ประเทศอเมริกา(U.S.A) หรือ สหรัฐอเมริกา(United States of America) ประเทศที่ เหนือก็สวย ใต้ก็งาม ดินแดนที่อยู่ตรงกลางของอเมริกา(Central America) จะเหลืออะไร ไม่รอดพ้นความสวยงามแปลกสะดุดตานั่นเอง อเมริกากลาง เป็นดินแดนสวยงามที่เชื่อมระหว่างอเมริกาเหนือกับอเมริกาใต้ ล้อมรอบด้วยมหาสมุทรแปซิฟิก และทะเลแคริบเบียน เป็นพื้นที่ที่มีความหลากหลายทางธรรมชาติ ดินแดนแหล่งกำเนิดอารยธรรมนับพันปี มีการผสมผสานของวัฒนธรรมที่ซับซ้อน ซากปรักหักพังโบราณที่เก่าแก่มีเอกลักษณ์ ภูเขาไฟที่ยังคุกรุ่น ชายหาดที่สวยงาม การได้มีโอกาศสัมผัสความมหัศจรรย์ของประเทศที่มีเอกลักษณ์ และน่าเที่ยวแห่งอเมริกากลางย่อมเป็นประสบการณ์ที่ยากที่จะลืม ฟรีเบิร์ด ทราเวล แอนด์ ทัวร์ ชวนท่านได้สัมผัสกับ 7 สถานที่น่าเที่ยวแห่งอเมริกากลาง สถานที่ท่องเที่ยวสุดอันซีน

1.กัวเตมาลา(Guatemala)

กัวเตมาลา(Guatemala) หนึ่งในประเทศเล็กๆ แห่งหนึ่งในดินแดนอเมริกากลางที่มีความแตกต่างอย่างชัดเจน มีภูเขาไฟที่ยังคุกรุ่น ชายหาดสวยงาม ซากปรักหักพังของอารยธรรมมายาที่ในอดีตนั้นเคยยิ่งใหญ่ มีกาแฟที่มีชื่อเสียงระดับโลก

เมืองแอนติกัว(Antigua) เมืองที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปี ค.ศ.1979 เป็นเมืองที่รุ่งเรืองด้านวัฒนธรรม และประวัติศาสตร์เป็นอย่างยิ่ง ในอดีตเคยเป็นเมืองหลวง ของประเทศกว่า 200 ปี แต่ได้อพยพย้ายเมืองหลวงไปที่ใหม่เนื่องจากประสบภัยพิบัติทางธรรมชาติจากแผ่นดินไหวอย่างหนัก ในช่วงที่สเปนเข้ามายึดครองดินแดนแถบนี้ได้มีการสร้างสิ่งปลูกสร้างไว้มากมายในเมือง ไม่ว่าจะเป็น หมู่อาคารแบบโคโลเนียล, โบสถ์คาทอลิก และสถาปัตยกรรมแบบบารอค สิ่งที่ท่านไม่ควรพลาดสำหรับการมาเยือนเมืองแห่งนี้คือการถ่ายรูปกับซุ้มประตูซานตา แคทารีนา(The Arch of Santa Catalina) อันเลื่องชื่อที่มีฉากหลังเป็นภูเขาขนาดใหญ่

อุทยานแห่งชาติกัล(Tikal National Park) อุทยานโบราณสถานอีกหนึ่งแห่งของทวีปอเมริกากลาง ที่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปี ค.ศ.1979 และยังถือเป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวที่มาอเมริกากลางห้ามพลาด ด้วยความสวยงามของธรรมชาติ และความเก่าแก่ของโบราณสถานของชาวมายันโบราณ ที่เรียงรายในความร่มรื่นของเงาป่าฝน ได้ฟิลลิ่งนักผจญภัยสุดๆ ในอดีตเมืองติกัลเคยเป็นที่อยู่อาศัยของชาวมายัน ตั้งแต่ศตวรรษที่ 6 ก่อนคริสตกาล และได้ถูกทิ้งร้างในภายหลัง แต่ถือว่าเป็นโบราณสถานของชาวมายันที่ยังคงมีความสมบูรณ์อยู่มาก

2.นิคารากัว(Nicaragua)

นิคารากัว(Nicaragua) ประเทศที่เต็มไปด้วยวัฒนธรรม และธรรมชาติ ภูเขาไฟสูงตระหง่าน มีมนต์เสน่ห์แห่งยุคอาณานิคม

เมืองกรานาดา(Granada) เป็นศูนย์กลางที่เก่าแก่ และมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์แห่งหนี่งของประเทศ ยังคงกลิ่นอายของสเปนในยุคอาณานิคม มีสถาปัตยกรรมยุคอาณานิคมที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี

โบสถ์เก่าแก่ วิหารกรานาดา (Granada Cathedral)

