กรีซ(Greece) ดินแดนแห่งประวัติศาสตร์ สถาปัตยกรรม วัฒนธรรม ที่มีชื่อเสียงระดับโลก มีประวัติศาสตร์อันยาวนานนับพันปีเป็นแหล่งกำเนิดอารยธรรมตะวันตก และยังเป็นที่ตั้งของสถานที่สำคัญๆ ในตำนาน อีกทั้งประเทศนี้มีเกาะเล็กเกาะน้อยมากมายเป็นประเทศที่เต็มไปด้วยภูมิประเทศอันน่าทึ่ง กรีซเป็นจุดหมายปลายทางในฝันของใครหลายคน สำหรับบางท่านการเดินทางท่องเที่ยวกรีซ อาจจะเป็นการวางแผนเพื่อทำกิจกรรมพิเศษครั้งหนึ่งในชีวิต เช่น ฮันนีมูน หรือวันครบรอบวันสำคัญๆ ต่างๆ เพื่อให้การวางแผนใช้วันพักผ่อนเฉลิมฉลอง เติมช่วงเวลาดีๆให้สมบูรณ์ และสร้างความทรงจำที่ดี ฟรีเบิร์ด ทราเวิล แอนด์ ทัวร์ อยากแนะนำสิ่งที่พลาดไม่ได้เมื่อมาเที่ยวกรีซ รับรองแฮปปี้ตลอดทริปแน่นอน

1. ย้อนเวลาหาอดีต เยือนสถาปัตยกรรมโบราณ

กรีซ(Greece) มีประวัติศาสตร์ทางวัฒนธรรมที่ร่ำรวยที่สุดแห่งหนึ่งของโลก การมาเที่ยวกรีซจะไม่สมบูรณ์แบบ หากไม่ได้ท่องเที่ยวสถานที่ที่มีชื่อเสียงทางประวัติศาสตร์ ได้ชมศิลปะที่เกิดจากซากปรักหักพังที่มีมนต์ขลังตั้งตระหง่านเป็นของขวัญจากอดีตอันทรงคุณค่า ควรค่าแก่การเยี่ยมชมสักครั้งในชีวิต เช่น “อะโครโปลิส”(Acropolis of Athens) บนยอดเขาในกรุงเอเธนส์ สถานที่ทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญแห่งหนึ่งของกรีซ มีโครงสร้างได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี

“วิหารพาร์เธนอน”(Parthenon) สถาปัตยกรรมที่สำคัญแห่งหนึ่งในยุคกรีกโบราณ ยืนหยัดผ่านกาลเวลามาเนิ่นนานเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองเทพีอธีนา สัมผัสความยิ่งใหญ่อลังการของวิหารที่แม้ว่าปัจจุบันจะเหลือแค่เพียงโครงสร้างหลักคือเสาและคานแต่ตัววิหารนั้นโดดเด่นด้วยเสากลมสูงขนาดใหญ่ที่มีหัวเสาแบบไอโอนิคอันงดงาม

“วิหารอิเร็คธีอุม”(Erechtheum) ความโดดเด่นของเสาที่มีรูปแกะสลักหญิงสาว 6 คนยืนเรียงรายเป็นเสาค้ำยันวิหาร

“วิหารโพไซดอน”(Temple of Poseidon) โบราณสถานแห่งนี้สร้างบนเขาสูง สร้างเพื่อบูชาเทพเจ้าแห่งท้องทะเล

“เดลฟี”(Delphi) ชาวกรีกโบราณเชื่อว่าเดลฟีที่ตั้งอยู่บนเนินเขาปาร์นัสซัส(Mount Parnassus) เป็นศูนย์กลางของโลกหรือสะดือโลก ทิวทัศน์ที่ทอดยาวเหนือสวนมะกอกอันเขียวขจี

2. ชมอารามลอยฟ้าบนผาหิน “เมทิโอร่า”(Meteora)

เมทิโอร่า(Meteora) ศาสนสถานของชาวคริสต์นิกายออโธด็อกซ์ ตั้งตระหง่านบนกลุ่มหินทรายแนวตั้งเขาสูงขนาดใหญ่ ซึ่งเต็มไปด้วยกลุ่มภูเขาหินที่ถูกเสกสรรโดยลม และน้ำเป็นเวลาหลายพันปีกลายเป็นรูปทรงแปลกตา

