สัมผัส 8 เมืองสวยแห่งโปแลนด์(Poland)

Experience-8-beautiful-cities-in-Poland

ถ้าพูดถึงประเทศโปแลนด์เราคงจะเห็นภาพค่ายกักกันเอาชวิตซ์(Auschwitz) มาแต่ไกล และแม้ประเทศนี้จะมีความโหดร้ายหดหู่เป็นประวัติศาสตร์ แต่ที่นี่ก็ยังมีความสวยงามที่น่าจดและจำ ฟรีเบิร์ด ทราเวิล แอนด์ ทัวร์ ชวน สัมผัส 8 เมืองสวยแห่งโปแลนด์(Poland) ย้อนรอยประวัติศาสตร์ ดื่มด่ำความงดงามในอดีต

1. เมืองกดังส์(Gdansk) 

เมืองกดังส์(Gdansk)

เมืองกดังส์ (Gdansk) หรือกดัญสก์ เมืองท่องเที่ยวทางตอนเหนือของประเทศโปแลนด์ มีชายฝั่งติดกับทะเลบอลติก เป็นเมืองท่าสำคัญ และเก่าแก่ของโปแลนด์ ตึกรามบ้านช่อง และสถาปัตยกรรมต่างๆของเมืองนี้แม้จะมีบางส่วนที่สร้างขึ้นใหม่ภายหลังจากได้รับความเสียหายจากสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่ก็ยังเหลือไว้ของร่องรอยและรากฐานเดิมอยู่บ้าง สถานที่ท่องเที่ยวของที่นี่นักท่องเที่ยวสามารถเดินเที่ยวได้รอบๆเมืองไม่ว่าจะเป็นย่าน Old Town,ประตูเมืองเก่า, ที่ทำการไปรษณีย์เก่าที่ยังเห็นความเสียหายจากร่องรอยกระสุนของนาซีที่เข้ามายึดครอง,ศาลาว่าการ และรวมไปถึงโบสถ์เซนต์แมรี่(St.Mary Church) หนึ่งในสามโบสถ์อิฐที่ใหญ่ที่สุดในโลก จะว่าไปแล้วในย่าน old town มีโบสถ์ที่ให้เราได้เดินชมมากมายแต่ดังๆและเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวมากๆ และนับเป็นโบสถ์ประจำเมืองก็เห็นจะเป็นโบสถ์เซนต์แมรี่นี่เอง เมืองกดังส์เป็นเมืองที่ไม่ใช่จุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวมากนัก สถานที่ท่องเที่ยวส่วนใหญ่จึงมักเต็มไปด้วยคนท้องถิ่น หากชอบความชิวๆที่นี่เป็นอีกหนึ่งเมืองที่ห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง

Gdansk old town

Gdansk

Gdansk

 

2. เมืองพอซนัน(Poznan) 

Poznan

เมืองพอซนัน(Poznan) นับเป็นเมืองที่มีความเก่าแก่ที่สุดของโปแลนด์ ในอดีตที่นี่เป็นศูนย์กลางการค้าที่สำคัญของทวีปยุโรป ปัจจุบันก็ยังเป็นเมืองที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจของโปแลนด์ และยังเป็นเมืองที่เคยใช้จัดการแข่งขันฟุตบอลยูโร 2012 ด้วย สถานที่ท่องเที่ยวในเมืองพอซนัน ก็เริ่มจากจัตุรัสใจกลางเมืองเก่า(Old Town Square) บริเวณนี้เป็นจุดรวมอาคารเก่าๆสีสันสะดุดตาเก๋ไก๋น่าโพสต์ท่าถ่ายรูปมากๆๆๆๆๆๆ, ป้อมปราการ, ศาลากลางจังหวัด,แกรนด์เธียเตอร์(Grand Theatre) โรงละครโอเปร่าที่ได้รับการออกแบบโดยสถาปนิกชาวเยอรมันในสไตล์นีโอคลาสสิค, ปราสาทอิมพีเรียล(Imperial Castle) อีกหนึ่งปราสาทที่มีชื่อเสียงของเมืองพอซนันที่ปัจจุบันถูกใช้เป็นห้องฉายภาพยนตร์ และหอศิลป์

Poznan

Poznan

Poznan

 

3. เมืองวรอตสวัฟ(Wroclaw)

