บนโลกกลมๆใบนี้ยังมีสถานที่น่าทึ่ง น่าตะลึงงันอยู่มากมาย มีทั้งที่เป็นแบบมนุษย์สร้างขึ้นด้วยภูมิปัญญา และเป็นสิ่งที่ธรรมชาติรังสรร เป็นความสวยงามอันเกิดจากลม ฟ้า ฝน ที่ก่อกำเนิดอย่างยาวนานสิ่งหนึ่งนั่นก็คือ “หิน”

วันนี้ ฟรีเบิร์ด ทราเวิล แอนด์ ทัวร์ จะมาพูดถึงหินที่กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวทั่วโลกให้มาเยือน หินเหล่านี้อยู่มุมไหนของโลกบ้างตามฟรีเบิร์ดทัวร์ ไปตะลึงตึงๆกับโลกแห่งหินกัน

โมอาย แห่งเกาะอีสเตอร์(Moai Easter Islands) ประเทศชิลี

โมอาย รูปปั้นหินหน้าตาแปลกๆที่เรามักคุ้นชินตามที่ต่างๆ มีต้นแบบมาจากรูปปั้นหินแห่งเกาะอีสเตอร์ แห่งประเทศชิลีนี่เอง ซึ่งที่มา เหตุผลการสร้าง และการมีอยู่ของรูปปั้นเหล่านี้ยังเป็นปริศนาจนถึงทุกวันนี้ แต่ว่ากันว่าโมอายถูกสร้างขึ้นโดยชาวโพลีนีเซียน (Polynesian) ที่เข้ามาปกครองเกาะแห่งนี้ เมื่อปี ค.ศ.1250 เพื่อเป็นตัวแทนของบรรพบุรุษผู้ล่วงลับไปแล้ว หรืออาจจะเป็นตัวแทนของบุคคลสำคัญในยุคนั้น พวกเขามีความเชื่อกันว่ารูปปั้นโมอายจะช่วยดูแลจิตวิญญาณของหัวหน้าเผ่า และหัวหน้าครอบครัวเอาไว้ได้ โมอาย ความฉงนบนเกาะอีสเตอร์

แอนทีโลป(Antelope Canyon) ประเทศสหรัฐอเมริกา

แอนทิโลป เป็นหนึ่งในพื้นที่ของอุทยาน Navajo ขึ้นชื่อว่าเป็นหุบเขาที่สวยที่สุด อันซีนที่สุด และก็อันตรายที่สุดเช่นกัน ด้วยความที่เป็นพื้นที่หินปนทราย จึงต้องใช้ความระมัดระวังเป็นอย่างมากในการเยี่ยมชม และไม่ใช่ว่าอยู่ๆเราจะเข้าไปเที่ยวชมได้เลย แต่จะต้องขออนุญาตจากอุทยาน ทางอุทยานก็จะจัดคนนำชมให้โดยจำกัดจำนวนคนต่อการเข้าชมแต่ละครั้งอีกด้วย ทั้งนี้ก็เพื่อความปลอดภัย

ความแปลกตาของแอนทิโลปเป็นที่หมายตาของช่างภาพน้อยใหญ่ที่ไปเก็บภาพความสวยของแสงที่สะท้อนและตกกระทบมุมหินต่างๆนั่นเอง หากคุณมีแพลนไปเที่ยวทางอเมริกาตะวันตก แอนทีโลป เป็นสถานที่ต้องห้ามพลาด

ปิรามิด หรือพีระมิดแห่งเม็กซิโก(Pyramid of Mexico)

ปิรามิด ไม่ได้มีอยู่ที่ประเทศอียิปต์อย่างเดียวเท่านั้นแต่อารยธรรมโบราณของชาวอเมริกาพื้นเมืองก็มีเช่นกัน ในประเทศอียิปต์ปิรามิดจะมียอดแหลมด้านนอกปิดเรียบใช้เป็นสุสานของกษัตริย์ แต่ปิรามิดที่เม็กซิโกจะเป็นปิรามิดขั้นบันได ยอดด้านบนจะเป็นลานไม่แหลม และสร้างไว้เพื่อทำพิธีศักดิ์สิทธิ์ ปิรามิดในเม็กซิโกบางแห่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก และยังได้รับการโหวตให้เป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคใหม่เมื่อปี 2007 อีกด้วย ไปรู้จักกับ ปิระมิดแห่งเม็กซิโก รากอารยธรรมอันน่าพิศวงของชนเผ่ามายา

