รู้จักเกาะคิวชู(Kyushu) ผ่าน 8 เมืองไฮไลท์

         

kyushu

 

 

วันนี้ฟรีเบิร์ดทัวร์พาออกเดินทางไปทางตอนใต้สุดของประเทศญี่ปุ่น เกาะคิวชู และโอกินาว่า เมืองแห่งธรรมชาติ ทะเล ภูเขา น้ำพุร้อน และเมืองประวัติศาสตร์อันเก่าแก่ ภูมิภาคนี้จะเป็นเขตที่มีอากาศอบอุ่นกว่าภูมิภาคอื่น ๆ ประชากรไม่ค่อยหนาแน่น และส่วนใหญ่จะยังคงเน้นการท่องเที่ยวแบบธรรมชาติยังไม่ค่อยมีความเป็นเมืองมากนัก แต่ความสวยงามของแต่ละสถานที่ท่องเที่ยวไม่เป็นรองเกาะอื่นๆ ในญี่ปุ่นแน่นอน


เกาะคิวชู(Kyushu) มีอะไรน่าเที่ยวบ้าง
เกาะคิวชู(Kyushu) เป็นเกาะที่อยู่ทางตอนใต้สุดของญี่ปุ่น พื้นที่ของเกาะใหญ่เป็นอันดับ 3 เกาะนี้จะมีเพียงแค่ 7 จังหวัด ได้แก่จังหวัดฟุกุโอกะ นางาซากิ คุมะโมโตะ โออิตะ ซากะ คะโงะชิมะ และมิยะซะกิ บางท่านอาจจะเคยได้ยินเมืองซากะกันมาบ้างเพราะมีหนังไทยหลายเรื่องได้ไปถ่ายที่ซากะเพราะวิวธรรมชาติที่สวยงามมากจริงๆ ถึงตอนนี้ไม่รอช้าแล้วเราไปตะลุยเที่ยวดินแดนเกาะคิวชูกันดีกว่า


1. ฟุกุโอกะ(Fukuoka)

เป็นจังหวัดที่มีพื้นที่มากที่สุดในเกาะคิวชู เราสามารถนั่งเครื่องบินตรงลงที่สนามบินฟูกุโอกะได้เลยสะดวกสบายมาก สถานที่ท่องเที่ยวที่แรกที่จะพาไปคือ

 

ฟุกุโอกะ ทาวเวอร์(Fukuoka Tower) แลนด์มาร์คของเมืองนี้ หากขึ้นไปด้านบนสุดของตึกเราจะมองเห็นวิวทั้งตัวเมืองและอ่าวฮากาตะ ตอนกลางคืนที่ตึกจะเปิดไฟสวยมาก 

fukuoka tower

ภาพโดย txema  จาก pixabay

 

ศาลเจ้าเทนมากุ(Tenmangu Shrine) อยู่ที่เมืองดาไซฟุ นักท่องเที่ยวและชาวญี่ปุ่นนิยมมาขอพรสักการะ เทพเท็นจิน หรือ เทพเจ้าแห่งการเรียนรู้ เพื่อให้ประสบความสำเร็จในการเรียนและสอบผ่านตามที่หวังไว้ สองข้างทางเดินไปศาลเจ้าที่นี่จะมีร้านขายของเรียงรายเป็นแถวลองไปแวะซื้อขนมโมจิย่างไส้ถั่วแดงสดใหม่เพิ่งย่างออกมาจากเตาร้อนๆกันนะคะ

Tenmangu Shrine

 ภาพโดย Theerapol Boonnan จาก Pixabay

 

 

แหล่งช้อปปิ้งย่านเท็นจิน(Tenjin ward) เป็นศูนย์รวมสินค้าแหล่งช้อปปิ้งห้างสรรพสินค้าที่ใหญ่ที่สุดในเกาะคิวชูรวบรวมสินค้าต่างๆเหมือนในเมืองใหญ่อย่างโตเกียวหรือโอซาก้า

 

 

2. นางาซากิ(Nagasaki)

