ลามาเจ้าถิ่น ลาตินอเมริกาใต้

         

 

ลามาเจ้าถิ่น ลาตินอเมริกาใต้ | ทัวร์อเมริกาใต้กับฟรีเบิร์ดทัวร์

ทัวร์อเมริกาใต้

พาเที่ยวอเมริกาใต้รู้จักกับสัตว์เจ้าถิ่นที่จะทำให้เรายิ้มกับความน่ารัก โลกเรานี้มีสิ่งมีชีวิตมากมายหลายชนิดโดยธรรมชาติก็ได้รังสรรค์ให้ทุกชีวิตมีบทบาทของตัวมันตามระบบนิเวศน์ต่างๆกันไป วันนี้ฟรีเบิร์ดทัวร์จะมาชวนทุกท่านไปทำความรู้จักกับสัตว์โลกแสนน่ารัก หน้าตาสุดฮิป ฟันเหยินๆเหมือนใครบางคนในออฟฟิศฟรีเบิร์ด 55 และทรงขนสุดเท่ ที่จะทำให้ท่านหลงรักมัน และอยากไปเล่นกับมันซะเหลือเกิน สัตว์ที่ว่านี้มีชื่อว่า ลามา หรือลามะ (llama) นั่นเอง

รู้จักลามากันก่อน ลามา คืออะไร


ลามา หรือลามะ (llama) สัตว์ขนปุยขนาดกลางรูปร่างคล้ายกวาง คอยาวดั่งอูฐ และขนปุยแบบแกะ เป็นสัตว์ที่ชาวอินเดียแดงโบราณเผ่าอินคาเลี้ยงไว้ตามบ้านเรือนมาอย่างช้านาน ซึ่งประโยชน์ของมันก็เพื่อการแบกหามของสัมภาระต่างๆ ข้ามไปตามแนวเขา นอกจากจะเลี้ยงเพื่อประโยชน์นี้แล้วยังมีการเลี้ยง และนำมาแข่งขันกันต่างๆนาๆ หรือบ้างก็นำไปฆ่าเพื่อบูชาเทพเจ้า

เที่ยวอเมริกาใต้


ถิ่นกำเนิดของลามาอยู่ในประเทศแถบลาตินอเมริกาใต้(South America) ได้แก่ เปรู โบลิเวีย ชิลี และทางตอนเหนือของ อาร์เจนตินา เป็นต้น 

เซเลบคนใหม่ของวงการ

ลามา (llama) เป็นที่รู้จักของชาวโลกก็ครั้งเมื่อชาวสเปนได้มาเทียบท่า ณ อเมริกาตอนใต้ และเกิดความสงสัยว่าเหตุใดหนอชาวอินเดียแดงถึงไม่มีช้าง ม้า วัว หรือควายสำหรับใช้งานเลย จะเห็นก็แต่ลามา หรือลามะนี่แหล่ะ ที่ยืนเคี้ยวหญ้ามองตาเป็นมันให้ชาวสเปนฉงนเล่นครับ จึงได้มีการนำลามากลับไปเพาะเลี้ยงและศึกษา

 


ความสำคัญของน้องลามา หรือลามะ

ชาวอินคาพวกเขาเป็นคนที่รู้จักลามาดีที่สุด บ้านที่เลี้ยงลามาจะสามารถใช้งานคุ้มค่าทุกส่วนของมันเลย ไม่ว่าจะเลี้ยงเพื่อใช้แรงงาน เหล่าลามาทั้งหลายก็สามารถขนของหนักๆและเดินทางไกลๆได้แม้ต้องเดินผ่านเขาที่สูงชัน เจ้าลามาที่โตเต็มวัยจะสามารถเดินทางได้ไกลถึงวันละ 30 กิโลเมตรเลยทีเดียว ส่วนของเนื้อก็นำมาประกอบอาหาร นมก็สามารถดื่มได้ หนังก็มาทำเป็นเครื่องใช้ ขนก็นำไปทำเครื่องนุ่งห่ม ขนที่แก่และยาวก็สามารถมาใช้เป็นเชือก ไขมันก็ยังมีประโยชน์ใช้มาแทนเทียนไข และแม้แต่อึของเจ้าลามาก็ยังนำมาเผาเหมือนถ่านให้ความอบอุ่นได้อีกด้วยนะครับ เห็นประโยชน์มากมายแบบนี้ผมนี้อยากเลี้ยงกับเขาบ้าง จะเซลฟี่ด้วยทุกวัน  

llama

 