ไจแอนสคอสเวย์(Giant’s Causeway) ไอร์แลนด์เหนือ สหราชอาณาจักร

ไจแอนสคอสเวย์ ภูมิประเทศสุดแปลกตาที่เกิดจากการรวมตัวของเสาหินบะซอลต์จำนวนมากอัดแน่นรวมกันจากเชิงหน้าผาสู่ท้องทะเล สลับซับซ้อนคล้ายขั้นบันไดดูเป็นภาพที่แปลกตาและสวยงามในเวลาเดียวกัน และบรรดาหินบะซอลต์แต่ละก้อนก็มีเหลี่ยมมีมุมที่ต่างกันออกไป ตั้งแต่สี่เหลี่ยมจนถึงแปดเหลี่ยมก็มีนับๆรวมแล้วก็ประมาณ 40,000 ต้น จนเข้าตาองค์การยูเนสโก ได้มีการรับรองให้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วในปี ค.ศ.1986

ปิรามิด หรือพีระมิด(Pyramid) ประเทศอียิปต์

หากพูดถึงสิ่งก่อสร้างที่ทำจากหินจะลืมนึกถึงปิรามิดไปได้อย่างไร ปิรามิด หรือพีระมิดสิ่งปลูกสร้างสุดอลังการที่ปัจจุบันยังคงมีการค้นพบอย่างต่อเนื่อง ความน่าสนใจของปิรามิดคือเรื่องราวต่างๆของปิรามิดนั้นๆนั่นเอง เพราะวัตถุประสงค์หลักของปิรามิดก็คือเป็นสุสานของฟาโรห์ ภายในปิรามิดจึงมีเรื่องราวต่างบันทึกไว้ผ่านตัวหนังสือฮีโรกริฟฟิก หรือเฮียโรกลิฟฟิก(Hieroglyphics) ปิรามิดที่ขึ้นชื่อของอียิปต์ที่เป็นที่เลื่องลือมีหลายแห่ง หนึ่งในนั้นคือมหาพีระมิดแห่งกีซ่า(The Great Pyramid of Giza) เป็นที่ฝังพระศพของฟาโรห์ชื่อดังอย่างตุตันคาเมน เป็นสถานที่เที่ยวของประเทศอียิปต์ ที่ห้ามพลาดเด็ดขาด อียิปต์เป็นอีกหนึ่งประเทศที่น่าไปเที่ยวและนี่คือ 6 เหตุผลทำไมต้องไปอียิปต์

ปราสาทนครวัด(Angkor Wat) ประเทศกัมพูชา

นครวัด อีกหนึ่งความงดงามของสถาปัตยกรรมชิ้นเอกที่ปรากฏเด่นบนธงชาติของกัมพูชา ความอลังการงานสร้างของแรงงานคนนับแสน แรงงานช้างนับหมื่นที่ร่วมกันก่อร่างสร้างปราสาท แม้ผ่านกาลเวลามายาวนานแต่นครวัดก็ยังคงความสมบูรณ์ของตัวสถาปัตยกรรมได้เป็นอย่างดี

ภูเขารัชมอร์ หรืออนุสรณ์สถานแห่งชาติเขารัชมอร์(The Mount Rushmore National Memorial) ประเทศสหรัฐอเมริกา

ภาพหินที่สลักรูปหน้าประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกาคงคุ้นตาหลายท่าน อนุสรณ์สถานแห่งชาติเขารัชมอร์ เป็นการแกะสลักหินแกรนิตเป็นรูปประธานาธิบดีทั้งสี่ ได้แก่ จอร์จ วอชิงตัน, โทมัส เจฟเฟอร์สัน, ทีโอดอร์ รูสเวล และ อับราฮัม ลินคอล์น ซึ่งเป็นประธานาธิบดีชื่อดังในช่วงยุคแรกๆของประวัติศาสตร์สหรัฐอเมริกา ใครอยากใกล้ชิดบุคคลสำคัญทางประวัติศาสตร์ก็แวะมาที่นี่ อนุสรณ์สถานแห่งนี้ตั้งอยู่บริเวณ แบลค ฮิลล์ ของมลรัฐเซาท์ดาโกตา (Black Hills of South Dakota)