เมืองประวัติศาสตร์อีกเมืองหนึ่งเป็นเมืองที่โดนระเบิดนิวเคลียร์เมื่อสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 (เมืองแรกที่โดนระเบิดคือฮิโรชิม่า เกาะฮอนชู) ดังนั้นเมืองนี้ก็จะมีสถานที่ที่เกี่ยวกับประวัติศาสตร์อันเก่าแก่ สถานที่แรกที่จะไปคือ

 ภาพโดย I M จาก Pixabay

 

 

สวนสันติภาพนางาซากิ(Nagasaki Peace Park) เป็นสวนที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อระลึกถึงผู้ที่เสียชีวิต และสูญเสียกับสงครามในสมัยนั้น สร้างเพื่อเป็นการเรียกร้องให้เกิดสันติภาพความสงบสุขของโลก ในสวนจะมีรูปปั้นต่างๆมากมาย รูปปั้นที่นับเป็นเอกลักษณ์ของที่นี่คือรูปปั้นผู้ชายมือขวาชี้ขึ้นฟ้าและแขนซ้ายกางออกเป็นแนวระนาบความหมายของรูปปั้นนี้คือเป็นการเรียกร้องให้เกิดสันติภาพไม่ก่อสงครามไม่มีการทิ้งระเบิดนิวเคลียร์ที่เมืองใดในโลกใบนี้อีก

Nagasaki Peace Park

 

นางาซากิไชน่าทาวน์(Nagasaki Chinatown) เป็นไชน่าทาวน์ที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่น ที่นี่ยังคงเอกลักษณ์วัฒนธรรมของชาวจีนที่เข้ามาค้าขายกับญี่ปุ่นสมัยก่อนมากที่สุด

nagasagi

ภาพโดย Lillakanarie จาก flickr

  

เฮาส์เทนบอช(Huis Ten Bosch) เป็นสวนสนุกที่สร้างโดยจำลองหมู่บ้านในประเทศฮอลแลนด์ที่นี่จึงมีกลิ่นอายและบรรยากาศเหมือนฮอลแลนด์ สวนสนุกแห่งนี้มีชื่อเสียงระดับโลก ส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวนิยมมาชมทุ่งดอกทิวลิปที่มีมากกว่า 300,000 ต้น ทิวลิปเหล่านี้บานในฤดูใบไม้ผลิ และที่นี่ยังมีดอกไม้ตามฤดูกาลอีกด้วย อีกไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาดคือการชม Waterfall of Light การประดับไฟทั่วทั้งบริเวณสวนสนุกสวยงามเกินคำบรรยาย

huis ten fukuoka japan

Huis Ten Bosch

 ภาพโดย Intercastlefilms จาก pixabay

 

 

3. คุมาโมโตะ(Kumamoto)

คุมาโมโตะ บ้านเกิดเจ้าการ์ตูนหมีคุมะมง หมีตัวสีดำแก้มแดงๆ ที่เมืองนี้มีชื่อเสียงเรื่องออนเซ็นธรรมชาติที่เก่าแก่นับร้อยปี แถมเมืองยังย้อนยุคหน่อยๆทุกอย่างยังคงเป็นเอกลักษณ์ดั้งเดิม ที่นี่ไม่ค่อยมีสิ่งปลูกสร้างที่เป็นตึกใหม่เท่าใดนัก เหมาะสำหรับคนที่รักธรรมชาติจริงๆ ที่เที่ยวของเมืองนี้มี

 

ปราสาทคุมาโมโตะ(Kumamoto Castle) หรือ ปราสาทกิงโกะ ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของปราสาททั้งหมดในญี่ปุ่น เป็นปราสาทที่มีความใหญ่โต สวยงามโอ่อ่าอลังการ ปราสาทแห่งนี้เคยใช้เป็นป้อมปราการป้องกันกองทัพข้าศึกสมัยก่อน ปัจจุบันที่นี่กลายเป็นสัญลักษณ์ของเมืองคุมาโมโตะ มีนักท่องเที่ยวนิยมไปเที่ยวปีละหลายแสนคน

kumamoto castle
ภาพโดย 
ioa8320 จาก pixabay

 