Wroclaw

เมืองวรอตสวัฟ(Wroclaw) นับเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยความหลากหลายของวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ มีแม่น้ำหลายสายไหลผ่านและด้วยเหตุนี้กระมังภายในเมืองจึงมีสะพานข้ามแม่น้ำอยู่มากมายว่ากันว่ามีเป็นหลักร้อยเลยทีเดียวจนได้รับการขนานนามว่าเป็น 'เมืองแห่งสะพาน' (The City of Bridges) เมืองนี้มีความใหญ่เป็นอันดับที่ 4 ของโปแลนด์ สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญๆก็จะอยู่ในเขตเมืองเก่า และใจกลางเมืองที่มีทั้งโบสถ์ พิพิธภัณฑ์ วิหาร และสถาปัตยกรรมที่สวยงามและคลาสสิค ภายในเมืองนักท่องเที่ยวยังได้เพลิดเพลินกับรูปหล่อของคนแคระที่กระจายอยู่ทั่วเมืองว่ากันว่ารูปหล่อคนแคระเหล่านี้ทำขึ้นมาเพื่อระลึกถึงขบวนการเคลื่อนไหวต่อต้านคอมมิวนิสต์ที่ใช้ภาพคนแคระเป็นสัญลักษณ์ของการต่อต้านนั่นเอง อีกหนึ่งสถานที่ต้องห้ามพลาดในเมืองนี้ก็คือ มหาวิทยาลัยวรอตสวัฟ(University Of Wroclaw) มหาวิทยาลัยชื่อดังที่มีความเก่าแก่ และผลิตบุคลากรชั้นนำของโลก เมืองนี้แม้จะไม่ใช่เมืองหลักของนักท่องเที่ยวแต่หากมีเวลาก็ควรมาเยือนสักครั้ง

Wroclaw

Wroclaw

 

4. เมืองลับบลิน(Lublin) 

เมืองลับบลิน(Lublin) เมืองทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศโปแลนด์ที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่ 9 ของประเทศ นับเป็นเมืองหนึ่งในศูนย์กลางที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ของโปแลนด์ สถานที่ท่องเที่ยวของเมืองนี้ เช่น ย่านเมืองเก่า(Lublin Old Town), Krakow Gate, โบสถ์ทรินิตี้อันศักดิ์สิทธิ์(Holy Trinity Chapel), ปราสาทลับบลิน(Lublin Castle) เป็นต้น

Lublin

 

5. เมืองคราคูฟ(Krakow) 

เมืองคราคูฟ(Krakow) กรากุฟ หรือคราเคา(Cracow) อดีตเมืองหลวงและเป็นเมืองที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสองของโปแลนด์ เป็นเมืองที่มีความเก่าแก่และนับเป็นเมืองจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวที่มาเยือนโปแลนด์เพราะที่นี่นอกจากมีเขตเมืองเก่าที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกแล้วก็ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวดังๆมากมายอย่างค่ายกักกันเอาสช์วิตช์(Auschwitz Birkenau) ความโหดร้ายที่ยากจะลืมทางประวัติศาสตร์ของประเทศนี้ ป้าย ARBEIT MACHT FREI  เหนือประตูทางผ่านที่นักท่องเที่ยวต้องเห็น และเป็นป้ายแห่งความหวังของนักโทษในสมัยนั้นที่ต้องทำงานหนักเพียงเพื่อหวังอิสรภาพที่ไม่มีอยู่จริง 

ค่ายกักกันเอาชวิตซ์(Auschwitz Birkenau) ตั้งอยู่ทางใต้ของโปแลนด์ที่นี่ถูกยึดครองโดยนาซีเยอรมันเป็นที่กักกันและสังหารหมู่ผู้บริสุทธิ์จำนวนมากทั้งชาวยิว และผู้ที่ต่อต้านเยอรมัน เอาชวิตซ์เป็นหนึ่งในค่ายกักกันที่กระจายอยู่ทั่วไปในทวีปยุโรปกว่า 1.5 หมื่นแห่ง และนับเป็นค่ายกักกันที่ใหญ่ที่สุดของนาซี 

Auschwitz

ภาพกองรองเท้าจำนวนมากของผู้เสียชีวิต

Auschwitz

  

เหมืองเกลือ (Wieliczka Royal Salt Mine)