นับเป็นสถานที่อะเมซิ่งมีความงดงามเฉพาะตัวไม่เหมือนที่ใด และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติ และวัฒนธรรมจาก องค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือยูเนสโก(UNESCO) ในปี ค.ศ.1988 หากได้มาเที่ยวกรีซ “เมทิโอร่า” อารามลอยฟ้านี้ เป็นสถานที่ควรค่าแก่การเยี่ยมชมอย่างยิ่ง คลิกอ่าน เมทิโอร่า(Meteora) มรดกโลกลอยฟ้า

3. ชมกังหันลม แลนด์มาร์คเด่น เกาะมิโครนอส

กังหันลมโบราณไม่เป็นเพียงสัญลักษณ์ของมิโคนอสเท่านั้น แต่ยังเป็นตัวแทนของกรีซอีกด้วย เป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์ของเกาะนี้มาหลายศตวรรษ

ในอดีตกังหันลมใช้เพื่อบดข้าวสาลี และธัญพืชอื่นๆ ซึ่งเป็นแหล่งรายได้หลักสำหรับผู้คนที่อาศัยอยู่ในเกาะมิโคนอส ด้วยกระแสลมแรงพัดตลอดทั้งปีของเกาะมิโคนอส กังหันลมโบราณจึงสร้างประโยชน์ให้ชาวเกาะได้มากและยังสร้างรายได้ให้คนท้องถิ่นมิใช่น้อย ปัจจุบันกังหันลมเหล่านี้ไม่ได้เปิดใช้งานแต่กลายเป็นสัญลักษณ์ของอดีตอันมั่งคั่งของเกาะมิโคนอส กังหันลมสีขาวอาคารทำด้วยหินสูง 3 ชั้นประตูหน้าต่างทำจากไม้ทาสีสดใส หลังคามุงจากทอดยาวไปตามทะเลเอเจียน โดดเด่นตัดกับท้องฟ้าสีครามและน้ำทะเลสีฟ้า กังหันลมที่เกาะมิโคนอสแห่งนี้ ได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดีจนถึงปัจจุบัน และแน่นอนเป็นสิ่งหนึ่งที่ห้ามพลาดหากไปเที่ยวกรีซ คลิกอ่าน พาเที่ยวเกาะมิโคนอส เกาะสวรรค์ที่กรีซ

4. มากช็อต หลากลีลา กับวิวปังน่ากด Like

กรีซ ดินแดนแห่งคนรักการถ่ายภาพ เป็นประเทศที่มีแลนด์มาร์คสำคัญๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นสถาปัตยกรรมเก่าแก่ โบราณสถานอันทรงคุณค่า ภาพวิวทิวทัศน์ ความงดงามของท้องทะเลสีฟ้า ภาพบ้านเรือนสีขาวตั้งอยู่บนเนินเขาลดหลั่นกันอย่างมีเสน่ห์ ทัศนียภาพเปลี่ยนไปเมื่อดวงอาทิตย์เปลี่ยนตำแหน่ง ภาพเดิมแต่ให้ความรู้สึกและแสงสีไม่เหมือนเดิม ทำให้ความรู้สึกไม่น่าเบื่อ

แม้ว่าคุณอาจจะไม่มีทักษะการถ่ายภาพ หรือ การโพสท่า กรีซสามารถชดเชยการขาดทักษะของคุณได้เพราะทุกซอกทุกมุมของทุกสถานที่ต่างๆ เต็มไปด้วยโอกาสที่จะลั่นชัตเตอร์หรือโพสท่า ไม่พลาดที่จะได้รูปสวยๆกลับมาอวดชาวโซเชียลได้เป็นแน่

5. ดื่มด่ำมนต์เสน่ห์แห่งอาทิตย์อัสดง ที่ซานโตรินี

จุดชมวิวอาทิตย์อัสดง หรือจุดชมพระอาทิตย์ตกดิน เป็นช่วงเวลาสุดแสนโรแมนติก การได้มาเที่ยวกรีซ ได้ชมพระอาทิตย์ตกดิน นับเป็นกิจกรรมที่ห้ามพลาดโดยเด็ดขาด