เพตรา(Petra) ประเทศจอร์แดน

เพตรา 1 ใน เจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคใหม่ และแหล่งมรดกโลกสำคัญเป็นนครโบราณที่ซ่อนตัวกลางหุบเขาของประเทศจอร์แดน และถือว่าเป็นมรดกโลกที่สวยงามและสำคัญของโลกเลยก็ว่าได้ สถาปัตยกรรมนี้ถูกสร้างมาจากการแกะสลักหินเข้าไปในหุบเขา เพตราเคยเป็นเมืองที่รุ่งเรืองในช่วงอดีตก่อนคริสตกาลจนถึงคราวล่มสลายและถูกลืมเลือนในเวลาต่อมา แต่หลังจากมีการค้นพบอีกครั้งก็เป็นที่จับตามองของทั่วโลกจนถึงขั้นมีการนำเมืองเพตราไปประกอบเป็นฉากหลังของภาพยนตร์ดังหลายเรื่อง

มาชูปิกชู(Machu Picchu) ประเทศเปรู

มาชูปิกชู เมืองสาบสูญแห่งอินคา เมืองโบราณสำคัญของชาวอินคาที่อยู่สูงเหนือระดับน้ำทะเลกว่า 2,430 เมตร 1 ในมรดกโลกที่ขึ้นทะเบียนโดยยูเนสโก และในปี 2550 ก็ได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคใหม่ อ่านต่อ Machu Picchu เมืองสาบสูญแห่งอินคา

สโตนเฮนจ์(Stonehenge) ประเทศอังกฤษ

สโตนเฮนจ์ สถานที่สุดมหัศจรรย์ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปี ค.ศ.1986 ตั้งอยู่บริเวณกลางทุ่งราบกว้างใหญ่บนที่ราบซาลีสเบอร์รี(Salisbury Plain) เป็นกลุ่มก้อนของก้อนหินขนาดใหญ่ที่มีการจัดเรียงวางเป็นทรงกลมหลายชั้น มีข้อสันนิษฐานมากมายถึงวัตถุประสงค์ในการสร้างแต่ก็ยังไม่มีใครล่วงรู้ว่าสร้างมาด้วยเหตุผลอะไรรวมทั้งกรรมวิธีการสร้างก็ยังคงเป็นปริศนาเพราะเครื่องไม้เครื่องมือในสมัยนั้นไม่น่าจะยกหินที่มีน้ำหนักหลายตันขึ้นได้

คัปปาโดเกีย(Cappadocia) ประเทศตุรกี

คัปปาโดเกียแลนด์มาร์คสุดมหัศจรรย์มีอีกหนึ่งฉายาเก๋ๆ ว่า "ปล่องนางฟ้า" โดยความแปลกของพื้นที่แห่งนี้เกิดจากการทับถมกันของลาวาที่ทับซ้อนกันจนเป็นรูปทรงแปลกตา และที่มหัศจรรย์ไปกว่านั้นคือมนุษย์ยุคโบราณได้เข้าไปอาศัยอยู่ตามถ้ำที่เกิดจากหินเหล่านี้กลายเป็นแหล่งชุมชนเป็นเมืองที่มีเอกลักษณ์ ในปัจจุบันมีการจัดเป็นโรงแรมแบบถ้ำให้นักท่องเที่ยวเข้าพักเพื่อสัมผัสชีวิตชาวถ้ำกันอีกด้วย กิจกรรมที่ห้ามพลาดสำหรับการมาเที่ยวคัปปาโดเกียคือการขึ้นบอลลูนในยามเช้าชมความสวยงามของคัปปาโดเกีย นับเป็น 1 ใน 7 เรื่องที่ต้องทำเมื่อไปตุรกี เลยทีเดียว สำหรับท่านใดที่กลัวความสูงไม่ต้องกังวลใจเพราะมันไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด บอลลูนค่อนข้างนิ่งและเมื่อขึ้นไปอยู่บนนั้นแล้วมันดีจริงๆนะดีแค่ไหนลองคลิกอ่าน แชร์ประสบการณ์ครั้งแรกของการขึ้นบอลลูนที่ตุรกี ประกอบการตัดสินใจก่อนก็ได้ แต่การจะได้ขึ้นบอลลูนหรือไม่ก็ต้องขึ้นอยู่กับสภาพอากาศในวันนั้นๆด้วยว่ามีความปลอดภัยเพียงพอหรือไม่ ตุรกีเที่ยวได้ตลอดทั้งปีสามารถเช็คช่วงเวลาของฤดูกาลได้ว่า เที่ยวตุรกีช่วงไหนดี นอกจากเราจะได้ชื่นชมความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติของคัปปาโดเกียแล้วที่ตุรกีก็ต้องไม่พลาดกับ 17 สถานที่ต้องห้ามพลาดเมื่อไปตุรกี ด้วยนะ สำหรับสายช้อปทั้งหลายบอกเลยว่าที่ตุรกีช้อปสนุกมากว่าแต่ที่ตุรกีมีอะไรน่าซื้อบ้างคลิกอ่านที่นี่เลย ช้อปอะไรในตุรกี และเมื่อไปถึงตุรกีแล้วต้องลองกับ 8 เมนูห้ามพลาดเมื่อไปตุรกี โดยเฉพาะเมนูขนมหวานจานหนึ่งที่ต้องลองและห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวงนั่นคือ โยเกิร์ตน้ำผึ้งดอกฝิ่นของหวานที่ต้องกินเมื่อไปตุรกี อร่อยจริงๆ นะติดใจมากอยากกินอีก รวมไปถึง มะเดื่อผลไม้หวานอร่อยของตุรกี ก็ต้องลองเช่นกัน และเสน่ห์อีกอย่างเมื่อไปตุรกีก็คือการได้สัมผัสกับบรรยากาศของการดื่มด่ำ Turkish Coffee กาแฟตุรกี แม้ตุรกีไม่ได้ปลูกกาแฟเอง แต่วิธีการชงและอุปกรณ์ที่ใช้เป็นจุดเด่นของการกินกาแฟที่ตุรกีเขาเลย

