮังการี สโลวัก หากโปรแกรมเริ่มต้นที่เยอรมนี Oberammergau(โอเบอรามาเกา) ก็จะเป็นโปรแกรมวันแรกท้ายๆ ของวันนั่นเอง
2. Garmisch Partenkirchen(การ์มิช-พาร์เทินเคียร์เชิน)
บนถนน Ludwigstrasse(ลุดวิกชตราสเซ) ในเมือง Garmisch Partenkirchen(การ์มิช-พาร์เทินเคียร์เชิน) จะมีอาคารเรียงรายทั้ง 2 ฝั่ง เป็นทั้งโรงแรม ร้านค้า ร้านขายของที่ระลึก ร้านอาหาร ด้านนอกของอาคารหลายๆ หลังจะมีภาพวาดเป็นศิลปะตามแบบลุฟเทิลมาลเลอไร(Luftlmalerei หรือ Lüftelmalerei) แสดงเรื่องราวหลากหลายให้นักท่องเที่ยวอย่างเราได้เดินชม นักท่องเที่ยวสามารถเดินทอดน่องไปเรื่อยๆ พร้อมวิวภูเขาที่ตั้งเด่นตระหง่าน
Garmisch Partenkirchen(การ์มิช-พาร์เทินเคียร์เชิน) เป็นอีกเมืองที่น่าแวะเที่ยว หากมาเที่ยวแคว้นบาวาเรียก็ควรบรรจุเมือง Garmisch Partenkirchen ไว้เป็นส่วนหนึ่งของแผนการเดินทาง นักท่องเที่ยวที่มากับบริษัททัวร์ ตามโปรแกรมหลังจากที่แวะเที่ยวOberammergau(โอเบอรามาเกา) ก็มักจะมาพักค้างคืนกันที่เมืองฺการ์มิช-พาร์เทินเคียร์เชิน นี้เอง เพราะที่นี่มีโรงแรมมากมายให้นักท่องเที่ยวแวะพักค้างคืนเพื่อเดินทางต่อไปยังออสเตรีย รวมไปถึงบางโรงแรมที่คณะทัวร์จากไทยมักไปพัก
Garmisch Partenkirchen(การ์มิช-พาร์เทินเคียร์เชิน) เป็นเมืองที่อยู่ทางใต้ในแคว้นบาวาเรีย(ฺBavaria) มีพรมแดนติดกับประเทศออสเตรีย ที่นี่เคยเป็แวนสถานที่จัดกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวในปี ค.ศ.1936 เป็นแหล่งเล่นสกีที่มีชื่อเสียงของประเทศ
สำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมากับบริษัททัวร์ และอาจมาพักในเมืองนี้ เช่น โรงแรม Mercure Hotel Garmisch Partenkirchen เราสามารถเดินออกจากโรงแรมเลี้ยวซ้ายก็จะเจอกับถนน Ludwigstrasse ถนนที่เต็มไปด้วยอาคารที่ด้านนอกเป็นภาพวาดศิลปะตามแบบลุฟเทิลมาลเลอไร(Luftlmalerei หรือ Lüftelmalerei)
แต่ตามโปรแกรมทัวร์มักจะไม่ได้จัดเวลาให้เดินเล่นบนถนนแห่งนี้ ดังนั้นแนะนำว่าให้นักท่องเที่ยวจัดสรรเวลามาเดินเล่นเอง และไม่อยากให้พลาด เราอาจใช้เวลาช่วงเช้าหลังรับประทานอาหารเช้าเสร็จ แล้วไปเดินเล่น แต่เนื่องจากมันเป็นเวลาเช้ามาก แสงก็จะหม่นๆ หน่อย ก็อาจจะทำให้ได้ภาพไม่สวยนัก และเพราะยังเช้าอยู่มากร้านค้าต่างๆ ก็ยังไม่เปิดทำการ แต่เราก็ยังได้เพลิดเพลินกับสถานที่อยู่บ้าง บางท่านอาจจะไม่ทราบว่าแถวๆ โรงแรมมีสถานที่เดินเล่นนี้อยู่ก็เลยไม่ได้ออกมา ถ้าอยากจะซึมซับถนนทั้งเส้นควรมีเวลาอย่างน้อยสัก 1 ชั่วโมง แต่ถ้าช่วงเวลาที่ร้านค้าเปิด 1 ชั่วโมงคงไม่พอกระมัง