จุดชมพระอาทิตย์ตกในประเทศกรีกนั่นมีหลายแห่ง แต่สถานที่มีชื่อเสียงดึงดูดผู้คนทั่วโลกก็หลีกไม่พ้นที่หมู่บ้านเอีย(Oia Village) เป็นหมู่บ้านที่ตั้งอยู่บนหน้าผา บนเกาะซานโตรินี(Santorini Island)

การได้นั่งดูพระอาทิตย์ค่อยๆ ลับขอบฟ้าตกสู่ท้องทะเลเอเจียน ท้องฟ้าแผ่เป็นสีทอง สีส้มแดง เจิดจ้าอร่ามตัดกับอาคารที่ทาด้วยสีขาวที่มีโดมสีฟ้าสดใส ดื่มด่ำกับมนต์เสน่ห์รอบตัวช่างเป็นช่วงเวลาที่น่าจดจำที่สุดในชีวิต คลิกอ่าน OIA ไปกรี๊ดกันที่กรีซ

6. ลิ้มรสอาหารอิ่มท้อง มองวิวอิ่มตา

ประเทศกรีซ ไม่ได้มีดีแค่เรื่องราวของประวัติศาสตร์ และสถานที่สวยงามตามธรรมชาติเท่านั้น อาหารกรีกยังมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักของคนทั่วโลกอีกด้วย การได้มาท่องเที่ยวกรีซ ได้รับประทานอาหารอร่อยๆ โดยเฉพาะอาหารท้องถิ่นสไตล์กรีกที่มีให้เลือกหลากหลาย คลิกอ่าน เมนูต้องห้ามพลาดเมื่อไปกรีซ ไม่ใช่เพียงแค่รสชาติอาหารที่ยอดเยี่ยมเท่านั้น บรรยากาศรอบข้างก็สำคัญไม่แพ้กัน

จะดีขนาดไหนถ้าได้รับประทานอาหารโฮมเมดสไตล์กรีกแสนอร่อยปรุงด้วยวัตถุดิบท้องถิ่นที่สดใหม่ จิบไวน์ท้องถิ่นคุณภาพสูงของกรีซ ที่ระเบียงริมหน้าผาบนโต๊ะอาหารที่ตกแต่งด้วยเก้าอี้ไม้สีฟ้าสีสันสดใสอันเป็นเอกลักษณ์ทำมุมเพื่อชมพระอาทิตย์ ท่ามกลางพาโนรามาวิว 360 องศา มองเห็นทะเลสีฟ้าครามรอบตัวเหนือท้องทะเลเอเจียน(Aegean Sea) ที่กว้างใหญ่ไพศาล ทำให้หัวใจพองโตได้เหมือนกัน หรือนั่งชิวๆ แบบoutdoor ริมถนนคนเดินดื่มด่ำบรรยากาศของผู้คนที่เดินผ่านไปมา ถือเป็นประสบการณ์ล้ำค่าไม่มีวันลืมได้เลยในชีวิต

7. เติมเต็มวิตามิน Sea ดีต่อใจ

กรีซ(Greece) เลื่องลือเรื่องประวัติศาสตร์โบราณนับพันปีนับเป็นมรดกอันทรงคุณค่า แต่ในอีกด้านหนึ่ง กรีซมีกลุ่มเกาะสวยงามมากมายโดดเด่นไม่แพ้กัน แต่ละเกาะล้วนมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว บางเกาะเป็นเกาะยอดนิยมที่ผู้คนจากทั่วโลกมาเยือนทุกปี

ประเทศกรีซเป็นประเทศที่ได้รับแสงแดดประมาณ 300 วันต่อปี ดวงอาทิตย์ส่องแสงเกือบตลอดทั้งปี แสงแดดที่กระทบผิวกระตุ้นให้ร่างกายสร้างวิตามินดี การได้ท่องเที่ยวกรีซที่เต็มไปด้วยแหล่งวิตามิน D และวิตามิน Sea ได้เพลิดเพลินไปกับหมู่เกาะแสนสวยไม่ว่าจะเป็นเกาะซานโตรินี(Santorini Island)