ในเมืองคราคูฟ(Krakow) นอกจากค่ายกักกันเอาชวิตซ์(Auschwitz Birkenau) แล้ว เหมืองเกลือ (Wieliczka Royal Salt Mine) ก็เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังของเมืองนี้ เหมืองเกลือเก่าแก่และมีชื่อเสียงมากๆของโปแลนด์ตั้งอยู่ที่เมือง Wieliczka ทางตอนใต้ของประเทศ ในอดีตเกลือเป็นสิ่งที่มีค่าและเป็นสินค้าที่สำคัญของโปแลนด์ ที่นี่ได้ทำการผลิตเกลือมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 13 ในภายหลังจึงได้ยกเลิกด้วยเกลือมีราคาตกต่ำ และเกิดเหตุน้ำท่วมเหมือง เหมืองเกลือแห่งนี้ไม่ได้มีภาพจำแค่เป็นแหล่งผลิตเกลือแต่ที่นี่เคยเป็นความมั่งคั่ง และความภาคภูมิใจของประเทศ ความเก่าแก่กว่า 700 ปี ทำให้นักท่องเที่ยวอย่างเราๆอดไม่ได้ที่จะต้องเข้าไปเยี่ยมชม นักท่องเที่ยวที่ไม่ได้เดินทางไปกับทัวร์การจะเข้าไปด้านในนั้นไม่สามารถเดินเข้าไปเองได้แต่จะต้องติดต่อไกด์ของสถานที่พาเยี่ยมชม อาจเพราะที่นั่นใหญ่มากเพราะมีจำนวนชั้นมากถึง 9 ชั้น ถ้าเดินครบก็หมดแรงกันเลยทีเดียว ยังดีที่มีลิฟท์ช่วยผ่อนแรงได้มากมาย ภายในก็จะจัดแสดงสิ่งต่างๆที่เกี่ยวข้องกับเหมืองเกลือนี่แหละมีผลึกของเกลือให้เราเห็นตลอดเส้นทาง จัดแสดงรูปจำลองต่างๆที่ทำมาจากเกลือ เป็นต้น ซึ่งทั้งหมดนี้หากมีโอกาสได้เข้าไปสัมผัสจะรู้สึกได้ว่ามันยิ่งใหญ่จริงๆ การเข้าไปเที่ยวด้านในไม่ต้องกังวลใจว่าจะรู้สึกอึดอัดหรือหายใจไม่ออกนะคะเดินได้แบบสบายๆไม่อึดอัดแต่อย่างใด ที่นี่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกเมื่อปี 1978 เป็นอีกหนึ่งสถานที่ต้องห้ามพลาดของเมืองนี้ รู้จักเหมืองเกลือWieliczka Royal Salt Mine ให้มากขึ้นคลิกอ่าน

 

โบสถ์เซนต์แมรี่(St. Mary Church)

โบสถ์เซนต์แมรี่อีกหนึ่งสถานที่ชื่อดังของคราคูฟ โบสถ์สวยแห่งนี้สร้างขึ้นในคริสต์ศตวรรษที่ 14 เป็นสถาปัตยกรรมแบบโกธิค จุดเด่นของที่นี่คือภายในโบสถ์มีแท่นบูชาสูง 13 เมตร  ลวดลายถูกแกะสลักสวยงามเป็นตํานานในพระคัมภีร์ไบเบิล บรรยากาศบริเวณโบสถ์ก็น่าเดินเล่น หรือนั่งพักกายคลายเหนื่อย

โบสถ์เซนต์แมรี่(St. Mary Church)

St.Mary Church

 

มหาวิหารวาเวล(Wawel Cathedral)

มหาวิหารวาเวล เป็นอีกหนึ่งสถานที่ต้องห้ามพลาดเมื่อมาถึงเมืองคราคูฟ(Krakow) มหาวิหารเก่าแก่แห่งนี้ตั้งอยู่บนเนินเขาวาเวล  ที่นี่เคยใช้เป็นสถานที่ประกอบพิธีราชาภิเษกของกษัตริย์ทุกพระองค์ และยังเป็นที่ฝังพระศพของกษัตริย์ ศพของขุนนาง ผู้นําทางศาสนา ตลอดจนวีรบุรุษที่มีชื่อเสียงของประเทศอีกด้วย

Wawel Cathedral

 

ปราสาทวาเวล(Wawel Royal Castle)