ลามาเซเลบของแหล่งท่องเที่ยว

อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่าถิ่นกำเนิดของลามาพวกนี้อยู่ในหลากหลายประเทศทางอเมริกาใต้ ซึ่งปัจจุบันหลายๆสถานที่ต่างๆก็กลายมาเป็นแหล่งท่องเที่ยว เจ้าลามาจึงเรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเซเลบเจ้าถิ่นที่ทำให้สถานที่ท่องเที่ยวดูน่าดึงดูดไปอีกด้วยจะมีที่ไหนกันบ้างตาม ฟรีเบิร์ด ทราเวิล แอนด์ ทัวร์ ไปดูกันครับ

 

 

1. มาชูปิกชู (Machu Picchu)  ประเทศเปรู

มาชูปิกชูนับเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของประเทศเปรู ถึงขนาดที่ว่าในปี 2560 มีจำนวนนักท่องเที่ยวที่ไปเยือนที่นี่มากถึง 1,411,279 คน การที่เราจะไปเที่ยวมาชูปิกชูนั้นเราจะต้องเดินทางไปยังเมืองลิมา (Lima) เมืองหลวงของประเทศเปรู เมืองที่ยังคงรักษาความเป็นละตินอเมริกาไว้อยางสมบูรณ์ที่สุดเมืองหนึ่ง จากเมืองลิมาเราต้องต่อเครื่องบินเพื่อไปยังเมืองกุสโก (Cusco) ซึ่งใช้เวลาบินประมาณ 1.20 ชม. จริงๆแล้วถ้าไม่มาเครื่องบินก็สามารถนั่งรถมาได้เหมือนกันแต่ใช้เวลาเดินทางยาวนานกว่ากันมาก เพราะเมืองทั้ง 2 ตั้งอยู่ห่างกันถึง 1,100 กิโลเมตร โดยประมาณ และความสุดพิเศษของการเดินทางไปมาชูปิกชูคือการนั่งรถไฟไต่ขึ้นไปยังเทือกเขาสูงพร้อมความอลังจากวิวสองข้างทางให้เราได้ชื่นชมผ่านกระจกใสของรถไฟ 

 

นักท่องเที่ยวที่มาถึงมาชูปิกชู ท่านจะได้เห็นเจ้าลามาที่นี่อย่างแน่นอน ลามาเป็นสัตว์ที่มีนิสัยน่ารัก ไม่ดุร้าย เรียกว่าสุภาพก็ว่าได้ 555 สัตว์นิสัยสุภาพนี่มันเป็นอย่างไรนะ เอาเป็นว่ามาถึงแล้วนักท่องเที่ยวก็สามารถจะถ่ายภาพกับเจ้าพวกนี้ได้นะ ไปรู้จักกับมาชูปิกชูกันค่ะ คลิกอ่าน Machu Picchu เมืองสาบสูญแห่งอินคา

มาชูปิกชู (Machu Picchu)

มาชูปิกชู

 