เกาะมิโครนอส(Mykonos Island), เกาะพารอส(Paros Island) , เกาะครีท (Crete Island), เกาะคอร์ฟู(Corfu Island),ไฮดรา(Hydra Island), เกาะโรดส์(Rhodes Island) และยังมีหมู่เกาะสวยงามอีกมายมาย อาจจะเป็นการยากในการตัดสินใจว่าจะไปเติมเต็มวิตามิน Sea เกาะไหนดี การได้สำรวจเกาะต่างๆ พร้อมทำ ทำกิจกรรมทางน้ำ เล่นเรือใบ ว่ายน้ำ ดำน้ำ น้ำทะเลที่ใสสะอาดตามแนวชายฝั่งที่งดงามของกรีซ นับเป็นสวรรค์ดีๆ ของคนมีทะเลในหัวใจกันเลยทีเดียว

8. เยี่ยมชมคลองคอรินท์

ตื่นตากับ “คลองคอรินท์”(Corinth Canal) คลองที่เป็นผลงานทางวิศวกรรมที่น่าทึ่งที่สุดของมนุษย์ในประเทศกรีซ คลองถูกแบ่งแยกเป็นหินขนาดใหญ่ 2 ท่อน เป็นคลองแคบๆ ที่เชื่อมต่อระหว่างอ่าวคอรินท์ และอ่าวซาโรนิกในทะเลเอเจียน ชมความยิ่งใหญ่ของคลองแห่งนี้หากได้นั่งเรือผ่านคลองคอรินท์จะพบความงดงามอลังการของผาหินขนาดใหญ่ ปัจจุบันยังใช้งานทางด้านเดินเรือ และยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวของประเทศกรีซอีกด้วย

9. เดินทอดน่อง สัมผัสเสน่ห์กรีซ

เมื่อได้มีโอกาศมาเที่ยวกรีซทั้งที สิ่งที่ต้องทำคือต้องเดินและเดิน เพื่อได้สัมผัสใกล้ชิดวัฒนธรรมท้องถิ่น เปิดมุมมองใหม่ เรียนรู้และสัมผัสวิถีชุมชน เดินเล่นชื่นชมกับบรรยกาศอันทรงเสน่ห์ ไม่ว่าจะเป็นที่เกาะซานโตรินี เกาะมิโคนอส สามารถเดินเล่นไต่บันไดที่ทอดยาว ไปตามตรอกซอกซอยแคบๆ ที่มีชีวิตชีวาเต็มไปด้วย ร้านสินค้าท้องถิ่นเก๋ไก๋ ของฝากกุ๊กกิ๊กน่ารัก ร้านอาหารกรีก

ไม้เลื้อยดอกเฟื่องฟ้าสีแดง ชมพู พาดผ่านผนังของอาคารสีขาวหลังคา และประตูทาสีน้ำเงิน อาคารที่ตั้งเรียงรายไปตามทางเดินที่คดเคี้ยวลดหลั่นกันอย่างมีเสน่ห์ เต็มไปด้วยกลิ่นอายของความเป็นเมดิเตอร์เรเนียน สร้างเสน่ห์เฉพาะตัวทำให้กรีซไม่เหมือนใคร

หรือท่านอาจเดินเที่ยวเล่น ย่านพลาก้า(Plaka) ย่านเก่าแก่ชื่อดังที่สุดแห่งหนึ่งตั้งอยู่เชิงเขาอโครโปลิส กรุงเอเธนส์ ตรอกซอกซอยปูด้วยหินก้อน มากมายด้วยร้านขายของที่ระลึก ร้านค้า ร้านกาแฟ ร้านบูติก คลิกอ่าน ชอปอะไรเมื่อไปกรีซ เป็นสถานที่พบปะสังสรรค์ เดินเล่นเพลิดเพลินกับงานแฮนด์เมดสไตล์กรีก

หากคุณกำลังมองหาประเทศที่พรั่งพร้อมไปด้วยประวัติศาสตร์ สถาปัตยกรรม ธรรมชาติ อาหาร และความแปลกตา กรีซ เป็นคำตอบของการเดินทางในครั้งนี้ ฟรีเบิร์ด ทราเวิล แอนด์ ทัวร์ ชวนคุณออกเดินทางไปสัมผัสกับประสบการณ์เติมช่วงเวลาดีๆ กับ 9 สิ่งห้ามพลาดเมื่อเที่ยวกรีซ