6 ชาโตว์แสนงามแห่งลุ่มแม่น้ำลัวร์

         

 

6 ชาโตว์แสนงามแห่งลุ่มแม่น้ำลัวร์

 

ถ้าได้ยินคำว่า ชาโตว์ (Chateau) มันจะมีความรู้สึกดูหรู ดูแพง ดูดีมีระดับ ใช่ไหม ชาโตว์คืออะไร และนักท่องเที่ยวอย่างเราจะไปเกี่ยวข้องกับชาโตว์นี้ได้อย่างไร วันนี้ฟรีเบิร์ด ทราเวิล แอนด์ ทัวร์ จะพาคุณไปรู้จักกับชาโตว์แสนงามแห่งลุ่มแม่น้ำลัวร์ที่จะทำให้คุณหลงรักอย่างลุ่มลึก


ชาโตว์(Chateau) คืออะไร

ชาโตว์(Chateau) เป็นภาษาฝรั่งเศส เพศผู้(มีการแบ่งเพศอีกนะสำหรับคำศัพท์)  ชาโตว์มีความหมายว่า “ปราสาท” แต่สำหรับนักชิมไวน์แล้ว ชาโตว์ก็ยังหมายถึงพื้นที่ที่ทำการปลูกองุ่นมาทำไวน์อีกด้วย แต่วันนี้เราอยากให้คุณโฟกัสไปทางความหมายที่เป็นปราสาทเป็นหลัก เพราะเราจะพาคุณล่องไปตามแม่น้ำลัวร์ ส่องปราสาทงามทั้งหลายที่ตั้งอวดความงามอยู่ตามแม่น้ำลัวร์นั่นเอง ต้องบอกไว้ก่อนว่าที่บริเวณลุ่มแม่น้ำแห่งนี้เป็นที่ตั้งของปราสาทมากมายกว่า 300 หลัง ที่ทั้งบรรดาขุนนางหรือเชื้อพระวงศ์ของฝรั่งเศสได้สร้างขึ้นเพื่อแสดงหน้าตาทางสังคมซึ่งเป็นสิ่งที่บ่งชี้ความฟุ่มเฟือยของฝรั่งเศส


แม่น้ำลัวร์(Loire River) แม่น้ำสายสำคัญ และยาวที่สุดของฝรั่งเศสซึ่งสองฝากฝั่งของแม่น้ำสายนี้ได้มีการตั้งถิ่นฐาน และเมืองต่างๆอยู่มากมาย รวมถึงปราสาทสำคัญๆของตระกูลต่างๆที่เป็นเอกลักษณ์ดึงดูดนักท่องเที่ยว ตามเส้นทางของแม่น้ำแห่งนี้เรามักจะเรียกกันว่า ลุ่มแม่น้ำลัวร์ ด้วยความสำคัญทางประวัติศาสตร์ ความสวยงามทางสถาปัตยกรรมต่างๆของปราสาท ทำให้ลุ่มน้ำแห่งนี้ถูกขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมจากองค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือยูเนสโก (UNESCO) ซึ่งจะมีปราสาทงามอะไรรอเราอยู่นั้นไปดูพร้อมๆกันเลย  


1. ปราสาทเชอนองโซ (Chenonceau)

ปราสาทเชอนองโซ (Chenonceau)