ทัชมาฮาล(Tajmahal) ประเทศอินเดีย

ทัชมาฮาล อนุสรณ์สถานแห่งความรักที่สร้างจากหินอ่อนสีขาวนวลสวยงามเป็นทั้ง 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก และยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกอีกด้วย ตำนานของอนุสรณ์สถานแห่งนี้เป็นที่เลื่องลือเกี่ยวกับความรักของสมเด็จพระจักรพรรดิชาห์ชะฮัน และพระมเหสี ความรักของทั้ง 2 ที่มีความตายมาเป็นอุปสรรคจึงทำให้พระจักรพรรดิชาห์ชะฮันตรอมใจอย่างหนัก และได้รับสั่งให้สร้างทัชมาฮาลขึ้นนั่นเอง จนถึงในวาระสุดท้ายของชีวิตพระองค์ก็ได้มองเห็นเงาของทัชมาฮาลเพื่อระลึกถึงนางอันเป็นที่รักของพระองค์ผ่านเศษกระจก ทัชมาฮาลจึงเป็นหนึ่งในสถานที่ห้ามพลาดเมื่อไปอินเดีย

กองหินคัลลานิช(Callanish Stone) ประเทศสกอตแลนด์

กองหินคัลลานิช(Callanish Stone) กองหินแห่งเกาะลูอีส(Lewis) ของสกอตแลนด์มีอายุหลายพันปีคาดว่าเกิดก่อนสโตนเฮนจ์เสียอีก มีลักษณะเด่นเป็นเสาหินตั้งตรงยาวเรียวเรียงตัวกันเป็นวงกลมสร้างจากหินหลายตันที่ลากจากผืนดินเป็นระยะทางหลายไมล์ตั้งอยู่บนยอดเขามีทิวทัศน์ของทะเลสาบ หินเหล่านี้ผ่านแรงลมฝนมาเป็นระยะเวลาหลายพันปี แม้จะผ่านเวลามายาวนานมันก็ยังคงทน เนื้อหินมีความละเอียดอ่อน มีรูปร่างไม่เปลี่ยนแปลง เสาหินหลักมี 13 ต้น ความสูง 13 เมตร ส่วนเสาหินอื่นมีความสูงเฉลี่ย 1-5 เมตร วิธีจัดแนวการวางหินเหล่านี้สอดคล้องกับวัฎจักรของดวงจันทร์ คาดว่าเป็นเครื่องบอกการโคจรของดวงจันทร์ในสมัยโบราณ กองหินคัลลานิชเป็นโลเคชั่นถ่ายทำซีรีส์ดังของ Netflix เรื่อง “Outlander” ซีรีส์ดราม่าอิงประวัติศาสตร์อันยาวนานเกี่ยวกับประเทศสกอตแลนด์ นางเอกเดินทางย้อนเวลากลับไปผ่านกองหินคัลลานิช ในซีรีส์ใช้ชื่อว่า "Craigh na dun" ที่สำคัญกองหินคัลลานิชบนเกาะลูอีสประเทศสกอตแลนด์แห่งนี้เป็นสถานที่ที่ท่านสามารถชมความระยิบระยับของแสงออโรร่า(Aurora Borealis) ในวันที่ฟ้าเปิดอีกด้วย คลิกอ่าน 10 ประเทศ แสงเหนืองแรงแทงตา