โบสถ์ Guadalupe, Leon Cathedral ป้อมปราการของสเปนในอดีต, ภูเขาไฟมาซายา(Masaya Volcano) ที่ยังคุกรุ่นอยู่

เมืองเลออง(Leon) อดีตเคยเป็นเมืองหลวงอันรุ่งโรจน์ของประเทศนิการากัว เลออง(Leon) เป็นเมืองที่ได้รับการขึ้นทะเบียนจากยูเนสโก(UNESCO) หรือองค์การเพื่อการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ ให้เป็นเมืองมรดกโลก

ภายในเมืองจะมีสิ่งปลูกสร้างมากมายที่ควรค่าแก่การขึ้นทะเบียนไม่ว่าจะเป็นบรรยากาศความเก่าแก่ของอาคารบ้านเรือน มีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจหลากหลายแห่งที่ให้อารมณ์แบบเมืองเก่า ไม่ว่าจะเป็นโบสถ์ประจำเมือง(Main Church) ซึ่งได้รับการขนานนามว่าเป็น “โบสถ์ที่ใหญ่ที่สุดในอเมริกากลาง”(Largest Church in Central America)

3.ปานามา(Panama)

ปานามา(Panama) มีพรมแดนติดทะเลแคริบเบียน และทางใต้ติดกับมหาสมุทรแปซิฟิก ทำให้มีชื่อเสียงชายหาดที่มีแนวปะการังที่งดงาม ปานามามีความหลากหลายมากที่สุดประเทศหนึ่ง มีวัฒนธรรมที่มีชีวิตชีวาผสมผสานกันอย่างลงตัวระหว่างความเจริญเติบโตแบบสากลของเมือง และสถาปัตยกรรมของชนพื้นเมืองที่เก่าแก่อันทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์

ปานามาซิตี้(Panama City) เมืองหลวงเมืองใหญ่ที่สุดของปานามา เมืองที่มีชีวิตชีวา ดูเป็นสากลมีตึกสูงระฟ้าสมัยใหม่จำนวนมาก

ปานามานั้นมีความหลากหลาย รวมถึงงานหัตถกรรมที่มีความหลากหลายน่าซื้อเป็นของฝากของที่ระลึกเมื่อครั้งได้มีโอกาสเที่ยวปานามา

4.เอล ซัลวาดอร์(El Savador)

เอล ซัลวาดอร์(El Savador) เป็นประเทศที่มีพรมแดนติดกับกัวเตมาลา และฮอนดูรัส นิคารากัว เป็นดินแดนของชาวสเปนที่เคยตั้งรกรากเมื่อในอดีต

เอล ซัลวาดอร์(El Savador) แม้จะเป็นประเทศที่เล็กสุดในอเมริกากลาง แต่เมืองหลวงของประเทศนี้อย่างเมืองซาน ซัลวาดอร์(Sal Savador) มีความสำคัญของภูมิภาคอเมริกากลางไม่น้อย เมืองซาน ซัลวาดอร์(Sal Savador) เมืองหลวงของประเทศเอลซัลวาดอร์(El Salvador) เดิมเป็นเมืองที่มีอาคารบ้านเรือนที่มีสถาปัตยกรรมแบบสเปนอยู่มาก แต่ได้ถูกทำลายจากภัยธรรมชาติอย่างแผ่นดินไหว ทำให้หลงเหลืออยู่ไม่กี่แห่งในเมือง ซึ่งหนึ่งในนั้นจะมีโบสถ์ประจำเมือง Metropolitan Cathedral of San Salvador

โฮยา เด เซเรน(Joya de Ceren) เมืองโบราณสำคัญของชนเผ่ามายา ที่เคยรุ่งเรืองอยู่ทางแถบทวีปอเมริกากลาง และอเมริกาใต้ โฮยา เด เซเรน มีอีกชื่อนึงก็คือ “เมืองปอมเปอีของชาวมายัน(Mayan Pompeii)” ชื่อนั้นมาจากการล่มสลายที่คล้ายๆ กันกับเมืองปอมเปอีในอิตาลี คือ การปะทุ และพ่นลาวาของภูเขาไฟคาลเดอร่า(Caldera volcano) เมื่อ 1,400 ปีก่อน ภายในพื้นที่เมืองโบราณนั้นได้มีการแสดงโบราณวัตถุต่างๆ มีบ้านเมือง และสิ่งปลูกสร้างโบราณตามสถาปัตยกรรมโบราณแบบชาวมายัน สามารถซึมซับความเป็นอยู่ของชนเผ่ามายาได้อย่างเต็มที่ ด้วยความเก่าแก่ และโบราณของเมืองโฮยา เด เซเรน จึงได้รับการขึ้นทะเบีบนจากองค์การเพื่อการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือ ยูเนสโก(UNESCO) ให้เป็นเมืองมรดกโลก ในปี ค.ศ.1993

เมืองซูชิโตโต(Suchitoto) โบสถ์แซนตาลูเซีย(Santa Lucia Church)