สวนซุยเซ็นจิ โจจุเอ็ง(Suizen-ji Joju-en Garden) เป็นสวนที่จำลองภูมิทัศน์วิวธรรมชาติเก่าโบราณในสมัยเอโดะเมื่อ 400 กว่าปีก่อน ที่นี่เหมาะแก่การไปชมวิวทุ่งหญ้าสีเขียวที่เป็นเนินเขาสลับกับพื้นราบ มีบ่อน้ำใสมองเห็นฝูงปลาคราฟ ลองไปเดินเล่นนั่งจิบชาพักผ่อนหย่อนใจกันค่ะ

suizenji jojuen garden

 

 

คุโรคาวะ ออนเซ็น(KUROKAWA ONSEN) เมืองออนเซ็นที่มีชื่อเสียงอันดับต้นๆของญี่ปุ่น ออนเซ็นที่นี่มีเสน่ห์ตรงที่ยังคงอนุรักษ์ความเป็นบ้านเมืองโบราณเก่าๆ โรงแรมที่นี่ยังคงเป็นโรงแรมแบบเรียวกังดังเดิม ทั้งเมืองจะมีโรงอาบน้ำแช่ออนเซ็นเยอะมาก นักท่องเที่ยวนิยมไปแช่ออนเซ็นพร้อมดื่มด่ำบรรยากาศกับวิวธรรมชาติที่งดงาม

kurokawa onsen

 

 

4. โออิตะ (Oita)

โออิตะจังหวัดเล็กๆในเมืองคิวชู เป็นเมืองที่จิ๋วแต่แจ๋วโดยแท้ เมืองที่ครบเครื่องเรื่องของธรรมชาติสรรสร้าง ที่นี่มีทั้งภูเขา น้ำตก ถ้ำหินปูนใต้น้ำ และมีบ่อน้ำพุร้อนมากที่สุดในญี่ปุ่นด้วย สถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตของเมือง เช่น

beppu

 

ยุฟุอิน(Yufuin) เมืองตากอากาศเล็กๆ ที่ถูกโอบรอบด้วยธรรมชาติ อยู่ติดกับทะเลสาบคินริน ในเมืองจะมีร้านค้า ร้านคาเฟ่น่ารักๆ เต็มสองข้างทาง เดินเข้ามาอีกนิดจะเจอกับหมู่บ้านยุฟุอินฟลอร์รัล(Yufuin Floral Village) ถือได้ว่าเป็นแลนด์มาร์คของที่นี่เพราะมีชื่อเสียงมากเพราะเป็นที่ท่องเที่ยวที่จำลองเมืองสไตล์ยุโรปโบราณ หมู่บ้านสร้างด้วยอิฐแบบคลาสสิคพร้อมตกแต่งดอกไม้ไว้หน้าบ้านแต่ละหลังรวมไปถึงบริเวณรอบๆ สวยงามน่ารักสไตล์ญี่ปุ่น

yufuin

ภาพโดย MikeWHK จาก Pixabay

 

Yufuin Floral Village

ภาพโดย RachelH จาก flickr


เบปปุ(Beppu) เมืองออนเซ็น และบ่อน้ำพุร้อนที่เยอะที่สุดในญี่ปุ่น มีชื่อเสียงเรื่องบ่อนรกน้ำพุร้อนทั้ง 8 แห่ง แต่ละบ่อจะมีจุดเด่นที่ต่างกันออกไปเช่นบางที่จะมีน้ำพุพุ่งออกมาจากโขดหิน บางบ่อจะมีสีแดง สีฟ้าใส และสีขาวขุ่น ทั้งนี้เกิดจากดินที่อยู่บริเวณบ่อน้ำร้อนแต่ละแห่งนั้นๆทำปฏิกิริยาให้บ่อน้ำพุมีสีสันที่แต่ต่างกัน

beppu

beppu oita japan

umi zigoku beppu oita japan

beppu japan 

 

5. ซากะ(Saga)

ซากะเมืองที่ถูกขนาบข้างด้วยทะเลมหาสมุทร ชาวเมืองที่นี่ส่วนใหญ่ทำอาชีพประมง และเกษตรกรรมจึงทำให้เมืองนี้เป็นเมืองที่อุดมสมบรูณ์เรื่องอาหารการกิน สถานที่ท่องเที่ยวที่แรกเราขอพาไป