ปราสาทเชอนองโซ (Chenonceau) หนึ่งในปราสาทแห่งลุ่มแม่น้ำลัวร์ที่สวยงามโดดเด่นเป็นอย่างมาก ด้วยภูมิศาตร์ของปราสาทหลังนี้ตั้งคร่อมแม่น้ำเชอ(Cher) ซึ่งเป็นที่มาของชื่อปราสาทนั่นเอง ปราสาทเชอนองโซ (Chenonceau) มีความสำคัญต่อประวัติศาสตร์ฝรั่งเศสมาอย่างยาวนาน ซึ่งหลังจากสร้างเสร็จในช่วงศตวรรษที่ 13 ก็ได้เป็นที่พำนักของราชวงศ์ฝรั่งเศสหลากหลายรุ่น มีการฝากเรื่องราวของราชวงศ์ที่น่าสนใจไว้หลากหลายเรื่อง ปัจจุบันหลังจากผ่านยุคสมัยต่างๆมาอยากโชกโชน ปราสาทหลังงามแห่งนี้ก็ได้มีการบูรณะจนสมบูรณ์ และสวยงามเป็นอย่างมากมีการเปิดให้นักท่องเที่ยวสามารถเข้าไปเที่ยวชมความงามได้ ปราสาทแห่งนี้นอกจากจะงดงามด้านสถาปัตยกรรมแล้ว ภายในยังมีการตกแต่งประดับประดาด้วยศิลปะต่างๆของราชวงศ์ รวมถึงตำนานต่างๆมากมายที่พร้อมจะเล่าเรื่องของมันเมื่อไปถึงแล้วนั่นเอง


2. ปราสาทชองบอร์ด (Chateau de Chambord)

ปราสาทชองบอร์ด (Chateau de Chambord)

ปราสาทชองบอร์ด (Chateau de Chambord) เป็นปราสาทที่ใหญ่ที่สุด สวยที่สุด และเชื่อหรือไม่ปราสาทแห่งนี้ยังเป็นต้นแบบของปราสาทในเรื่อง Beauty and the Beast ที่ดิสนีย์ได้ยกไปปรากฏในเรื่องอีกด้วย ปราสาทหลังนี้ถูกสร้างขึ้นโดยพระเจ้าฟราสซิสที่ 1 เพราะต้องการที่พักร้อนสำหรับล่าสัตว์ โดยใช้เวลาในการสร้างมากกว่า 28 ปี  และเพราะปราสาทแห่งนี้สร้างมาเพื่อเป็นที่พำนักระหว่างล่าสัตว์จึงไม่ได้มีการประจำการอยู่เป็นประจำ เฟอร์นิเจอร์ต่างๆที่จำเป็นจึงไม่เห็นในขณะที่เที่ยวชม ปราสาทแห่งนี้จุดขายจะเป็นความยิ่งใหญ่ และสถาปัตยกรรมของฝรั่งเศสนั่นเอง ด้านในปราสาทแม้จะไม่มีเครื่องใช้หรือเฟอร์นิเจอร์มากแต่รับรองความอลังการ  

 

3. ปราสาทเชอมงต์(Chateau de Chaumont)

ปราสาทเชอมงต์(Chateau de Chaumont)

ปราสาทเชอมงต์(Chateau de Chaumont) ชาโตว์หลังงามที่ตั้งอยู่บนที่สูงสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ของแม่น้ำลัวร์ได้อย่างสวยงาม เป็นปราสาทหลังงามที่สร้างขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 10 เคยผ่านเหตุการณ์เพลิงไหม้ครั้งใหญ่ จากนั้นมีการก่อสร้างใหม่ และเปลี่ยนมือจนกลายมาเป็นที่พำนัก และจัดงานเลี้ยงสำคัญต่างๆของราชวงศ์ฝรั่งเศส ด้วยทัศนียภาพที่สวยงาม ประดับประดาด้วยสวนสวย สถาปัตยกรรมของอาคารการตกแต่งต่างๆ ปราสาทแห่งนี้จึงเป็นที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก ในช่วงฤดูร้อนของทุกปีปราสาทแห่งนี้จะมีการจัดเทศกาล International garden festival ที่ขึ้นชื่อของฝรั่งเศสอีกด้วย

 

4. ปราสาทอองบัวส์ (Chateau de Amboise)

ปราสาทอองบัวส์ (Chateau de Amboise)

