จอร์เจีย | เรื่องน่ารู้ก่อนเที่ยวจอร์เจีย
เรื่องน่ารู้ก่อนเที่ยวจอร์เจีย | ทัวร์จอร์เจีย กับฟรีเบิร์ดทัวร์
เทรนด์การท่องเที่ยวในปัจจุบันผู้คนต่างหาแหล่งท่องเที่ยวที่มีความแปลกตา แปลกใหม่ และถ้าเป็นไปได้ก็ไม่อยากซ้ำใคร เช็คอินทีคนฟอลโลว์ถึงกับร้องว๊าวๆ กดไลค์กันรัวๆ วันนี้ฟรีเบิร์ด ทราเวิล แอนด์ ทัวร์ จะมาพาไปรู้จักกับประเทศที่คนไทยอาจจะไม่คุ้นหู และไม่ใช่กระแสในช่วงเวลาที่ผ่านมา แต่ๆๆๆตอนนี้เทรนด์การเที่ยวประเทศนี้กำลังมาแล้วนะครับ และผมว่าจะเป็นอีกหนึ่งประเทศที่น่าเที่ยวและคุ้นหูในอีกไม่ช้า ประเทศที่ว่านี้ก็คือประเทศจอร์เจีย(Georgia) นั่นเอง ว่าแต่จอร์เจียอยู่ที่ไหนบนโลกใบนี้ จอร์เจียมีอะไรน่าเที่ยว จอร์เจียสวยไหม ไปแล้วจะคุ้มค่าทัวร์ หรือคุ้มกับเงินที่ต้องจ่ายซื้อตั๋วเครื่องบินไหม ไปเที่ยวจอร์เจียต้องขอวีซ่าไหม ฟรีเบิร์ดทัวร์ขอพาคนชอบความแปลกใหม่ไปทำความรู้จักกับประเทศนี้กับเรื่องน่ารู้ก่อนไปเที่ยวกันครับ
จอร์เจีย(Georgia)อยู่ส่วนไหนของมุมโลก
ประเทศจอร์เจีย(Georgia) เป็นอีกหนึ่งประเทศในกลุ่มประเทศที่มีอาณาเขตของเทือกเขาคอเคซัส (Caucasus Mountains) เทือกเขาใหญ่ที่พาดผ่านหลายประเทศมีความสวยงามและเป็นเอกลักษณ์ จอร์เจียมีอาณาเขตติดกับประเทศตุรกี อาร์เมเนีย อาเซอร์ไบจาน และรัสเซีย และยังเป็นอีกหนึ่งประเทศที่มีพื้นที่ติดอยู่กับทะเลดำ(Black Sea) อีกด้วย ประเทศจอร์เจียเป็นประเทศที่ตั้งอยู่บนจุดตัดระหว่างทวีปยุโรปและเอเชีย การมาเที่ยวจอร์เจียท่านจะได้สัมผัสกับธรรมชาติที่สวยงาม สถาปัตยกรรมบ้านเมืองสไตล์ยุโรป กำแพงอิฐที่ดูมีมนต์ขลัง หลังคากระเบื้องแดงๆที่ทำให้รู้สึกเหมือนเดินอยู่ตามเมืองเก่าแถบประเทศยุโรปตะวันออกเลยทีเดียว การเดินทางจากประเทศไทยไปจอร์เจียจะใช้เวลาประมาณ 11-12 ชั่วโมง
ขอบคุณแผนที่จาก Google map
ไปเที่ยวจอร์เจียต้องขอวีซ่าไหม
จอร์เจียเป็นอีกหนึ่งประเทศในจำนวน 32 ประเทศที่คนไทยไปเที่ยวได้โดยไม่ต้องขอวีซ่า อัพเดทปี 2019 และใครหลงรักประเทศนี้อยากจะอยู่กันยาวๆ จอร์เจียก็จัดให้ผู้ที่ถือหนังสือเดินทางไทยสามารถเข้าไปเที่ยวในประเทศจอร์เจียได้โดยไม่ต้องขอวีซ่าและพำนักอยู่ได้เป็นระยะเวลายาวๆถึง 365 วันเลยนะจะบอกให้ ถึงแม้จะไม่ต้องขอวีซ่าแต่ถ้าพาสปอตไม่มีก็เข้าประเทศไม่ได้นะครับ อย่าลืมก่อนไปเช็คดูด้วยว่าหมดอายุแล้วหรือยังหากหมดหรือเหลือน้อยกว่า 6 เดือนก็แวะไปทำกันใหม่ได้ที่นี่ คลิกอ่านชี้จุดสถานที่ทำหนังสือเดินทาง (passport)
เที่ยวจอร์เจียใช้เงินสกุลอะไร
สกุลเงินประจำชาติของประเทศจอร์เจีย คือ สกุลเงิน ลารีจอร์เจีย(GEL) นักท่องเที่ยวไทยที่จะไปเที่ยวประเทศจอร์เจียสามารถแลกเป็นสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ(USD) และหรือยูโร(EUR) อย่างใดอย่างหนึ่งหรือทั้งสองอย่างแล้วแต่สะดวกแลกจากเมืองไทยไปก่อน จากนั้นเมื่อไปถึงประเทศจอร์เจียค่อยไปแลกเป็นเงินลารีจอร์เจีย(GEL) โดยสามารถแลกได้ที่สนามบิน แต่เรทอาจไม่ค่อยดี หรืออาจแลกตามสถานที่ท่องเที่ยว และตามสถานีรถไฟใต้ดินต่างๆ หรือขอคำแนะนำจากหัวหน้าทัวร์และไกด์ท้องถิ่นได้ครับ