ศาลเจ้ายุโทะคุอินาริคุ(Yutoku Inari Shrine) 1 ใน 3 ศาลเจ้าอินาริที่สำคัญและใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นมีอายุนานนับร้อยปี ชาวญี่ปุ่นและนักท่องเที่ยวนิยมมาไหว้ขอพรจากเทพเจ้า ณ ที่ศาลนี้ ในเรื่องของธุรกิจการค้า การเกษตรเก็บเกี่ยวพืชผลต่างๆ ให้ประสบความสำเร็จ

yutoku inari shrine

 

 

ปราสาทซากะ(Saga Castle) เป็นปราสาทชั้นเดียวที่ไม่ได้ใหญ่โตเหมือนปราสาทอื่นๆ แต่ปราสาทนี้มีความพิเศษคือเป็นปราสาทไม้ที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น

saga castle

 

 

สวนมิฟุเนะ ยามะ ระคุเอ็น(Mifune Yama Rakuen) สวนต้นไม้ดอกไม้กลางแจ้งที่ถูกรายล้อมด้วยภูเขา ไม้ดอกนานาพรรณที่ถูกนำมาปลูกประดับประดาไว้ ณ สวนแห่งนี้ การตกแต่งที่งดงามราวกับภาพวาดต้องไปเห็นกับตาสักครั้งในชีวิต

mifuneyamarakuen

 

 

อุทยานประวัติศาสตร์โยชิโนะการิ(Yoshinogari Historical Park) เป็นแหล่งเรียนรู้ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรมต้นกำเนิดของญี่ปุ่นสมัยยุคยาโยอิ ที่นี่จะเปิดให้นักท่องเที่ยวที่สนใจเข้าไปศึกษาวิถีชีวิต การสร้างบ้าน และการสร้างป้อมปราการแบบสมัยก่อน


yoshinogari historical park

 

 

6. คะโงะชิมะ(Kagoshima)

คะโงะชิมะ อยู่ใต้สุดของเกาะคิวชู เมืองติดแม่น้ำ มหาสมุทร จังหวัดนี้มีเกาะเล็กเกาะน้อยมากถึง 30 เกาะ พื้นที่ส่วนใหญ่จะตั้งอยู่บริเวณภูเขาไฟซึ่งเป็นภูเขาไฟที่ยังไม่ดับสนิทพร้อมจะปะทุขึ้นมาเมื่อไหร่ก็ได้  สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม 

kagoshima

หมู่บ้านซามูไรเมืองชิรัน(Chiran Samurai Residence) เมื่อก่อนสมัยเอโดะซามูไรจะมาอาศัยสร้างบ้านอยู่นอกปราสาทบริเวณนี้ โดยบ้านแต่ละหลังจะมีรั้วกำแพงและสวนส่วนตัว ซึ่งปัจจุบันที่นี่ก็ยังคงอนุรักษ์ความดั้งเดิมของหมู่บ้านแห่งนี้เอาไว้



ภูเขาไฟ ไคมง ดาเคะ(Kaimondake) หรือ “ฟูจิซังแห่งคิวชู” เพราะว่ารูปทรงของภูเขาไฟแห่งนี้มีลักษณะคล้ายกับภูเขาไฟฟูจิที่โตเกียวนั่นเอง เราสามารถเดินขึ้นเขาไปชมวิวบนยอดเขาสูงสุดได้(เดินขึ้นภูเขาไฟแห่งนี้ใช้เวลาอย่างน้อยประมาณ 3 ชั่วโมง)

Kaimondake

 

พลาดไม่ได้เมื่อมาเมืองแห่งภูเขาไฟ คือ การอบทรายร้อน ซุนะมุชิ ที่มีมานานกว่า 300 ปี สำหรับชาวญี่ปุ่นการนอนอบทรายร้อนจะช่วยในเรื่องของการรักษาอาการปวดเมื่อยตามร่างกาย  ช่วยเรื่องความงามมีผิวพรรณที่ดี เพราะทรายจะมีความร้อนสามารถช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดในร่างกาย 

hot sand kagoshima

 