ปราสาทอองบัวส์ (Chateau de Amboise) เป็นปราสาทที่ตั้งอยู่ติดกับเมืองอองบัวส์ ซึ่งจะแตกต่างจากปราสาทอื่นๆ คือส่วนใหญ่จะตั้งอยู่กลางป่าแต่ปราสาทแห่งนี้ตั้งอยู่ในเมือง ฉายาอีกอย่างที่คนมักเรียกกันก็คือด่านสู่ลุ่มแม่น้ำลัวร์ ปราสาทสำคัญแห่งนี้เคยเป็นที่พำนักของราชวงศ์ และมหากษัตริย์หลายยุค แม้ปราสาทจะอยู่ติดกับเมืองเล็กๆ แต่ก็เต็มไปด้วยกลิ่นอายของประวัติศาสตร์ฝรั่งเศสอย่างชัดเจน อองบัวส์เป็นเมืองสุดท้ายของชีวิตของบุคคลสำคัญอย่าง ลีโอนาโด ดาวินชี อีกด้วย

 

5. ปราสาทวีล็องดรี(Chateau de Villandry)

ปราสาทแสนงามที่สร้างในศตวรรษที่ 15 เป็นปราสาทหลังสุดท้ายที่สร้างขึ้นแถบลุ่มแม่น้ำลัวร์ และเป็นปราสาทที่นักท่องเที่ยวมักวางแผนไว้สำหรับการมาเที่ยวแถบลุ่มแม่น้ำลัวร์ จุดเด่นอยู่ที่การจัดสวนสุดสวยที่มีหลากหลายโซน มีการแบ่งสัดส่วนใช้สอยอย่างดีตั้งแต่สวนน้ำพุ สวนไม้ประดับ และสวนที่แบ่งพื้นที่มาใช้ในการปลูกผักของปราการหลังงามนี้นี่เอง หากมองจากมุมสูงจะเป็นภาพที่งดงามมาก ใครชื่นชอบการเดินชมสวนสวยๆไม่ควรพลาด

 

6. ปราสาทชูแวร์นี (Chateau de Cheverny)  

ปราสาทเก่าแก่ที่สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 17 ได้แรงบันดาลใจในการสร้างมาจากพระราชวังลุกซ็องบูร์(Palais de Luxembourg) ปราสาทแห่งนี้จะมีการจัดสัดส่วนคล้ายๆกับปราสาทหลังอื่นๆทางแถบลุ่มแม่น้ำลัวร์ มีตัวปราสาท และการจัดส่วนต่างๆของสวนอย่างเป็นระบบ ทั้งสวนไม้ประดับ สวนน้ำพุ และส่วนผัก ให้เลือกเดินชม จุดเด่นอีกอย่างของปราสาทแห่งนี้คือเมื่อสมัยก่อนเคยมีการเลี้ยงสุนัขล่าเนื้ออยู่เป็นจำนวนมากจนมาถึงปัจจุบันนักท่องเที่ยวสามารถร่วมสนุกกับการเล่นกับเจ้าตูบเหล่านี้ได้อย่างอิสระ


ลุ่มแม่น้ำลัวร์แห่งนี้ยังมีปราสาทแสนสวย ชาโตว์สุดคลาสิคอีกหลายแห่งกว่า 300 ที่ หากใครชื่นชอบการเที่ยวชาโตว์คงจะชื่นชอบไม่น้อย นักท่องเที่ยวอาจจะตั้งเป้าหมายไว้เลยก็ได้ว่าวันหนึ่งฉันต้องไปให้ครบ ซึ่งนอกเหนือจากปราสาทแสนสวยอย่างที่ฟรีเบิร์ด ทราเวิล แอนด์ ทัวร์ นำมาแชร์กันแล้ว หากท่านใดมีปราสาทหลังไหนที่ไปมาแล้วประทับใจเป็นพิเศษก็อย่าลืมแชร์ประสบการณ์สุดแสนประทับใจของท่านมาให้เรารับทราบกันบ้างนะครับ


         

 



 

- หากบทความนี้ดีต่อใจ ชวนคนที่คุณรักมาเที่ยวกับฟรีเบิร์ดทัวร์กันค่ะ -   

สนใจโปรแกรมทัวร์ฝรั่งเศสคลิกที่นี่ 

 

คุยกับครอบครัวฟรีเบิร์ดทัวร์

โทร.02-0488-785-7 Hotline 085-151-1000 , 094-782-6888 และ 093-570-3000

    instagramfreebirdtour  twitter freebirdtour  Youtube freebirdtour     

 

Visitors: 467,923