อัตราแลกเปลี่ยนอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงตามแต่ละช่วง (อัตราแลกเปลี่ยน ณ วันที่ 14/8/2562)
1 ดอลลาร์สหรัฐ(USD) = 2.9126 ลารีจอร์เจีย(GEL)
1 ยูโร(EUR) = 3.2535 ลารีจอร์เจีย(GEL)
หากเป็นเงินไทยก็จะได้ประมาณ 100 บาท = 9.4493 ลารีจอร์เจีย(GEL)
สำหรับท่านที่จะแลกเงินดอลาร์ หรือยูโรจะไปแลกที่ไหนดีเราขอชี้เป้า 11 ร้านแลกเงินชื่อดัง
ระบบไฟฟ้า และปลั๊กที่ใช้ในประเทศจอร์เจีย
ระบบไฟฟ้าของประเทศจอร์เจียจะใช้ไฟฟ้า 220 วัตต์ เหมือนกับประเทศไทย จะมีเต้าเสียบ และปลั๊กแบบหัวกลม Type C และ Type F แบบ 2 รู
ปลั๊กแบบ Type C
ปลั๊กแบบ Type F
สำหรับนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางไปเที่ยวประเทศจอร์เจียให้เตรียม Adapter ที่ใช้ได้กับเต้าเสียบดังกล่าวไปด้วยจริงๆแล้วอุปกรณ์หลายๆอย่างในประเทศไทยปลั๊กก็เป็นหัวกลม 2 ขา แต่ก็มีบ้างที่เป็นแบบขาแบน 2 ขา แต่การเดินทางไปต่างประเทศแต่ละครั้งอุปกรณ์อิเล็คทรอนิกส์ที่มีไปก็มีหลายอย่างเหลือเกินอย่าลืมเตรียมเป็นปลั๊กพ่วงไปด้วยนะครับ สำหรับท่านใดที่อยากทราบว่าไปประเทศไหนต้องเตรียม Adapter แบบไหนตามฟรีเบิร์ดทัวร์ไป รู้จักปลั๊ก 14 แบบที่ใช้กันอยู่ทั่วโลก
ไปเที่ยวจอร์เจียเดือนไหนดี
และคงเป็นคำถามที่ใครๆก็อยากรู้คำตอบว่าควรเลือกไปเที่ยวจอร์เจียในช่วงเดือนไหน หรือฤดูไหนดี ประเทศจอร์เจีย มี 4 ฤดูกาลเหมือนประเทศยุโรปทั่วไป ซึ่งในแต่ละฤดู ในแต่ละช่วงเดือนก็มีความงามที่แตกต่างกัน สำหรับฤดูกาลของจอร์เจีย มีดังนี้
ฤดูหนาว (Winter) | เดือนธันวาคม - กุมภาพันธ์ หากมาเที่ยวจอร์เจียช่วงฤดูหนาวท่านจะได้สัมผัสกับหิมะขาวโพลนตามภูเขาสูง กิจกรรมที่นิยมของการท่องเที่ยวในฤดูหนาวของจอร์เจียก็คือการมาเล่นสกี สำหรับอุณหภูมิของฤดูหนาวในประเทศจอร์เจียก็แตกต่างกันไปตามภูมิภาค อาจเป็นเลขตัวเดียวในพื้นที่ราบ ไปจนถึงติดลบเลขสองตัวในพื้นที่ภูเขา
ฤดูใบไม้ผลิ (Spring) | เดือนมีนาคม - พฤษภาคม การมาเที่ยวจอร์เจียในฤดูใบไม้ผลิอากาศจะเริ่มอุ่นขึ้น อุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ 10-24 องศาเซลเซียส นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับความเขียวชอุ่มของต้นไม้ใบหญ้ามองไปตรงไหนก็สบายตา และได้ชื่นชมกับความสวยงามของเหล่าดอกไม้น้อยใหญ่ที่อวดดอกออกใบบานสะพรั่ง บรรยากาศเวลามองออกจากนอกหน้าต่างนั้นเหมือนคุณอยู่สวิสเลยทีเดียวเรียกได้ว่าสวยติดตาสุดๆ