 

7. มิยะซะกิ (Miyazaki)

เมืองสุดท้ายที่อยู่ใต้สุดเกาะคิวชู หนีไม่พ้นความงามธรรมชาติ ติดทะเล และเทือกเขา และภูเขาไฟที่ยังไม่ดับสนิท จังหวัดนี้เราอาจจะไม่ค่อยได้ยินชื่อมากนักแต่ที่นี่ก็มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจรอให้เราได้ไปสัมผัสอยู่

miyazaki

moai statue miyazaki

สวนสันติภาพเฮวะได(Heiwadai Peace Park) สวนสาธารณะธรรมชาติที่มีความเขียวขจีของต้นไม้ มีจุดเด่นคือหอคอยแห่งสันติภาพเฮวะโนะโต และรูปปั้นตุ๊กตาดินเผาญี่ปุ่นโบราณ รูปทรงแปลกตาไม่เหมือนที่ไหน

heiwadai_peace_park
ภาพโดย Sek keung lo จาก flickr

 

เอบิโนะ โคเกน(Ebino Kogen) เป็นอุทยานที่เปิดเป็นแห่งแรกๆของญี่ปุ่น ที่นี่เป็นที่ชื่นชอบสำหรับผู้ที่ชอบการผจญภัยในการปืนเขา นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะนิยมมาเดินขึ้นเขาไปชมวิวทะเลสาบบนปากปล่องภูเขาไฟคิริชิมะ 

Ebino Kogen

 

8. โอกินาว่า (Okinawa)

โอกินาว่าเป็นจังหวัดที่อยู่ใต้สุดของประเทศญี่ปุ่น เป็นจังหวัดที่อยู่ใกล้กับประเทศไต้หวันและใกล้กับประเทศไทยที่สุดเมืองเทียบกับเกาะอื่นๆในญี่ปุ่น เมื่อพูดถึงจังหวัดโอกินาว่าสิ่งแรกที่เราจะนึกถึงคือหาดทรายขาวและน้ำทะเลใสสีฟ้านักท่องเที่ยวนิยมไปเที่ยวชาดหาดต่างๆเพื่อพักผ่อนหย่อนใจกันเยอะมาก นอกเหนือจากชายหาดสวยแล้วที่นี่ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ

พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำชูราอุมิ(Okinawa Churaumi Aquarium) เป็นพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่มีตู้ปลาที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น มีทะเลจำลองชื่อคุโรชิโอะไว้โชว์ปลาฉลามวาฬยักษ์ และสัตว์หลากหลายชนิดที่อาศัยอยู่ในทะเลแถบโอกินาว่านี้

okinawa_churaumi aquarium

ภาพโดย yuka71 จาก Pixabay 

 

 

เกาะมิยาโกะจิมะ (Miyakojima) ได้รับโหวตให้เป็นหาดน้ำใสสวยที่สุดในเอเชียตะวันออก เป็นเกาะที่ไม่มีการปล่อยน้ำเสียลงทะเลเลย จึงทำให้หาดทรายที่นี่ขาวสะอาดและน้ำใสแจ๋วตลอดกาล

miyakojima

 

 

หน้าผามันซาโมะ(Manzamo)  ตั้งอยู่หมู่บ้านออนนะ หน้าผารูปงวงช้างเป็นสัญลักษณ์ที่มีชื่อเสียงอีกอันหนึ่งของเกาะโอกินาว่า หน้าผานี้เกิดขึ้นเองโดยธรรมชาติถูกน้ำทะเลกัดเซาะจนกลายเป็นรูปงวงช้าง นักท่องเที่ยวนิยมไปชมพระอาทิตย์ตกทะเลเก็บภาพบรรยากาศอันงดงามไม่รู้ลืม

 

Manzamo

 ภาพโดย nadin kim จาก Pixabay

 