5.คอสตาริกา(Costa Rica)

คอสตาริกา(Costa Rica) ประเทศที่ทางใต้มีพรมแดนติดกับปานามา ทิศเหนือจรดนิคารากัว ตะวันตกติดมหาสมุทรแปซิฟิก ตะวันออกติดมหาสมุทรแอตแลนติก เมืองหลวงคือ ซานโฮเซ(San Jose) ซึ่งมีความสวยงามทางสถาปัตยกรรม และวัฒนธรรมที่น่าสนใจคอสตาริกา เป็นประเทศที่มีแหล่งภูเขาไฟที่รวมความสมบูรณ์แบบ มีทั้งความสวยงามของธรรมชาติ ความยิ่งใหญ่ของภูเขาไฟ ความทรงพลัง ในอดีตเคยมีการปะทุครั้งใหญ่ซึ่งหลังจากการประทุครั้งนั้นก็ทำให้ภายรอบๆ ของภูเขาไฟนั้นทำให้เกิดป่าฝนที่อุดมสมบูรณ์ขึ้นเป็นวงกว้าง

คอสตาริกายังเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศที่มีความหลากหลาย ตอบโจทย์ ผู้ที่ชื่นชอบธรรมชาติ มีป่าฝนที่อุดมสมบูรณ์ มากมายด้วยสัตว์ป่าจำนวนมาก มีกิจกรรมกลางแจ้งมากมายให้ท่านได้สัมผัส

อีกทั้งคอสตาริกา ยังมีไร่กาแฟอันกว้างใหญ่ปลูกกาแฟคอสตาริกาอันเลื่องชื่อ เป็นแหล่งเพาะปลูกกาแฟที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งในโลกด้วยเหตุเพราะมีภูเขาไฟหลายลูก ดินภูเขาไฟในคอสตาริกาจึงเป็นแหล่งผลผลิตที่ดี ตลอดเส้นทางจะพบเห็นไร่กาแฟขนาดใหญ่ กาแฟที่คอสตาริกายังเป็นพืชเศรฐกิจหลังที่ส่งออกไปทั่วโลก

6.เบลิซ(Belize)

เบลิซ(Belize) มีสถานที่ไฮไลท์โดดเด่น มีแนวปะการังที่งดงาม หลุมน้ำเงินคราม แห่งเบลิซ(The Great blue hole) หนึ่งในสถานที่สุดอันซีนไม่กี่ที่ที่ตั้งอยู่บนโลกของเรา หลุมรูปทรงวงกลมที่ล้อมรอบด้วยแนวหิน และปะการังที่งดงาม เป็นหลุมน้ำเงินครามเป็นที่สนใจของนักท่องเที่ยวมิใช่น้อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากมองจากมุมสูง โดยท่านสามารถนั่งเครื่องบินเล็กชมหลุมแห่งนี้ เป็นภาพที่สวยงาม และยังเป็นอีกจุดดำน้ำที่นักดำน้ำทั่วโลกปักหมุดมาท้าทายความสามารถกันเป็นจำนวนมาก หลุมน้ำเงินคราม(The Great Blue Hole) ยังได้รับการขึ้นทะเบียนจากยูเนสโก(UNESCO) หรือ องค์การเพื่อการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ

7.ฮอนดูรัส(Honduras)

ฮอนดูรัส(Honduras) อาจดูไม่โดดเด่นเหมือนประเทศอื่นๆ ทางแถบอเมริกากลาง แต่สิ่งที่โดดเด่นที่สุดของประเทศนี้คือเป็นเมืองที่มีโบราณสถานสำคัญของอารยธรรมมายาโบราณ มีอายุกว่า 2,000 ปีมาแล้ว เมืองโคปัน(Copan) เมืองที่มีการสันนิษฐานว่าเคยเป็นเมืองหลวงของอาณาจักรมายามาก่อน มีสิ่งปลูกสร้างที่โดดเด่นหลายอย่างที่แสดงถึงความรุ่งเรือง ทั้งพีระมิดเพื่อบูชาเทพเจ้า รูปปั้นที่เป็นเอกลักษณ์ ซากปรักหักพังที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ เมืองโคปัน(Copan) ยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากยูเนสโก(UNESCO) หรือองค์การเพื่อการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ

หากกำลังมองหาสถานที่ท่องเที่ยวอันซีน หรือชอบเที่ยวนอกกระแส รับรองได้ว่า อเมริกากลาง ตอบโจทย์ของนักท่องเที่ยวที่แสวงหาความแปลกใหม่แน่นอน ฟรีเบิร์ด ทราเวิล แอนด์ ทัวร์ ชวนคุณเปิดเส้นทางใหม่ ทัวร์นอกกระแส กับทัวร์อันซีนอเมริกากลางที่จะทำให้คุณหลงรักสถานที่เหล่านี้ในทุกๆ วัน