ฤดูร้อน (Summer) | เดือนมิถุนายน - สิงหาคม อุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ 16-31 องศาเซลเซียส หากมาเที่ยวจอร์เจียในช่วงฤดูร้อนนักท่องเที่ยวจะใช้เวลาเที่ยวได้คุ้มสุดๆ ไม่ต้องห่วงว่าจะมืดเร็ว แถมฟ้าเปิดแสงดีถ่ายรูปออกมาก็สวยสด และอีกหนึ่งไฮไลท์ในฤดูร้อนของที่นี่ก็คือผลไม้หลากหลายชนิด เช่น พีช เบอร์รี่ เชอร์รี่ องุ่น ที่ออกมาให้ทานกันสดๆ หวาน อร่อย และราคาถูกมากๆ ถูกแค่ไหนยกตัวอย่าง เชอร์รี่กิโลกรัมละประมาณ 2 ลารี ประมาณ 21 บ.(ขึ้นอยู่กับอัตราแลกเปลี่ยน)
ฤดูใบไม้ร่วง (Autumn) | เดือนกันยายน - พฤศจิกายน อากาศในฤดูนี้จะเย็นสบายไปทางเริ่มหนาว ที่มาพร้อมกับวิวของต้นไม้น้อยใหญ่ตามภูเขาที่กำลังเปลี่ยนสีเพื่อเตรียมต้อนรับฤดูหนาวที่กำลังมา หากใครพาแฟนมาเที่ยวจอร์เจียในฤดูใบไม้ร่วงเชื่อว่าจะช่วยยกระดับความหวาน และความรักของคุณได้มากขึ้นแน่นอน อะไรจะโรแมนติกไปกว่าการนั่งจิบไวน์รสเลิศอันเลืองชื่อของจอร์เจียพร้อมกับการมองวิวต้นไม้ใบไม้ที่กำลังเปลี่ยนเป็นสีส้มสลับเหลืองอีกเล่า
ส่วนจะเลือกไปเที่ยวจอร์เจียเดือนไหนก็สามารถเลือกตามที่ชอบ และเวลาที่สะดวก เพราะเอาจริงๆแล้วจอร์เจียสามารถเที่ยวได้ทุกฤดู ขึ้นอยู่กับว่านักท่องเที่ยวอยากเห็นอะไร ชอบอากาศแบบไหน เวลาของประเทศจอร์เจียช้ากว่าประเทศไทย 3 ชั่วโมง เรื่องปรับตัวก็คงไม่ใช่ปัญหา กลับสู่หน้าแรก หรือ อยากอ่านเรื่องอื่นๆอีก ข้อมูลท่องเที่ยวน่ารู้
ของน่าซื้อที่จอร์เจีย
ไวน์ จอร์เจียขึ้นชื่อเรื่องไวน์มาก เนื่องจากเป็นประเทศเกษตรกรรม และสามารถปลูกพืชเมืองหนาวได้ จอร์เจียจึงมีการปลูกองุ่นไว้ทำไวน์จำนวนมาก ใครสายแอล(กอฮอล์) แนะนำไวน์ของจอร์เจียขึ้นชื่อเรื่องความอร่อย และราคาไม่แพง
ชีส ใครชอบกินชีสมาถูกทางแล้วเพราะที่นี่หาชีสจอร์เจียแสนอร่อยกินได้ง่ายทั่วไป
คูซเซล่า (Churchkhela) เป็นขนมท้องถิ่นทานเล่นขึ้นชื่อของจอร์เจียเขาเลย ไปถึงต้องห้ามพลาดที่จะลิ้มลอง คูซเซล่า เป็นขนมที่มีส่วนผสมของถั่วชนิดต่างๆ ร้อยเป็นเส้นแล้วนำไปเคลือบกับน้ำตาล น้ำองุ่น หรือน้ำผลไม้อื่นๆ ที่ผสมแป้งไว้ จากนั้นนำไปแขวนตาก รสชาติอร่อยเชียว เป็นขนมที่น่าลิ้มลองเป็นอย่างยิ่ง
ผลไม้ มาถึงจอร์เจียอย่าลืมลิ้มลองผลไม้ที่นี่นะครับ เช่น เชอร์รี่ พีช องุ่น เบอร์รี่ต่างๆ ราคาแสนถูก แถมสดและอร่อยมากอีกด้วย
อ่านมาถึงตรงนี้ อ้าว!! แล้วเขาไปเที่ยวอะไรกันหนอที่จอร์เจีย อยากทราบกันใช่ไหม ฟรีเบิร์ดทัวร์ขอเชิญนักท่องเที่ยวทั้งหลายไปเปิดประสบการณ์ใหม่กับประเทศที่ถูกโอบล้อมไปด้วยธรรมชาติ สถาปัตยกรรมอันเก่าแก่ ประเทศเล็กๆ ที่ความงามยิ่งใหญ่ ประเทศเล็กๆที่รับรองได้ว่าเมื่อไปแล้วต้องหลงรักอย่างแน่นอน กลับสู่หน้าแรก หรืออยากอ่านเรื่องอื่นๆอีก Blog ชวนเที่ยว
- หากบทความนี้ดีต่อใจ ชวนคนที่คุณรักมาเที่ยวกับฟรีเบิร์ดทัวร์กันค่ะ -
สนใจโปรแกรมทัวร์จอร์เจียคลิกที่นี่
คุยกับครอบครัวฟรีเบิร์ดทัวร์
โทร.02-0488-785-7 Hotline 085-151-1000 , 094-782-6888 และ 093-570-3000