ไปเที่ยวเกาะคิวชู(Kyushu) เดือนไหนดี 

สภาพอากาศในคิวชู มี 4 ฤดู แต่ละฤดูมีสิ่งที่น่าสนใจท่องเที่ยวที่แตกต่างกันออกไป

1. ฤดูใบไม้ผลิ เริ่มเดือนมีนาคม – พฤษภาคม ช่วงนี้อากาศเย็นสบาย ๆ เป็นฤดูแห่งการท่องเที่ยว เกาะคิวชูจะเป็นภูมิภาคที่ดอกซากุระจะบานเร็วและหมดเร็วกว่าเกาะอื่นๆ ในญี่ปุ่น ดอกซากุระจะเริ่มบานตั้งแต่กลางเดือนมีนาคมถึงสิ้นเดือนเท่านั้น (ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศของแต่ละปี) มีอีกหนึ่งไฮไลท์ที่นักท่องเที่ยวนิยมไปคือช่วงที่ดอกวิสทีเรียบานที่สวนคาวาชิฟูจิ ตั้งอยู่ที่ฟุกุโอกะเป็นสถานที่ชมดอกอุโมงค์วิสทีเรียที่สวยงามที่สุด

2. ฤดูร้อน เริ่มเดือนมิถุนายน – สิงหาคม เป็นช่วงที่อากาศร้อน แดดแรง กลางวันจะยาวนานกว่ากลางคืน ภูมิภาคนี้อากาศร้อนชื้นเพราะพื้นที่เกาะทั้งหมดอยู่ติดกับทะเล นอกจากร้อนแล้วยังเป็นช่วงฤดูที่เจอฝนตกชุกอีกด้วย อุณหภูมิประมาณ 25-32 องศา ฤดูร้อนเป็นช่วงที่ชาวญี่ปุ่นจะจัดเทศกาลดอกไม้ไฟผู้คนจะออกเฉลิมฉลอง และมาชมพุลดอกไม้ไฟที่สวยงามอลังการ

3. ฤดูใบไม้ร่วง เริ่มเดือนกันยายน – พฤศจิกายน อากาศจะเริ่มเย็นขึ้น อุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 15-23 องศา ที่เกาะคิวชูใบไม้จะเริ่มเปลี่ยนสีช้ากว่าภูมิภาคอื่นจะเริ่มเปลี่ยนประมาณกลางเดือนพฤศจิกายนไปจนถึงสิ้นเดือน นักท่องเที่ยวนิยมไปเที่ยวฤดูนี้ เพราะอากาศกำลังดีและมีวิวใบไม้เปลี่ยนสีที่สวยงามเหมาะแก่การไปเก็บภาพบรรยากาศความประทับใจ

4. ฤดูหนาว เริ่มเดือนธันวาคม – กุมภาพันธ์ อากาศจะหนาวเย็น อุณหภูมิต่ำสุดจะอยู่ที่ 0 องศา ในเมืองที่นี่ส่วนใหญ่จะไม่ค่อยเจอหิมะตก หากจะเล่นหิมะต้องไปเมืองฟุจิ จังหวัดซากะที่ เทนซัน สกีรีสอร์ต เป็นลานสกีที่มีชื่อเสียงของภูมิภาคนี้ มีกิจกรรมกลางแจ้งให้เล่นมากมายผู้ที่สนใจเล่นสกีและสโนว์บอร์ดมาเล่นที่นี่ได้เลยจ้า

 

รู้จักเกาะคิวชูแล้วถ้ามีเวลาอย่าลืมแวะไป รู้จักเกาะฮอนชู(Honshu) ผ่าน 10 เมืองไฮไลท์ และ

รู้จักเกาะฮอกไกโด(Hokkaido) ผ่าน 10 จุดไฮไลท์ กันด้วยนะคะ

 

 

         

 

 

 


 

- หากบทความนี้ดีต่อใจ ชวนคนที่คุณรักมาเที่ยวกับฟรีเบิร์ดทัวร์กันค่ะ -   

สนใจโปรแกรมทัวร์ญี่ปุ่นคลิกที่นี่

 

คุยกับครอบครัวฟรีเบิร์ดทัวร์

โทร.02-0488-785-7 Hotline 085-151-1000 , 094-782-6888 และ 093-570-3000

    instagramfreebirdtour  twitter freebirdtour  Youtube freebirdtour     


Visitors: 468,628