ไม่ไกลจากมหาวิหารวาเวลนักท่องเที่ยวจะได้พบกับปราสาทวาเวล(Wawel Royal Castle) ปราสาทที่มีความงดงามไม่แพ้ปราสาทใดในยุโรป ในอดีตปราสาทวาเวลเคยเป็นพระราชวังหลวง และเป็นที่ประทับของกษัตริย์โปแลนด์ จนกระทั่งมีการย้ายเมืองหลวงไปอยู่ที่กรุงวอร์ซอ ปัจจุบันที่นี่เป็นพิพิธภัณฑ์จัดเก็บรวบรวมสิ่งของล้ำค่าไว้มากมาย เช่น ผ้าปักทาเปสตรี้จากประเทศเบลเยี่ยม

Wawel Royal Castle

Wawel Royal Castle

Wawel Royal Castle

 

แผนที่มหาวิหารวาเวล(Wawel Cathedral) และปราสาทวาเวล(Wawel Royal Castle) wawel map

 

นอกจากนี้ที่เมืองคราคูฟ(Krakow) ก็ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆอีก เช่น โบสถ์เซนต์กิงก้า(Chappel of St.Kinga) และตลาดนัดรีเน็คโกลนี่ (Market Square) อีกด้วย

 

6. เมืองวอร์ซอ(Warsaw)

วอร์ซอตั้งอยู่ริมแม่น้ำวิสทูลา(Vistula River) ที่นี่คือเมืองหลวงและเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของโปแลนด์ เป็นศูนย์กลางทางด้านการศึกษา และเป็นศูนย์กลางของอุตสาหกรรมหนักต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเหล็กกล้า รถยนต์ เครื่องจักรอุตสาหกรรม เราเชื่อว่าหลายๆท่านคุ้นหู และรู้จักกรุงวอร์ซอจากสนธิสัญญาวอร์ซอ(Warsaw Pact) หรือวอร์แพ็ก(WarPac)  เป็นแน่ 

Warsaw

 

วอร์ซอเป็นอีกหนึ่งในหลายๆเมืองของโปแลนด์ที่ต้องห้ามพลาด เพราะเมืองนี้มีสถานที่ให้เราเดินเที่ยวได้ไม่แพ้เมืองไหนๆ ไม่ว่าจะเป็น พระราชวังลาเซียนสกี้(Lazienki Palace) ที่มีสวนสวยขนาดใหญ่เตะตานักท่องเที่ยวยิ่งนัก พระราชวังลาเซียนสกี้ยังมีความสำคัญในความทรงจำของคนไทยเพราะเคยเป็นที่ประทับของ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว  เมื่อครั้งเสด็จประพาสวอร์ซอ เมื่อปี ค.ศ. 1897 อีกด้วย 

 

พระราชวังวิลานอฟ(Wilanow Palace) พระราชวังที่มีตัวตึกสีเหลือง ตั้งอยู่ห่างจากตัวเมืองไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ไม่ไกลนัก แรกเริ่มถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ประทับของกษัตริย์จอห์นที่ 3 โซบีสกีแห่งโปแลนด์(King John Iii Sobieski) จากนั้นเพียงไม่นานก็ถูกขายทอดต่อ และผลัดเปลี่ยนมือไปหลายทอดจนกระทั่งถูกทําลายลงจากยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 จากนั้นได้มีการบูรณะขึ้นมาใหม่ และเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์แห่งชาติตั้งแต่ปี ค.ศ.1962

 

และหากมาถึงเมืองหลวงแห่งนี้คงไม่มีนักท่องเที่ยวคนไหนที่จะไม่แวะมาย่านนี้ ย่านใจกลางเมืองเก่า(Old Town) นับเป็นจุดศูนย์รวมการท่องเที่ยวของเมืองวอร์ซอเลยทีเดียว ในย่านเมืองเก่ามีสถานที่ให้เดินเที่ยวชมไม่ว่าจะเป็น

Warsaw

พระราชวังหลวง(Royal Castle) ถูกสร้างขึ้นเมื่อครั้งที่ย้ายเมืองหลวงมาอยู่ที่วอร์ซอภายในพระราชวังมีการตกแต่งไว้อย่างสวยงามหรูหรา ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 พระราชวังแห่งนี้ได้ถูกทำลายลงไปหลายส่วนและได้มีการบูรณะขึ้นมาใหม่

Royal Castle

วิหารเซนต์จอห์น(St.John's Cathedral) วิหารเก่าแก่ที่สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 14 ศูนย์รวมจิตใจของชาววอร์ซอ วิหารแห่งนี้ตั้งอยู่ในเขตเมืองเก่าคอยต้อนรับนักท่องเที่ยวอยู่ตลอดเวลา

 