2. Ausangate ภูเขาสายรุ้ง ประเทศเปรู

ภูเขาสายรุ้ง ประเทศเปรู เป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาแอนดีสที่อยู่ทางตอนใต้ของเมืองซัสโก  ที่นี่มีลักษณะพิเศษคือ พื้นของภูเขานั้นมีสีสันสดใสไล่เฉดสีแปลกตาสวยงาม ซึ่งเฉดสีที่ว่านี้เกิดจากแร่ต่างๆ และทรายแดงที่สะสมมาเป็นระยะเวลายาวนาน เฉดสีที่ลดหลั่นและมีมากถึง 8 สีนี้เองที่เป็นจุดเชื้อเชิญให้ใครต่อใครแวะมาที่นี่ ซึ่งหากใครได้ไปเห็นกับตาเรียกได้ว่าคุ้มค่าสุดๆแน่นอน และที่นี่ก็เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่นักท่องเที่ยวจะได้เห็นเจ้าลามาออกมาเดินนวยนาดอวดขนสวยให้นักท่องเที่ยวได้ยล ยิ้ม และแชะๆเก็บภาพแบบรัวๆกันเลยครับ ... เห็นแล้วผมนี้อยากจะแอบตีก้นเจ้าลามาสักทีสองที 555

Ausangate ภูเขาสายรุ้ง ประเทศเปรู

 

3.ทะเลสาบเกลืออูยูนิ(Salar de Uyuni) ประเทศโบลิเวีย

ทะเลสาบเกลืออูยูนิตั้งอยู่ทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ของโบลิเวีย นับเป็นทะเลสาบน้ำเค็มที่ใหญ่ที่สุดในโลก มองไปทางไหนท่านก็จะเห็นผืนน้ำสัมผัสกับท้องฟ้าสุดลูกหูลูกตา ซึ่งบางฤดูนั้นน้ำเค็มจะละเหยไปเหลือไว้เพียงแค่เกลือขาวๆ  ผืนดินที่ขาวโพลนและท้องฟ้าที่สดใสนับเป็นภาพที่สวยงามมาก และภายในทะเลสาบแห่งนี้ก็ยังมีเกาะอิคาฮัวซิ (Isla Incahuasi) หรืออีกชื่อคือเกาะปลาที่เกิดจากการเกยกันของหินและดินต่างๆ กลางทะเลสาบ บนเกาะจะมีกระบองเพชรมากมาย รูปทรงแปลกตาดีครับ และเจ้าเซเลบลามาก็อยู่บนเกาะแห่งนี้คอยต้อนรับนักท่องเที่ยวอีกด้วย

ทะเลสาบเกลืออูยูนิ

 

 

เป็นยังไงบ้างครับความน่ารัก และหน้าตายียวนของมันดูแสบไม่ใช่น้อยเลยใช่ไหมล่ะครับ หากใครสนใจอยากไปตามหาพวกมันล่ะก็ติดต่อครอบครัวฟรีเบิร์ดทัวร์เพื่อสอบถามโปรแกรมทัวร์อเมริกาใต้เพิ่มเติมได้เลยครับ จริงๆแล้วอเมริกาใต้ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจอีกมากมาย และมีเหตุผลมากมายเช่นกันที่อยากชวนคุณไปสัมผัสสักครั้ง 


อเมริกาใต้อาจไม่ใช่เป้าหมายแรกๆของนักท่องเที่ยวแต่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เราไม่อยากให้คุณพลาดเพราะที่นี่คุณจะได้พบเจอสิ่งแปลกใหม่เส้นทางท่องเที่ยวแปลกๆ มีมุมถ่ายรูปเก๋ๆไม่ซ้ำแบบใคร มีธรรมชาติสุดอลัง และนี่คือ  7 เหตุผลจูงใจให้ไปเที่ยวอเมริกาใต้ ต้องการ กลับสู่หน้าแรก หรืออยากอ่านเรื่องอื่นๆอีก Blog ชวนเล่า

 

         

 

 


 

 

 - หากบทความนี้ดีต่อใจ ชวนคนที่คุณรักมาเที่ยวกับฟรีเบิร์ดทัวร์กันค่ะ -   

สนใจโปรแกรมทัวร์อเมริกาใต้คลิกที่นี่

 

 

คุยกับครอบครัวฟรีเบิร์ดทัวร์

โทร.02-0488-785-7 Hotline 085-151-1000 , 094-782-6888 และ 093-570-3000

    instagramfreebirdtour  twitter freebirdtour  Youtube freebirdtour     


Visitors: 463,265