3. Mittenwald(มิทเทนวาลด์)
Mittenwald(มิทเทนวาลด์) เป็นอีกหนึ่งสถานที่ห้ามพลาดสำหรับคนที่ชอบศิลปะแบบ ลุฟเทิลมาลเลอไร(Luftlmalerei หรือ Lüftelmalerei) ที่นี่ตั้งอยู่ในแคว้นบาวาเรีย ของประเทศเยอรมนี มีชื่อเสียงในเรื่องของการทำไวโอลีนมาหลายร้อยปี จุดเด่นของ Mittenwald(มิทเทนวาลด์) ก็คือ ศิลปะภาพวาดที่เรียกกันว่าลุฟเทิลมาลเลอไร(Luftlmalerei หรือ Lüftelmalerei) ศิลปะเหล่านี้เราจะพบเห็นได้บนด้านหน้า และผนังของอาคาร ที่เป็นทั้งร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก ร้านกาแฟ บ้างก็เป็นโรงแรม ภาพบนผนังเหล่านี้บอกเล่าเรื่องราวต่างๆ ของเมือง ทั้งวิถีชีวิต อาชีพ เทศกาล และเรื่องราวเกี่ยวกับศาสนา อาคารเหล่านี้ตั้งเรียงราย สลับลดหลั่น ทอดยาวไปตามถนนสายหลักอย่าง Obermarkt ที่มีส่วนเว้าส่วนโค้งทำให้มองเห็นยอดเขาที่มีหิมะปกคลุมดูงามตานัก หากเดินไปเรื่อยๆ จะพบกับโบสถ์คาทอลิกสีชมพู St. Peter and Paul ตั้งเห็นเด่นชัด
Johann Wolfgang von Goethe(โยฮันน์ โวล์ฟกัง ฟอน เกอเธ่) ผู้รอบรู้ชาวเยอรมัน ที่เป็นทั้งนักปรัชญา นักเขียน นักเขียนบทละคร ได้พูดถึง Mittenwald ไว้ว่า ที่นี่เป็นเหมือน "หนังสือภาพมีชีวิต" เห็นจะจริงตามคำพูดนั้น
เราไปถึง Mittenwald ตั้งแต่เช้าจึงยังไม่มีนักท่องเที่ยว และร้านค้าต่างๆ ก็ยังไม่เปิดทำการ แสงของท้องฟ้าก็ยังไม่ส่องมากนัก อาจทำให้ภาพที่ออกมาดูเงียบเหงา และดูไม่สดใส
หากใครที่มาเที่ยวแคว้นบาวาเรีย ฟรีเบิร์ด ทราเวิล แอนด์ ทัวร์ แนะนำว่า Mittenwald(มิทเทนวาลด์) เป็นอีกหนึ่งสถานที่ต้องห้ามพลาดเช่นกัน
ควรใช้เวลากี่ชั่วโมงใน Mittenwald(มิทเทนวาลด์) เราคิดว่าถ้าจะให้ดื่มด่ำบรรยากาศได้อย่างเต็มที่ ได้เดินละเลียดดูงานศิลป์ลุฟเทิลมาลเลอไร(Luftlmalerei หรือ Lüftelmalerei) อย่างเต็มอิ่ม ได้เดินดูของตามร้านค้า ได้นั่งจิบกาแฟสักแก้วบนเก้าอี้ที่จัดเรียงรายอยู่นอกร้านเพื่อรับอากาศภายนอกอาคาร มองดูผู้คนเดินผ่านไปมา อยากมีเวลาเดินเล่นเลาะไปตามซอกตึกโผล่ไปอีกด้าน ควรมีสัก 3 ชั่วโมง แต่หากไม่มีเวลาขนาดนั้นอย่างน้อยสัก 1 ชั่วโมงควรเป็นเวลาที่น้อยที่สุดที่จะได้เดินผ่านๆ ก็พอได้
- หากบทความนี้ดีต่อใจ ชวนคนที่คุณรักมาเที่ยวกับฟรีเบิร์ดทัวร์กันค่ะ -
สนใจโปรแกรมเดินทางทัวร์เยอรมนีคลิกที่นี่
คุยกับครอบครัวฟรีเบิร์ด
โทร.02-0488-785-7 Hotline 085-151-1000 , 094-782-6888 และ 093-570-3000
- May 2019 -