บริเวณย่าน Old Town นี้  นักท่องเที่ยวจะได้เพลิดเพลินกับบ้านเรือนสีสันสไตล์ยุโรปตะวันออก มีร้านค้า ร้านขายของที่ระลึกให้ขากิน ขาช้อปได้เพลิดเพลินไม่มีเบื่อกันเลย

old town warsaw

ในบริเวณกลางจัตุรัสย่านเมืองเก่า Old Town Square หรือ Rynek Town Hall Square เราจะพบเห็นสัญลักษณ์ประจำเมืองเป็นรูปปั้นนางเงือกมือซ้ายถือโล่มือขวาถือดาบตั้งตระหง่าน มีเรื่องเล่าเกี่ยวกับรูปปั้นนี้ว่า ครั้งหนึ่งนางเงือกได้ถูกจับตัวไว้แล้วมีชายหนุ่มมาช่วยเหลือจากนั้นนางเงือกจึงได้ตอบแทนโดยสัญญาว่าจะดูแลปกป้องรักษาเมืองวอร์ซอนี้ไปตลอด

รูปปั้นนางเงือกวอร์ซอ

 

ป้อมวอร์ซอ(Warsaw Barbican) ตั้งอยู่ระหว่างเขตเมืองเก่าและเมืองใหม่ ป้อมปราการแห่งนี้ถูกล้อมรอบด้วยกำแพงเมือง ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ป้อมวอร์ซอของเดิมได้ถูกทำลายลงไป  และได้มีการบูรณะขึ้นมาใหม่

Warsaw Barbican

Warsaw Barbican

 

7. เมืองโทรุน (Torun) 

TORUN-POLAND

เมืองโทรุน(Torun)  ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของโปแลนด์ตั้งอยู่ฝั่งแม่น้ำวิสวา(Wisla) หรือ แม่น้ำวิสตูลา(Vistula) เป็นแม่น้ำสายที่ยาว และมีความสำคัญที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศโปแลนด์   เมืองโทรุน เป็นเมืองเก่าแก่ในยุคกลาง เป็นศูนย์กลางการค้าและวัฒนธรรม  ตัวเมืองประกอบด้วยอาคารสไตล์โกธิคอันงดงาม ศาลาว่ากลางที่เก่าแก่ อนุสาวรีย์ สถาปัตยกรรมเก่าแก่ ที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้ได้เป็นอย่างดีเยี่ยม จนได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากยูเนสโก(UNESCO) หรือองค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ

8. เมืองซาโกปาเน(Zakopane)

ZAKOPANE-poland-FREEBIRDTOUR

เมืองซาโกปาเน(Zakopane)  เป็นเมืองที่มีทัศนียภาพงดงามโอบล้อมด้วยเทือกเขาทาทรา(Tatra Mountains) เทือกเขาที่ตั้งอยู่บนพรมแดนของโปแลนด์ และสโลวาเกีย ซึ่งมีหิมะปกคลุมตลอดทั้งปี เนื่องด้วยมีความงดงามทางธรรมชาติ จึงเป็นเมืองศูนย์กลางการแข่งขันกีฬาฤดูหนาว  ซาโกปาเน เป็นเมืองที่สามารถท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี ไม่ว่าจะเป็นฤดูร้อน ฤดูใบไม้ร่วง และฤดูหนาว 

โปแลนด์ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอีกมากมายในหลายเมือง และแม้สถานที่ท่องเที่ยวหลายๆแห่งจะถูกสร้างและบูรณะขึ้นมาใหม่หลังจากถูกทำลายไปในสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่ก็ไม่ได้ทำให้ความสนุกในการท่องเที่ยวประเทศนี้ลดน้อยลงเพราะเราเชื่อว่าการท่องเที่ยวผ่านเรื่องราวของประวัติศาสตร์มันช่วยเติมเต็มให้ทุกอย่างดูสมบูรณ์ และเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของการเดินทาง


 


 

 - หากบทความนี้ดีต่อใจ ชวนคนที่คุณรักมาเที่ยวกับฟรีเบิร์ดทัวร์กันค่ะ -   

สนใจโปรแกรมทัวร์โปแลนด์คลิกที่นี่ 

 

คุยกับครอบครัวฟรีเบิร์ดทัวร์

โทร.02-0488-785-7 Hotline 085-151-1000 , 094-782-6888 และ 093-570-3000

    instagramfreebirdtour  twitter freebirdtour  Youtube freebirdtour    

 

         

 

Visitors: 463,264